อาหารตามประเพณีของสกอตแลนด์
สำหรับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศนั้น จะต้องพบเจอกับหลายๆสิ่งที่แตกต่างไปจากที่ประเทศบ้านเกิด และสิ่งหนึ่งที่ต้องเจอแน่นอนก็คือเรื่องของอาหารการกิน แต่ละประเทศล้วนมีอาหารประจำชาติของตนเองซึ่งมีเอกลักษณ์แตกต่างไปจากที่อื่นๆ การได้ลิ้มลองอาหารของประเทศอื่นก็นับเป็นสิ่งที่น่าสนใจ และเป็นประสบการณ์ที่ดีไม่น้อยเลย
รายการอาหารยอดนิยมและอาหารตามประเพณีที่ขึ้นชื่อของสกอตแลนด์
อาหารเช้า
Full Scottish Breakfast
อาหารเช้าเต็มรูปแบบ ประกอบด้วยไส้กรอก, เบคอน, ไข่, ขนมปัง tattie scone (ขนมปังสโคนมันฝรั่ง), เห็ดย่าง, มะเขือเทศย่าง, ถั่วอบ, ขนมปังปิ้งทาเนย และของยอดนิยมของสกอตแลนด์อย่าง black pudding เป็นอาหารเช้าแบบครบเครื่องที่จะทำให้อิ่มได้นาน โดยทั่วไปแล้วจะเสิร์ฟในเวลาอาหารเช้า แต่ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาเช่นกันที่จะได้เห็นเมนูนี้อยู่ในรายการอาหารแบบ ‘all day’
Porridge
อาหารเช้าสไตล์สกอตจะถือว่าสมบูรณ์ไม่ได้เลยหากขาด porridge หรือข้าวโอ๊ตต้ม แต่เดิมจะทำโดยใช้ข้าวโอ๊ตบดต้มในน้ำและใส่เกลือเล็กน้อย คนด้วยไม้สำหรับทำข้าวโอ๊ตต้ม ซึ่งจะป้องกันไม่ให้ข้าวโอ๊ตจับตัวกันเป็นก้อน เสิร์ฟในชามขณะที่ยังร้อนอยู่ หลายคนนิยมทานโดยเติมนมและผลไม้แห้งและเพิ่มความหวานด้วยน้ำตาลทรายแดงเล็กน้อย
Kippers
ในระหว่างที่อยู่ในสกอตแลนด์ คุณอาจมีโอกาสได้ทาน kippers เป็นอาหารเช้าก็ได้ kippers คือปลาแฮร์ริ่งรมควัน ซึ่งชาวสกอตจะรับประทานเป็นอาหารเช้า ครั้งหนึ่งในสมัย Victorian และ Edwardian มันเคยได้อยู่ในเมนูอาหารเช้าหลักของอังกฤษด้วย ทำโดยการผ่าแยกตรงกลางตัวปลาตั้งแต่หัวจรดหาง แช่ในน้ำเกลือและนำไปรมควันโดยใช้ถ่านไม้ ด้วยความที่มีแคลอรีเพียง 125 แคลอรีต่อจาน และอุดมไปด้วยโปรตีน ทำให้ kippers ถือได้ว่าเป็นอาหารที่เหมาะจะรับประทานเมื่อเริ่มวันใหม่
ผลิตภัณฑ์และอาหารจานเนื้อ
Black Pudding
หลักๆแล้ว black pudding จะทำจากการผสมของ suet (ไขมันที่ได้จากวัว), ข้าวโอ๊ต, เลือด, ข้าวบาร์เลย์ และเครื่องเทศที่ผสมแบบพิเศษ คุณจะพบเห็นเมนูนี้บ่อยๆในอาหารเช้าที่เสิร์ฟในโรงแรมหลายๆแห่งที่มีบริการอาหารเช้า และเมื่อไม่นานมานี้มันได้กลายเป็นเมนูยอดนิยมในรายการอาหารระดับ top-class ตามร้านอาหารหลายแห่ง black pudding สามารถเข้ากันได้ดีกับเนื้อหมู, เนื้อไก่ และอาหารทะเล เช่นเดียวกันกับผลไม้บางชนิดอย่างลูกแพร์, แอปเปิ้ล และรูบาร์บ (rhubarb)
Haggis
อาหารประจำชาติของสกอตแลนด์เองก็เป็นพุดดิ้งประเภทหนึ่งที่มีรสชาติชวนให้ลิ้มลอง และกลายเป็นที่รู้จักผ่านทางบทกวี ‘Address to a Haggis’ ของนักกวีแห่งชาติอย่าง Robert Burns
Haggis นั้นมีที่มาเหมือนกันกับ black pudding มีส่วนประกอบหลักๆที่มาจากแกะ, หมูหรือวัว ผสมกับไขมันที่ได้จากวัว (suet), หัวหอมใหญ่, ข้าวโอ๊ตบด, เครื่องเทศ และเครื่องปรุงรส แต่เดิมจะนำไปต้มโดยห่อไว้ด้วยกระเพาะหรือไส้ของสัตว์ แต่ในปัจจุบันนี้จะนำไปใส่ในห่อที่มีลักษณะเป็นปลอกที่ทำขึ้นและมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย
ด้วยรสชาติที่เผ็ดเล็กน้อยและเนื้อสัมผัสของข้าวโอ๊ต ผู้คนจึงมักจะทานคู่กับผัก neeps หรือ tatties (มันฝรั่ง) แต่ตามร้านอาหารและผับหลายๆแห่งมักจะมี Haggis ในลักษณะที่แตกต่างหลายแบบ ตั้งแต่นำไปทำเบอร์เกอร์ไปจนถึงปั้นเป็นลูกกลมๆเหมือนกับขนม บางครั้ง Haggis จะถูกรวมอยู่ในเมนูอาหารเช้าด้วย หรือจะหาซื้อตามร้าน chip shop ก็ได้
Stovies
ส่วนประกอบหลักของอาหารจานนี้คือเนื้อสัตว์, หัวหอม และมันฝรั่ง มีลักษณะเป็นสตูว์ แต่เดิมจะทำขึ้นจากอาหารที่เหลือจากอาหารเย็นของวันอาทิตย์และมีวิธีทำที่แสนจะง่าย สูตรและส่วนผสมสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายแบบ ทั้งการใช้เนื้อไก่, เนื้อวัว, เนื้อแกะ หรือแม้แต่เนื้อวัวกระป๋องก็สามารถใช้ได้ บางครั้งจะใส่แครอทที่หั่นเป็นลูกเต๋าหรือลูก swede ด้วย มักจะเสิร์ฟคู่กับเค้กข้าวโอ๊ตหรือบีทรูทดอง
Lorne Sausage
Lorne Sausage บางครั้งจะเป็นไส้กรอกหั่นบางๆ หรือไส้กรอกสี่เหลี่ยม เป็นไส้กรอกที่ทำจากเนื้อหมูหรือเนื้อวัว ถูกทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมและหั่นบางๆเป็นแผ่นๆ นำไปย่างหรือทอด มักจะทานเป็นอาหารเช้าร่วมกับอย่างอื่นในเมนูอาหารเช้า หรือทานคู่กับขนมปัง soft roll
ขนมและของหวาน
Cranachan
ขนมหวานของชาวสกอตที่ประกอบด้วยราสเบอร์รี่สด, วิปครีม, น้ำผึ้ง และข้าวโอ๊ตอบแห้ง บางคนจะเติมวิสกี้เล็กน้อยเพื่อเพิ่มความอร่อย Cranachan เป็นขนมหวานยอดนิยมระดับที่เชฟชั้นยอดอย่าง Delia Smith และ Nigel Slater เคยได้นำเสนอสูตรและวิธีการเสิร์ฟที่เหมาะสม ในขณะที่ Jamie Oliver และ Heston Blummental ได้แนะนำสูตรการทำ Cranachan Sundae ไว้ด้วย
Atholl Brose
ไม่กี่ปีมานี้ Atholl Brose ได้กลายมาเป็นอีกชื่อหนึ่งของขนมยอดนิยมอย่าง Cranachan แต่ในบางครั้งก็จะหมายถึงค็อกเทลแบบดั้งเดิมของชาวสกอต เครื่องดื่มที่ตั้งชื่อตามเอิร์ลที่ 1 แห่ง Atholl ส่วนผสมหลายๆอย่างจะเหมือนกันกับ Cranachan เช่น น้ำผึ้ง, ครีม, วิสกี้ และน้ำข้าวโอ๊ต
Tablet
Tablet เป็นขนมดั้งเดิมของชาวสกอตที่ทำจากน้ำตาล, นมข้นหวาน และเนย ขนมแสนหวานนี้จะคล้ายกันกับฟัดจ์ (fudge) แต่เนื้อจะแข็งกว่าและมีเนื้อสัมผัสแบบเป็นเม็ดเล็กๆ (grainy) มักจะมีการเติมรสวานิลลาลงไป และในบางครั้งจะใส่ถั่วลงไปผสมด้วย
Shortbread
Shortbread เป็นขนมบิสกิตมีระดับที่ให้คุณได้ทานแบบเนื้อๆ ส่วนผสมหลักคือเนย โดยจะใส่เนยในปริมาณที่มากกว่าปกติ จึงทำให้มีเนื้อสัมผัสที่ร่วน ไม่แข็งแต่ก็ไม่นิ่มจนเกินไป เมื่อทานจะได้ความหอมของเนยมาก ในอดีตจะอบให้มีลักษณะเป็นรูปวงกลม แบน มีการใช้ส้อมจิ้มที่ผิวหน้าให้เป็นรูเล็กๆ และโรยน้ำตาลเล็กน้อย
Clootie Dumpling
Clootie Dumpling เป็นพุดดิ้งผลไม้เนื้อแน่นที่ทำจากแป้ง, เกล็ดขนมปัง, ผลไม้อบแห้ง (ลูกเกด sultana และ currant), ไขมันจากวัว, น้ำตาล, เครื่องเทศ, นม และในบางครั้งก็จะใส่น้ำเชื่อมไซรัปเพิ่มด้วย ขนมชนิดนี้เหมาะที่จะเสิร์ฟโดยราดครีมและวิสกี้เล็กน้อย
Fast food
Scotch Pie
เป็นขนมพายไส้เนื้อสัตว์สับละเอียดขนาดเล็ก มีขอบ 2 ชั้น พายดั้งเดิมของชาวสกอตนี้มีเปลือกด้านนอกที่ช่วยให้สามารถถือได้ขณะที่กำลังกินซึ่งทำให้มันได้รับความนิยมมากในร้านอาหารแบบซื้อกลับ, ร้านเบเกอรี่ และตามงานอีเว้นท์ต่างๆ เช่น การแข่งขันฟุตบอล
ปริมาณและคุณภาพของวัตถุดิบที่ผู้ทำพายแต่ละเจ้าใช้จะเป็นความลับ ซึ่งทำให้ขนมพายของแต่ละร้านจะมีลักษณะเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง
Bridie
Bridie หรือ Forfar Bridie เป็นขนมพายไส้เนื้อชนิดหนึ่ง มีถิ่นกำเนิดจากเมือง Forfar ไส้ของพายทำจากเนื้อวัวสับละเอียด, หัวหอมใหญ่ และเครื่องปรุงรส
Fish and chips
Fish and chips เป็นอาหารแบบซื้อกลับที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างหนึ่งของประเทศเลยทีเดียว ทำจากปลาคอดหรือปลา haddock ทอดแบบน้ำมันท่วม เสิร์ฟพร้อมกับมันฝรั่งแท่งทอด สามารถพบร้าน chip shop หรือที่เรียกว่า ‘chippies’ ได้ในแทบจะทุกเมืองทั่วประเทศ ร้านที่ดีดีมักจะอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลที่มักจะเห็นเรือหาปลาจอดเทียบท่าอยู่ ร้านจะทำตามออเดอร์ของลูกค้า เสิร์ฟร้อนๆ ซึ่งจะทำให้มีรสชาติที่อร่อยมาก
แหล่งข้อมูล: Visitscotland.com