พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงนโยบายกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. ของรัฐบาลว่า เป็นโครงการที่ต้องการส่งเสริมให้ประชาชนซึ่งไม่อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญได้สร้างหลักประกันหลังเกษียณของตนเอง โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบ อาทิ เกษตรกร ลูกจ้างรายวัน ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และแรงงานนอกระบบ โดยการออมเงินกับกอช. และรัฐจะสมทบเงินให้ตามหลักเกณฑ์ปีละไม่เกิน 13,200 บาท โดยผู้ประสงค์จะออม ใช้หลักฐานเพียงบัตรประจำตัวประชาชนใบเดียว ไปสมัครยังธนาคารของรัฐ 3 แห่ง ได้แก่ ออมสิน กรุงไทย และ ธกส. ได้ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป

รับสมัครกองทุนการออมแห่งชาติ

ทั้งนี้ในปีแรกที่เปิดให้บริการกองทุนการออมแห่งชาติ ยังให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ออมที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ให้สามารถออมต่อได้จนถึง 10 ปี โดยรัฐจะสมทบเงินให้ทุกปี ซึ่งหากมาสมัครหลังจากหนึ่งปี จะมีระยะเวลาการออมถึงอายุ 60 ปี เท่านั้นและระยะเวลาที่รัฐจะจ่ายเงินสมทบให้ก็จะสั้นลงไปด้วย จึงอยากเชิญชวนให้มาออมและใช้สิทธิพิเศษนี้ให้มากที่สุด

“เมื่อออมเงินถึงจนอายุ 60 ปี กองทุนจะจ่ายเงินบำนาญให้สมาชิกเป็นรายเดือนทุกเดือนตลอดชีพ ถือเป็นหลักประกันในยามเกษียณ ดังนั้นผู้ใดเริ่มออมเร็ว เงินบำนาญที่จะได้รับก็จะสูงตามไปด้วย โดยกองทุนเปิดรับสมาชิกซึ่งเป็นผู้มีสัญชาติไทยตั้งแต่ อายุ 15-60 ปี”

สำหรับกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. เป็นนโยบายของรัฐบาล เพื่อส่งเสริมให้ผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ หรือ อยู่นอกระบบบำเหน็จ บำนาญของรัฐ หรือ กองทุนเอกชน ได้ออมเงินเพื่อใช้ในยามเกษียณ โดยรัฐจะช่วยจ่ายสมทบให้ส่วนหนึ่ง และเมื่อผู้ออมมีอายุครบ 60 ปี จะได้รับเงินบำนาญเป็นรายเดือนตลอดชีพ ถือเป็นการสร้างหลักประกันให้กับชีวิตในยามที่ไม่มีรายได้ประจำ และเป็นส่วนหนึ่งของการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

สำหรับผู้ที่สนใจจะต้องมีคุณสมบัติ

1. เป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุตั้งแต่15 ปี ถึงไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์
2. ประกอบอาชีพอิสระ เช่น เกษตรกร ค้าขาย รับจ้างทั่วไป คนขับรถแท็กซี่ แม่บ้าน สถาปนิก แพทย์ ทนายความ ลูกจ้างรายวัน ลูกจ้างชั่วคราว นักการเมือง (ส.ส.) นักการเมืองท้องถิ่น นักเรียน นิสิต นักศึกษา เป็นต้น

สำหรับการจ่ายเงินสะสมเมื่อเป็นสมาชิก และเงินสะสมของภาครัฐ สมาชิกกองทุนการออมจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนไม่ต่ำกว่าเดือนละ 50 บาทและไม่เกิน 13,200 บาทต่อปีโดยรัฐจ่ายสมทบให้ตามสัดส่วนนี้

สำหรับผู้ที่ยิ่งออมเร็ว ออมในอัตราสูง ก็จะได้รับเงินบำนาญมากขึ้นตามสัดส่วน อาทิ ออมเดือนละ 1,000 บาท เท่ากัน หากเริ่มออมตั้งแต่ อายุ 20 ปี เมื่อเกษียณจะได้รับเงินบำนาญพร้อมเบี้ยเลี้ยงชีพ รวม 7,000 บาทเศษต่อเดือน แต่หากเริ่มออมอายุ 30 ปี จะได้เงินบำนาญ 4,441 บาทต่อเดือน ขณะที่เริ่มอายุ 40 ปี จะได้ 2,646 บาท

ข่าว เริ่มวันนี้ รับสมัครกองทุนการออมแห่งชาติ ออมเร็วได้มาก จากเว็บข่าว Manager..co.th