ข้อมูลสำหรับ เตรียมตัวไปอิตาลี
****************************************
เวลาของประเทศอิตาลี
ประเทศอิตาลีช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง แต่ในช่วงหน้าร้อน (มีนาคม) จะหมุนนาฬิกาล่วงหน้าอีก 1 ชั่วโมง ทำให้เวลาห่างจากประเทศไทยเพียง 5 ชั่วโมง และจะหมุนกลับไปเวลาเดิมในเดือนกันยายน เวลาที่เหมาะกับการไปเยือนอิตาลีที่สุดคือช่วงฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างเดือนเมษายนถึงกลางเดือนมิถุนายน เพราะอากาศกำลังสบาย
ระบบไฟฟ้า
ระบบไฟฟ้ามีระบบเดียวกับเมืองไทย (220 โวลต์) แต่ปลั๊กที่ใช้จะมี 2 แบบ เพราะฉะนั้น การเตรียมปลั๊กเสียบ หรือ Adapter จากประเทศไทย จะช่วยให้ใช้ปลั๊กได้ทั้ง 2 แบบ
การเปิดบัญชีธนาคารในอิตาลี
ผู้ที่เดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศอิตาลีควรเปิดบัญชีที่อิตาลีไว้ด้วย เพื่อจะได้ไม่ต้องเก็บเงินไว้กับตัวเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังสะดวกกับการให้ผู้ปกครองโอนเงินมายังบัญชีธนาคารได้เลย เวลาทำการธนาคาร วันจันทร์ – ศุกร์ 08.30 – 13.30 น. และ 14.30 – 16.00น. ตู้เอทีเอ็มในอิตาลีเรียกว่า Bancomat ใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น ถอนเงิน ฝากเงิน ได้เช่นเดียวกับในประเทศไทย โดยตู้เอทีเอ็มจะพบได้เกือบทั่วประเทศ หรือพบได้ตามสนามบิน สถานีรถไฟ ร้านค้า มหาวิทยาลัย ฯลฯ
ประเทศอิตาลีมีธนาคารเปิดให้บริการมากมายทั้งของรัฐบาลและเอกชน ค่าธรรมเนียมต่างๆในการใช้บริการจึงแตกต่างกัน นักศึกษาควรตรวจสอบว่าเมืองที่ตนจะไปศึกษาต่อ มีธนาคารใดบ้าง จากนั้นจึงเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการใช้บริการ อัตราดอกเบี้ย การโอนเงิน ฯลฯ เพื่อประโยชน์ของตัวเอง หลังจากนักศึกษาตัดสินใจเลือกธนาคารที่ต้องการได้แล้ว ให้นำหลักฐานและเอกสารเพื่อเปิดบัญชีธนาคาร ดังต่อไปนี้
1. หนังสือเดินทาง (Passport)
2. จดหมายรับรองจากสถาบัน อาทิเช่น บัตรนักศึกษา, จดหมายรับรองการลงทะเบียน
(Confirmation of Enrolment), จดหมายจากสถาบันที่ยืนยันว่าเป็นนักศึกษาของสถาบันนั้นๆ
ค่าใช้จ่ายในการอยู่อาศัย
ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จะขึ้นอยู่กับเมืองที่เราอยู่อาศัย อาทิเช่นเมืองหลัก หรือสถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะตอนเหนือของประเทศอิตาลีนั้นจะมีราคาสินค้า และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่แพง
ราคาโดยประมาณ ของสินค้าแต่ละชนิด
นม 1 ลิตร = 1.20 euro
ขนมปัง 1 กิโล = 3.50 euro
เนย 250 กรัม = 1.70 euro
เนื้อ 1 กิโลกรัม = 9.00 – 19.00 euro
เนื้อไก่ 1 กิโลกรัม = 8.00 – 10.00 euro
ข้าว 1 กิโลกรัม = 1.70 – 2.50 euro
พาสต้า 1 กิโลกรัม = 0.80 – 1.20 euro
น้ำแร่ 1 ลิตร = 0.50 – 0.80 euro
ตั๋วโรงภาพยนต์ 1 เรื่อง = 7.50 euro
อาหารฟาสฟูสต์ = 5.50 euro
ตั๋วรถไฟจากมิลาน – โรม แบบธรรมดา = 38.00 euro และแบบ Eurostar = 47.00 euro
ประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติ
นักเรียนที่มิได้ถือสัญญาติในประเทศสมาชิกยุโรป จะต้องซื้อประกันจากบริษัทเอกชนก่อนที่จะเดินทางมายังประเทศอิตาลี และบริษัทประกันนั้นจะต้องได้รับการยอมรับจากทางสถานทูตฯ
การทำงานในประเทศอิตาลี
สำหรับนักเรียนที่มิได้ถือสัญชาติในประเทศสมาชิกยุโรปนั้น การทำงานในระหว่างเรียนจะต้องได้รับใบอนุญาติการทำงานก่อน โดยทางผู้ว่าจ้างจะต้องดำเนินเรื่องโดยยื่นจดหมายจ้างงานที่สถานีตำรวจ และทางการจะเป็นผู้ตรวจสอบและอนุญาติ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลานานในการตรวจสอบ
เวลาว่างส่วนใหญ่ของนักเรียนต่างชาติ
กิน กิน กิน และกิน
อาหารอิตาเลียนถือได้ว่าเป็นอาหารที่รู้จักกันอยู่ทั่วโลก แต่เมื่อเข้ามาเรียนที่ในประเทศต้นกำเนิดแล้ว ด้วยวัตถุดิบท้องถิ่น และวัตถุดิบตามฤดูกาลนั้น และด้วยรสชาติอาหารที่ดั้งเดิมแล้ว นักเรียนก็ไม่ควรพลาดการได้ลิ้มรสอาหารชั้นเลิศได้เลย
Pizzerias
พิซซ่านั้นมีต้นกำเนิดจากเมืองเนเปิลส์ โดยดั้งเดิมนั้นจะทำโดยการอบในตู้อบไม้ อย่างไรก็ตามพิซซ่านั้นสร้างสรรค์เมนูที่หลากหลายตามส่วนประกอบต่าง ๆ ซึ่งพิซซ่าที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ Pizza Margherita ซึ่งราดด้วยซอสมะเขือเทศ, มอสซาเลลล่าชีส, ใบโหระพา และน้ำมันมะกอก ซึ่งราคาของ Pizza Margherita เป็นชุด ซึ่งจะมีเบียร์หรือกาแฟนั้น จะราคาอยู่ที่ 10-15 euro
**** ข้อควรรู้ไว้ : คนอิตาเลียนนั้นจะไม่กินพิซซ่ากับไวน์ แต่จะดื่มเบียร์หรือน้ำอัดลมแทน
ร้านอาหารญี่ปุ่น, เม็กซิโก, จีน, อินเดีย
ส่วนใหญ่จะพบเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ เท่านั้น ซึ่งจะมีหลากหลายราคา และหลากหลายเมนู ตามอาหารประจำชาตินั้น ๆ
การให้ทิปในร้านอาหาร
ในอิตาลี จะไม่มีกำหนดอัตราที่แน่นอนในการให้ทิป ร้านอาหารส่วนใหญ่รวมถึงร้านพิซซ่าจะมีการเก็บทิปรวมกับค่าอาหารอยู่แล้ว ซึ่งจะเรียกว่า “Coperto” และถ้าหากเป็นร้านอื่น ๆ ชาวอิตาเลียนจะให้ทิปแล้วแต่คุณภาพของการบริการ
เทศกาล
อิตาลีถือว่าเป็นดินแดนแห่งการเฉลิมฉลองและประเพณีท้องถิ่น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เราจะสามารถหาเจอการเฉลิมฉลอง ณ ที่นั้นได้เสมอ ๆ โดยเทศกาลที่มีชื่อเสียงนั่นคือ เทศกาลคาร์นิวัล ซึ่งจะมีทุก ๆ เดือนกุมภาพันธ์ หรือเดือนมีนาคมของทุกปี และคาร์นิวัลที่มีชื่อเสียงที่สุดจะต้องจัดขึ้นที่เวนิส ซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเฉลิมฉลองโดยการแต่งตัว ใส่หน้ากาก และเต้นรำไปพร้อมกับดนตรีต่าง ๆ พร้อมตื่นตาตื่นใจกลับการแสดงพลุของเทศกาล
โรงภาพยนต์
คนอิตาเลียนส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาว่างไปกับการดูภาพยนตร์ ซึ่งเราจะพบโรงภาพยนตร์ได้ในหลากหลายแห่ง แม้กระทั่งในเมืองเล็ก ๆ ก็ตาม นอกจากนี้การดูภาพยนตร์ยังเป็นการพัฒนาภาษาอีกอย่างหนึ่งด้วย อย่างไรก็ตามถ้ายังไม่เก่งภาษาอิตาเลียนมากนัก เราสามารถเลือกภาพยนตร์ที่พากษ์ภาษาอังกฤษได้ ซึ่งจะพบในโปรแกรมปกติทั่วไปในเมืองใหญ่ ๆ อาทิเช่น มิลาน หรือโรม
โรงละครและการแสดงคอนเสริต
อิตาลีเป็นดินแดนของดนตรีและละคร ซึ่งการแสดงต่าง ๆ เราสามารถดูได้จากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ซึ่งการแสดงดนตรีต่าง ๆ มักจะพบได้ง่าย ๆ ในโบสถ์ และตั๋วจะมีราคาถูกกว่าการแสดงตามโรงละครทั่วไป
พิพิธภัณฑ์และนิทรรศการแสดงภาพ
ร้อยละ 60 ของมรดกศิลปะโลกอยู่ในประเทศอิตาลี ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสดีสำหรับนักเรียนที่เรียนในอิตาลี เนื่องจากในแต่ละเมืองนั้นจะมีพิพิธภัณฑ์ และการแสดงภาพหลากหลาย โดยค่าเข้าพิพิธภัณฑ์จะอยู่ที่ 5-10 euro และมักจะได้รับส่วนลดสำหรับนักเรียนที่อายุ 18-25 ปี
***** ข้อควรรู้ไว้ พิพิธภัณฑ์และแกลอรี่ส่วนใหญ่ มักจะปิดในวันจันทร์ และบางแห่งมักจะให้เข้าชมฟรีในวันศุกร์
กีฬา
ฟุตบอลเป็นกีฬายอดฮิตของชาวอิตาเลียน โดยลีกสูงสุดจะเปิดฤดูกาลในเดือนกันยายน ถึงเดือพฤษภาคมของอีกปีหนึ่ง และแมตช์การแข่งขันส่วนใหญ่มักจะเริ่มในตอนบ่ายของวันอาทิตย์ ซึ่งตั๋วในการเข้าชมมักจะหาซื้อได้ในบางธนาคาร, สำนักงานบริการขายตั๋วทั่วไป และที่สนามแข่ง นอกจากนี้ทีมฟุตบอลหลัก ๆ ก็มักจะมีเวบไซต์ของที ซึ่งจะเป็นช่องทางหนึ่งในการซื้อตั๋วอีกด้วย
โทรศัพท์
การใช้โทรศัพท์สาธารณะในประเทศอิตาลีนั้น จะไม่สามารถใช้เหรียญได้ หากจำเป็นที่จะต้องใช้โทรศัพท์ สามารถซื้อบัตรโทรศัพท์ได้ที่แผงขายหนังสือพิมพ์ หรือร้านขายบุหรี่ ซึ่งบัตรขายโทรศัพท์ในประเทศอิตาลีจะเรียกว่า una scheda telefonica (อูนา สเกด้า เทเลโฟนิก้า) แนะนำว่าควรซื้อในแถบสนามบินจะดีที่สุด โดยบัตรโทรศัพท์จะมีหลากหลายราคาตั้งแต่ 1 ยูโร จนถึง 8 ยูโร โดยอัตราค่าโทรศัพท์ภายในจังหวัดเดียวกันจะอยู่ประมาณ 0.31 ยูโร ต่อ 5 นาที หากต้องการโทรศัพท์ไปต่างประเทศจะต้องซื้อบัตรที่เรียกว่า una scheda telefonica internazionale
เบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินในประเทศอิตาลี
เหตุฉุกเฉิน (ตำรวจ) : 112, 113, 117
เหตุฉุกเฉินไฟไหม้ : 115
เหตุฉุกเฉินไฟไหม้บนภูเขา : 1515
รถพยาบาลฉุกเฉิน : 118
ไปรษณีย์
การไปรษณีย์ในประเทศอิตาลี ดำเนินการโดย Poste Italiane ซึ่งเป็นบริการของรัฐบาล มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโรม นอกจากในเรื่องของไปรษณีย์แล้ว Poste Italiane ยังดำเนินการเกี่ยวกับ การสื่อสาร, โลจิสติกส์ และบริการทางด้านการเงินในประเทศอิตาลี
สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อสแตมป์ สามารถซื้อได้ตามร้านขายบุหรี่ทั่วไป
หน่วยงานราชการและหน่วยงานต่างๆของไทยในประเทศอิตาลี
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม (D12)
Via Nomentana132,
00162Rome
Tel. +39(06)8622-051
Fax. +39(06)8622-0555, 8622-0556
E-mail : thai.em.rome@wind.it.net
http://www.thaiembassy.org/rome
เวลาเปิด-ปิดของสถานที่ส่วนใหญ่ในประเทศอิตาลี
ห้องสมุด
โดยทั่วไป ห้องสมุดสาธารณะจะเปิดวันจันทร์ – วันศุกร์ ในเวลา 9.00-19.00 น. และวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 9.00-13.00 น. (ปิดในวันอาทิตย์และวันหยุดราชการ)
ร้านขายยา
เวลาเปิด-ปิดของร้านขายยาจะเป็นไปตามกฎหมาย โดยจะเปิดในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 8.30-12.30 น. และในช่วงบ่ายเวลา 15.30-19.30 น. สำหรับบางร้านจะไม่ได้เปิดในช่วงนี้ แต่จะเปิดเฉพาะในช่วงกลางคืน, วันหยุดและวันอาทิตย์ แทน
พิพิธพันธ์
จะเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น. ปิดเฉพาะวันหยุด นอกจากนี้เวลาเปิด-ปิดการเข้าชม ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยของภูมิอากาศอีกด้วย ดังนั้นควรตรวจสอบจากพิพิธภัณฑ์ในแต่วันโดยตรงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ศูนย์ราชการ
จะเปิดตั้งแต่เวลา 8.30-13.00 น. และพักกลางวัน จากนั้นจะเปิดในช่วงบ่ายอีกครั้งตั้งแต่เวลา 14.45-16.15 น.
ร้านค้า
โดยทั่วไปจะเปิดเวลา 9.00 น.-13.00 น. ในช่วงเช้า และจะเปิดในช่วงเวบ่ายเวลา 15.30-19.30 น. จะปิดบริการในวันอาทิตย์
ธนาคาร
เวลาเปิด-ปิดของธนาคารจะขึ้นตรงกับข้อกำหนดของกฎหมาย โดยจะเปิดในเวลา 8.30-13.30 น. และเวลา 15.00-16.00 น. ตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์ และมีหลาย ๆ ธนาคารที่มีการเปิดทำการในวันเสาร์อีกด้วย
ไปรษณีย์
จะเปิดในเวลา 8.30-13.30 น. ทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์
ร้านอาหาร
โดยทั่วไปจะเปิดในเวลา 12.00 น. และครัวจะปิดที่เวลา 14.30 น. บางร้านจะเปิดในช่วงกลางคืนเวลา 19.00-23.00 น.
วันหยุด ปี 2012
1 มกราคม = วันขึ้นปีใหม่
6 มกราคม = วันฉลองเทศกาลเสด็จมาของพระเยซูคริสต์; Epiphany Day
9 เมษายน = วันจันทร์หลังวันอีสเตอร์; Easter Monday
25 เมษายน = วันเสรีภาพ (วันที่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในประเทศอิตาลี)
1 พฤษภาคม = วันแรงงาน
2 มิถุนายน = วันชาติ
5 สิงหาคม = วันอัสสัมชัญ; Assumption Day
1 พฤศจิกายน = วันระลึกถึงนักบุญ; All Saints Day
8 ธันวาคม = วันสมโภชพระแม่มารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล
25 ธันวาคม = วันคริสต์มาส
26 ธันวาคม = St Stephens Day / Boxing Day