25 สิ่งน่าอัศจรรย์และไม่เหมือนใครในสกอตแลนด์
สกอตแลนด์ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสหราชอาณาจักร เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าและตำนาน, ภูมิประเทศที่สวยงาม, ผู้คนอันเป็นมิตร และอื่นๆอีกมากมาย ในบรรดาสิ่งเหล่านี้ก็มีอยู่ 25 อย่างที่ถูกยกขึ้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสกอตแลนด์
1. สายการบินพาณิชย์ที่สั้นที่สุดในโลก
สายการบินพาณิชย์ของบริษัทสายการบิน Loganair ที่เดินทางระหว่างเกาะ Orkney Islands จากสนามบิน Westray ไปยังสนามบิน Papa Westray ทางเหนือของสกอตแลนด์เป็นระยะทาง 1.7 ไมล์หรือเทียบเท่ากับ 2.7 กิโลเมตร ในช่วงที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย การเดินทางจะใช้เวลาเพียงแค่ 47 วินาทีเท่านั้น
2. ถิ่นกำเนิดของกีฬากอล์ฟ
กอล์ฟในยุคปัจจุบันนี้มีถิ่นกำเนิดจากสกอตแลนด์ โดยแต่เดิมเป็น Old Course ของที่เมือง St Andrews ซึ่งตั้งอยู่ทางชายฝั่งทางตะวันออกของสกอตแลนด์ และถือว่าเป็นสถานที่แรกที่มีการเล่นกีฬาชนิดนี้ตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 15
3. ต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป
ในพื้นที่สุสานของโบสถ์ของหมู่บ้าน Fortingall ในเมือง Perthshire ของสกอตแลนด์ มีต้นยูที่คาดว่ามีอายุประมาณ 3,000 – 5,000 ปีซึ่งถือเป็นต้นไม้ที่มีอายุมากที่สุดในยุโรป ลำต้นของต้นยูมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 52 ฟุตหรือเท่ากับ 16 เมตร ในตอนนี้ต้นยูต้นนี้ยังคงมีสภาพสมบูรณ์แข็งแรงและคาดว่าน่าจะคงอยู่แบบนี้ไปอีกนาน
4. Haggis
อาหารประจำชาติของสกอตแลนด์ เป็นเหมือนพุดดิ้งรสเผ็ดที่ทำจากเครื่องในแกะสับละเอียดผสมกับหัวหอมข้าวโอ๊ตบด, ไขมันแกะ, เครื่องเทศและเกลือ ผสมกับน้ำสต๊อกแล้วนำไปห่อด้วยไส้แกะและนำไปตุ๋นประมาณ 3 ชั่วโมง มีการคาดเดาว่า Haggis น่าจะมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่สกอตแลนด์ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดที่จะช่วยยืนยันเรื่องนี้
5. วิสกี้สก็อต
หากนึกถึงสกอตแลนด์ คนส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึงวิสกี้ วิสกี้นั้นถือเป็นเครื่องดื่มประจำชาติของสกอตแลนด์มานานนับศตวรรษ (ตั้งแต่ปี 1494) และวิสกี้สก๊อตก็ได้รับการจัดอันดับให้เป็นวิสกี้ที่ดีที่สุดและผู้คนต้องการมากที่สุดของโลก
6. ปราสาท Caerlaverock
สกอตแลนด์นั้นมีชื่อในเรื่องของปราสาทแบบยุคกลางจำนวนมากที่ตั้งอยู่ทั่วไป มีการประมาณการว่ามีปราสาทอยู่กว่า 3,000 แห่งทั่วสกอตแลนด์ หนึ่งในปราสาทเหล่านั้นที่ตั้งอยู่ทางชายฝั่งด้านใต้คือปราสาท Caerlaverock ตัวปราสาทตั้งอยู่ในคูน้ำตามแบบฉบับของปราสาทสมัยโบราณและมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมซึ่งถือเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งหนึ่ง
7. หมู่เกาะของสกอตแลนด์
น้อยคนที่จะรู้ว่าสกอตแลนด์มีเกาะอยู่เกือบ 800 เกาะ และในจำนวนนั้นมีเพียง 100 เกาะเท่านั้นที่มีผู้คนอาศัยอยู่ ซึ่งเกาะอื่นๆที่เหลือนั้นยังคงมีสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติที่สวยงาม และมีสัตว์ตามธรรมชาติอาศัยอยู่ เช่นที่เกาะ Hebrides นั้นเป็นแหล่งอาศัยและผสมพันธุ์ของนกทะเลหลายสายพันธุ์ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์ที่มีมากที่สุดในโลกของนกแกนเน็ตด้วย
8. เสียงสะท้อนที่ยาวนานที่สุดในโลก
สถิติโลกของเสียงสะท้อนที่ยาวนานที่สุดเกิดในสถานที่ที่มนุษย์สร้างขึ้นเกิดขึ้นที่คลังน้ำมันเชื้อเพลิงใต้ดินใกล้กับ Invergordon ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียงสะท้อนที่บันทึกไว้กินเวลาทั้งหมด 112 วินาทีซึ่งนานกว่าที่ Guinness World Record เคยบันทึกไว้ที่ Hamilton Mausoleum ใน Lanarkshire ซึ่งอยู่ที่สกอตแลนด์เช่นเดียวกัน
9. Loch Ness Monster
ตำนานของ Loch Ness Monster เป็นหนึ่งในตำนานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก เกิดขึ้นที่ทะเลสาบ Loch Ness ใน Highlands ของสกอตแลนด์ บางคนเชื่อว่าเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ (ชื่อเล่น Nessie) เป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในน้ำ ตั้งแต่ปี 1933 เมื่อความสนใจในตัวเนสซี่ถูกจุดประกายขึ้น ก็มีการพบภาพถ่ายและวิดีโอจำนวนมากเกี่ยวกับเนสซี่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นของจริง
10. กระท่อม Burns
Robert Bunrs เกิดในปี 1759 ที่ Alloway เป็นนักกวีแห่งชาติของสกอตแลนด์ และเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิก Romantic movement ซึ่งมีการสรรเสริญธรรมชาติมากกว่าอารยธรรมที่โด่งดังไปทั่วโลก กระท่อมที่เขาเกิดหลังนี้ได้ถูกซ่อมแซมและปรับปรุงใหม่ และในตอนนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ Robert Burns Birthplace Museum แล้ว
11. Glenfinnan Viaduct
สะพานทางรถไฟ Glenfinnan ถูกสร้างขึ้นในปี 1898 บนเส้นทางรถไฟสาย West Highland Line ใน Glenfinnan เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถไฟและผู้ที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรม สะพานรถไฟสายนี้ถูกนำไปใช้เป็นฉากประกอบในภาพยนตร์ ละคร และซีรีย์หลายเรื่อง ทั้งเรื่อง Ring of Bright Water, Charlotte Gray, Stone of Destiny และ the Harry Potter
12. คิลต์ (Kilts)
กระโปรงพับจีบยาวถึงเข่านี้เป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของสกอตแลนด์ ซึ่งนี่เป็นการแต่งกายตามแบบประเพณีดั้งเดิมของผู้ชายและเด็กชายใน Highlands ในช่วงศตวรรษที่ 16 คิลต์นั้นถือเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมท้องถิ่นและเป็นมรดกตกทอดของชาว Gaelic (คนในท้องถิ่น) ในปัจจุบันจะมีการใส่คิลต์เฉพาะในโอกาสพิเศษ หรืองานที่เป็นทางการ และในเทศกาลพื้นบ้านเท่านั้น
13. ปราสาท Edinburgh
ตั้งอยู่สูงกว่าตัวเมือง Edinburgh ซึ่งเป็นเมืองหลวง ปราสาทหลังนี้เป็นปราสาทที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดของสกอตแลนด์ ครอบครองเส้นขอบฟ้ามาเป็นเวลาหลายร้อยปี ที่ปราสาทหลังนี้นั้นเป็นสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ขึ้นหลายครั้ง และการต่อสู้ที่สำคัญมากมายตามที่มีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์
14. แนวชายฝั่งอันเป็นเอกลักษณ์
ถึงแม้ว่าเป็นประเทศที่ค่อนข้างเล็ก สกอตแลนด์ก็มีชายฝั่งที่ค่อนข้างยาวและมีรอยเว้าแหว่งอยู่ทั่วไป เกาะหลักของสกอตแลนด์มีแนวชายฝั่งที่ยาวถึง 6,160 ไมล์ หรือเท่ากับ 9,910 กิโลเมตร ซึ่งมากเป็น 3 เท่าของอังกฤษและมากเป็น 2 เท่าของฝรั่งเศษและสเปน หากรวมเกาะจำนวนมากของสกอตแลนด์เข้าไปด้วยจะมีความยาวถึง 10,250 ไมล์ หรือเท่ากับ 16,500 กิโลเมตรเลยทีเดียว
15. Morag Monster
อย่างที่เห็น Loch Ness Monster ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตในตำนานเพียงตัวเดียวที่อาศัยอยู่ที่สกอตแลนด์ ภายใต้ทะเลสาป Loch Morar ใน Highlands ของสกอตแลนด์ยังมี Morag Monster ซึ่งเป็นสัตว์ในตำนานอีกตัวหนึ่งของสกอตแลนด์อยู่ ผู้ที่อ้างว่าพบเห็นสัตว์ประหลาดตัวนี้รายงานว่ามันมีลักษณะเป็นงูขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 30 ฟุต หรือเท่ากับ 9เมตร
16. Skara Brae
ตั้งอยู่ที่อ่าว Skaill ในหมู่เกาะ Orkney Skara Brae เป็นที่พักที่สร้างจากหินในช่วงยุคหินใหม่ ย้อนกลับไปประมาณ 3,200 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งทำให้สิ่งก่อสร้างนี้มีอายุเก่าแก่ยิ่งกว่า Stonehenge ของอังกฤษหรือพีระมิดของอียิปต์เสียอีก สถานที่แห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า “ปอมเปอีแห่งสกอตแลนด์” เนื่องจากการคงสภาพไว้อย่างดีเยี่ยม
17. ปี่สก็อต
ปี่สก็อตเป็นของอีกชิ้นหนึ่งที่สื่อถึงสกอตแลนด์ การเล่นปี่สก็อตครั้งแรกในประเทศนี้เท่าที่มีบันทึกไว้ย้อนกลับไปเมื่อปี 1547 ที่ชาวสกอตอ้างว่านำมาใช้ในสนามรบแทนทรัมเป็ต เช่นเดียวกับคิลต์ ปี่สก็อตเองก็จะถูกนำมาเล่นเฉพาะในโอกาสสำคัญ หรืองานประเพณีเท่านั้น
18. Louns & Quines
“louns” กับ “quines” นั้นมีความหมายว่า “เด็กผู้ชาย” และ “เด็กผู้หญิง” เป็นคำภาษาถิ่น Doric ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของคนที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสกอตแลนด์ อีกหนึ่งวลียอดนิยมของภาษา Doric คือ “Ay ay, fit like?” มีความหมายว่า “Hallo, how are you?”
19. สถานที่จัดการแข่งขัน International Soccer ครั้งแรกของโลก
ในปี 1872 สกอตแลนด์แข่งกับอังกฤษเป็นการแข่งขันฟุตบอลนานาชาติอย่างเป็นทางการเป็นคู่แรก ถูกจัดขึ้นที่สนามฝั่งตะวันตกของ Scotland Cricket Club ที่ Hamilton Cresent ใน Partick
20. Ben Nevis
ตั้งอยู่ลึกเข้าไปใน Highlands Ben Nevis เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในสหราชอาณาจักร โดยมีความสูงที่ 1,344 เมตร หรือเท่ากับ 4,409 ฟุต สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงาม น่าประทับใจได้ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยดึงดูดนักท่อเที่ยวและนักปีนเขาให้มาชื่นชมความเงียบสงบของธรรมชาติที่อยู่ในบริเวณโดยรอบของภูเขาลูกนี้ มีการประมาณการณ์ว่ามีคนกว่า 100,000 คนที่ขึ้นไปบนเขา Ben Nevis นี้ทุกปี
21. Callanish Stones
ตั้งอยู่ที่ Outer Hebrides Callanish Stones เป็นการจัดวางเสาหินจำนวนมากในรูปแบบคล้ายไม้กางเขน โดยมีแท่นหินวงกลมอยู่ตรงกลาง ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายของยุคหินใหม่ เสาหินเหล่านี้อาจถูกนำมาวางเพื่อสร้างเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมบางอย่างในช่วงยุคสัมฤทธิ์ นอกจากนี้ยังมีการค้นพบลานประกอบพิธีกรรมอื่นๆอีกหลายแห่งในบริเวณที่ห่างไปไม่กี่ไมล์จากที่นี่
22. โบสถ์ Glasgow และ Necropolis
ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 12 โบสถ์กลาสโกว์ (ถูกเรียกด้วยชื่ออื่นว่า High Kirk of Glasgow บางครั้งก็เรียกว่าโบสถ์ St Mungo) เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญอันดับต้นๆของเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสกอตแลนด์ ที่ด้านข้างของโบสถ์คือ Glasgow necropolis ซึ่งใช้เป็นที่ฝังศพของผู้คนกว่า 50,000 ราย
23. แพะภูเขา
แพะจรจัดตามภูเขาสามารถพบเห็นได้เป็นปกติที่ Highlands แพะเหล่านั้นเป็นลูกหลานของปศุสัตว์ที่ถูกปล่อยทิ้งไว้โดยชาว Highlanders เนื่องจากความจำเป็นบางอย่างในช่วง Highland Clearances (การที่ชาว Highlanders ถูกบังคับให้ย้ายออกจากพื้นที่ในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19) แพะเหล่านั้นเป็นเสมือนดั่งเครื่องเตือนใจถึงอดีตอันอลหม่าน วุ่นวายของที่นี่
24. เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีการจัดแข่งขันกีฬา Derby ที่ดีที่สุด
การแข่งขันระหว่าง 2 soccer club ของชาวสกอตที่มีชื่อเสียงที่สุด: Glasgow Rangers กับ Celtic Glasgow เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งของชาวสกอต ซึ่งได้ฝังลึกอยู่ในวัฒนธรรมและมีส่วนช่วยเหลืออย่างมากในทางการเมือง, ทางสังคม และทางศาสนาของสกอตแลนด์ ทีม Rangers กับทีม Celtic ได้แข่งขันกันมา 399 ครั้ง และแทบทุกครั้งก็มักจะมีการรายงานเรื่องของการทะเลาะวิวาทกันของผู้เข้าชม
25. มีประชากรผมแดงมากที่สุดในโลก
สกอตแลนด์มีสัดส่วนประชากรที่มีผมสีแดงมากที่สุดในโลก โดย 13% ของประชากรชาวสกอตแลนด์มีผมสีแดงและ 40% มียีนของลักษณะพันธุกรรมนี้อยู่กับตัว ไอร์แลนด์นั้นมีสัดส่วนประชากรที่มีผมสีแดงมากเป็นอันดับ 2 ที่ 10%
Credit: list25.com/25-amazing-things-unique-about-scotland