เรียนต่อญี่ปุ่น หน้านี้ อธิบาย ข้อมูลโดยสรุปของการ เรียนต่อที่ญี่ปุ่น เรียนภาษาที่ญี่ปุ่น ศึกษาต่อญี่ปุ่นและข้อมูลโดยทั่วไป ของญี่ปุ่น ซึ่งสามารถกดลิงค์อ่านต่อในหัวข้อต่าง ๆ เพื่อไปยังหน้ารายละเอียดทั้งหมดได้

 

เรียนต่อญี่ปุ่น เรียนภาษาที่ญี่ปุ่น ศึกษาต่อญี่ปุ่น 

เรียนต่อญี่ปุ่น

japan

ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีความโดดเด่นมากในเรื่องของ เทคโนโลยี และที่สำคัญ บริษัทของประเทศญี่ปุ่น ได้มาลงทุนในประเทศไทย เป็นอันดับ 1 มากกว่าทุก ๆ ประเทศ จึงทำให้เกิดความนิยมไปศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น มาอย่างต่อเนื่อง การไปเรียนต่อญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่จะได้ ความรู้ทางด้านวิชาการเท่านั้น การไป เรียนต่อญี่ปุ่น ยังจะได้ฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาญี่ปุ่น อย่างเต็มที่อีกด้วย

โดยส่วนใหญ่ นักเรียนไทย มากว่า 75% นิยมไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นในหลักสูตร ภาษาญี่ปุ่น เพื่อเป็นการพัฒนาความรู้ด้านภาษา รวมถึง เป็นการเตรียมตัว เพื่อเข้าเรียนต่อในระดับ ปริญญา ต่อไป

นอกจากในเรื่องวิชาการแล้ว ประเทศญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่มีสเน่ห์ มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน แฟชั่น สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ทำให้ผู้ที่เคยไปเยี่ยมชม ประทับใจ และอยากกลับไปอีกครั้ง

ข้อดีของการเรียนในประเทศญี่ปุ่น 

1. ประเทศญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว และมีการพัฒนาเทคโนโลยีเป็นอย่างมากรองจากสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีผู้คนที่เป็นมิตรและสั่งสมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน

2. มาตรฐานการศึกษาในประเทศญี่ปุ่นที่สูง โดยดูจากอันดับโลก นักเรียนญี่ปุ่นในระดับมัธยมปลายเป็นที่ 1 ของโลกทางด้านคณิตศาสตร์ และเป็นที่ 2 ของโลกทางด้านวิทยาศาสตร์ รวมถึงในระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นประมาณ 10 แห่งอยู่ในระดับ Top 200 ของโลก

3. ประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็น 1 ในประเทศที่มีความปลอดภัยจากอาชญากรรมของโลก โดยสถิติอาชญากรรมในประเทศญี่ปุ่นอยู่ในอันดับท้าย ๆ ของโลก

4. นอกจากจะได้พัฒนาทักษะทางด้านภาษาแล้วยังจะได้เรียนรู้ทักษะอื่น ๆ ด้วย อาทิเช่น การเรียนหลักสูตรสั้น ๆ เช่นการประดิษฐ์ดอกไม้ การทำอาหารเป็นต้น

» » อ่านต่อในหัวข้อ เรียนต่อญี่ปุ่น

 

sakura

 

เรียนซัมเมอร์ที่ญี่ปุ่น

เรียนซัมเมอร์ที่ญี่ปุ่น

เกี่ยวกับสถาบัน International Study Institute

สถาบัน International Study Institute หรือ ISI  ทางสถาบันก่อตั้งมาเมื่อปี 1992 ปัจจุบัน เปิดมา 26 ปี ปัจจุบันมีนักเรียนต่างชาติที่มาเรียนที่ ISI รวมกันมากกว่า 2,000 คน นักเรียนส่วนหใย่ใหญ่จะเป็นนักเรียนจากโซนยุโรปเป็นส่วนใหญ่ และจะมีนักเรียนเอเชียรองลงมา

❀ ช่วงเวลาของหลักสูตรซัมเมอร์

  • 3 ก.ค. – 27 ก.ค. 2018
  • 6 ส.ค. – 31 ส.ค. 2018
ค่าใช้จ่าย จำนวนเงิน (เยน)
 ❀  Premium ค่าเรียน + กิจกรรม + หอพักนักเรียน 4 สัปดาห์ 249,800
 ❀  Standard ค่าเรียน + กิจกรรม + หอพักนักเรียน 4 สัปดาห์ 229,800
 ❀  Basic ค่าเรียน + กิจกรรม + หอพักนักเรียน 4 สัปดาห์ 184,300

*** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

» » อ่านต่อในหัวข้อ เรียนซัมเมอร์ที่ญี่ปุ่น

[divider top=”no” style=”double” divider_color=”#fa5ed0″ link_color=”#fa5ed0″]

เรียนภาษาที่ญี่ปุ่น

ศึกษาต่อญี่ปุ่น-2

โรงเรียนสอนภาษาในญี่ปุ่น

เมืองที่นักเรียนไทยนิยมไปเรียนภาษาที่ญี่ปุ่น

1. โตเกียว
2. ชิบะ
3. โอซาก้า

ปัจจุบันมีโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นจำนวนมาก และมีหลักสูตรภาษาให้เลือกหลากหลาย แต่จะสามารถแบ่งหลักสูตรเรียนภาษาที่ญี่ปุ่น ออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้ดังนี้

หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นพื้นฐาน

1. เหมาะสำหรับ นักเรียนที่มีเวลา ไปเรียนจำกัด โดยสามารถเรียนได้ตั้งแต่ 1-3 เดือน
2. สามารถเรียนได้ด้วยการถือวีซ่าท่องเที่ยว ซึ่งจะใช้เวลาในการขอและขั้นตอนไม่ยุ่งยากเท่ากับวีซ่านักเรียน โดยจะใช้ระเวลาในการขอวีซ่าประมาณ 1 สัปดาห์
3. เหมาะสำหรับ นักเรียนที่อยากไปทดลองเรียนดูก่อน ว่าจะสามารถปรับตัวได้ไหม

ตัวอย่างตารางค่าเรียนภาษาญี่ปุ่นระยะสั้น

ระยะสั้น จำนวนเงิน (เยน)
 ค่าลงทะเบียน 10,000
ค่าเรียน 4 สัปดาห์ 80,000
ค่าเรียน 8 สัปดาห์ 152,000
ค่าเรียน 10 สัปดาห์ (1 เทอม) 180,000

.
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่น ระยะยาว

1. เหมาะสำหรับ นักเรียนที่มีจุดประสงค์ที่จะพัฒนาระดับภาษาญี่ปุ่น เพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน หรือใช้ในการทำงาน
2. มีให้เลือกเรียนได้ตั้งแต่ 6 เดือน จนถึง 1 ปี

ตัวอย่างตารางค่าเรียนภาษาญี่ปุ่นระยะยาว 6 เดือน

6 เดือน จำนวนเงิน (เยน)
 ค่าสมัครวีซ่า  20,000
  ค่าแรกเข้า  60,000
  ค่าเรียน เทอมแรก (6 เดือนแรก)  345,000
ค่าอุปกรณ์ 40,000
ค่าประกัน 6,000
รวม 471,000

.
ส่วนเรื่องการขอวีซ่าประเทศญี่ปุ่น ระยะยาว ไม่ได้ยากนัก การขอวีซ่าญี่ปุ่น ถ้าผู้ขอมีความพร้อมทั้งในเรื่อง การเงิน การศึกษาพื้นฐานแล้ว วีซ่าก็มักจะผ่านไปได้ด้วยดี โดยทาง บริษัทฯ จะช่วยตรวจเอกสารให้ก่อน ให้แน่ใจว่า โอกาสที่วีซ่าผ่านสูง ถึงจะอนุญาติให้ นักเรียนชำระค่าใช้จ่าย และค่าเล่าเรียน ให้กับทางโรงเรียน

» » อ่านต่อในหัวข้อ เรียนภาษาที่ญี่ปุ่น

sakura

ข้อมูลเมืองญี่ปุ่นที่ควรทราบ

 

รู้จักญี่ปุ่น (にっぽん)

เรียนต่อญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่น

Japan หรือ Nippon

Japan เป็นชื่อเรียกที่ชาวต่างประเทศใช้เรียกประเทศญี่ปุ่น แต่จริง ๆแล้วชาวญี่ปุ่นนั้นจะเรียกประเทศของตนเองว่า Nippon หรือ Nihon ซึ่งในญี่ปุ่นเอง โดยNippon(にっぽん) จะถูกนำมาใช้อย่างเป็นทางการมากกว่า ซึ่งเราจะพบคำนี้ทั้งในเหรียญเยน และตราแสตมป์ นอกจากนี้ความหมายทั้ง 2 คำนี้ยังหมายถึงดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย ซึ่งเป็นคำเรียกประเทศญี่ปุ่นที่เราคุ้นเคยนั่นเอง

ภูมิประเทศ

ประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปเอเชีย พื้นที่ทั้งหมดคิดเป็น 377,873 ตารางกิโลเมตร (เทียบเท่าประเทศเยอรมนีและประเทศสวิตเซอร์แลนด์รวมกัน แต่ก็ยังน้อยกว่ารัฐแคลิฟอร์เนีย) ประเทศญี่ปุ่นประกอบด้วย 4 เกาะหลัก และเกาะย่อยมากกว่า 4,000 เกาะ โดยเกาะหลัก ๆ ในประเทศญี่ปุ่นมีดังนี้

ภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่น

 

ภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่นแบ่งออกเป็น 8 ภูมิภาคด้วยกัน ดังนี้

-ภาคเหนือ (ฮอกไกโด)

ฮอกไกโด (Hokkaido)เป็นเกาะทางด้านเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น และถือได้ว่าเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ในแต่ละฤดูกาลจะมีอากาศที่เปลี่ยนไปอย่างมาก และทำให้สภาพแวดล้อมนั้นแตกต่างไปด้วย นอกจากนี้ยังถือได้ว่าฮอกไกโดเป็นสวรรค์ของธรรมชาติ ทั้งภูเขา ที่ราบสูง แม่น้ำ ทะเลสาบ บ่อน้ำพุร้อน และชายฝั่งทะเล อุตสาหกรรมหลักของภูมิภาคนี้คือ การเกษตรและฟาร์มโคนม นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงในด้านอาหารทะเลอีกด้วย

เนื่องจากเป็นภูมิภาคเหนือที่สุดในญี่ปุ่นทำให้ในช่วงฤดูหนาวจะมีอากาศที่หนาวมาก และอากาศจะดีในช่วงฤดูร้อน

นอกจากนี้ยังมีเมืองซัปโปโรเป็นศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจและการเมือง เป็นเมืองที่มีการจัดวางผังได้สมบูรณ์แบบ มี สวนสาธารณะโอโดริ ซึ่งเป็นที่จัดแสดงงานเทศกาลหิมะที่มีชื่อเสียง สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เข้ามาชมงานในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี

– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (โทโฮะกุ)

อยู่ทางด้านเหนือของเกอะฮอนชู และรอบล้อมไปด้วยทะเลทั้ง Sea of Japan, Pacific Ocean,Tsugaru Straitเป็นภูมิภาคที่มีอากาศเย็นสดชื่นตลอดแม้ในฤดูร้อน อุณหภูมิบริเวณที่ราบสูงประมาณ 10 องศาเซลเซียส

เป็นภูมิภาคที่ผลิตข้าวได้ประมาณร้อยละ 28 ของประเทศ มีแอปเปิ้ล, เชอร์รี่ และลูกพีช เป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงของภูมิภาคนี้

– ภาคตะวันออก (คันโต)

เป็นศูนย์กลางทางด้านการเมือง, เศรษฐกิจและอุตสาหกรรม จึงทำให้มีประชากรมากถึงร้อยละ 32 ของประชากรทั้งหมดในประเทศญี่ปุ่น

เป็นที่ตั้งของเมืองโตเกียว (Tokyo) ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในเอเชีย เป็นแหล่งที่คงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันเก่าแก่หลายศตวรรษ ผสมผสานควบคู่ไปกับค่านิยมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น และแสดงออกถึงความตื่นเต้น และความมีชีวิตชีวาที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว พื้นที่ของเมืองโตเกียวนั้น มีอาณาบริเวณหนึ่งในสี่ส่วนของประเทศญี่ปุ่น มีจำนวนประชากรที่ถูกต้องตามกฎหมายอาศัยอยู่ 12 ล้านคน

– ภาคกลาง (จูบุ)

จูบุ เป็นภูมิภาคที่ตั้งเกือบกึ่งกลางของประเทศญี่ปุ่น เป็นภูมิภาคที่ยังคงหลงเหลือความเก่าแก่และวิถีชิวิตแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นอยู่มาก อย่างไรก็ตาม ตลอดเส้นทางจนถึงชายฝั่งแปซิฟิก มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากของอุตสาหกรรมสมัยใหม่  มีความหลากหลายแตกต่างในหลายๆ ด้านที่ประกอบกันขึ้นเป็นภูมิภาคนี้

– ภาคตะวันตก (คันไซ)

เป็นภูมิภาคทางตะวันตกของเกาะฮอนชู  เป็นภูมิภาคใจกลางทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น  และมีความเจริญก้าวหน้าในฐานะที่เป็นเมืองเศรษฐกิจหลักของญี่ปุ่นยาวนานตั้งแต่สมัยอดีต

– เกาะชิโกะกุและหมู่เกาะทะเลใน (เซโตะไนไค)

เกาะชิโกะกุตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะฮอนชู  ประกอบด้วย 4 เมือง นอกจากนี้ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกก็เป็นอีกแห่งหนึ่งในสถานที่เที่ยวที่โดดเด่นของเกาะชิโกะกุ การเดินทางเข้ามายังเกาะทำได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้มีการเปิดบริการทางรถบัสระหว่างเมืองสำคัญต่างๆ ในภาคคันไซบนฝั่งฮอนชูกับเกาะชิโกะกุ

-ภาคตะวันตก (จูโงะกุ)

ภูมิภาคจูโงะกุนั้น เต็มไปด้วยหมู่บ้านและเมืองที่เงียบสงบสวยงามหลายแห่งตั้งกระจายกันอยู่เป็นระยะ ลักษณะเป็นหมู่บ้านประมงชายทะเลและหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งหลักแหล่งตามทิวเขา ตั้งอยู่สุดตะวันตกของเกาะหลักฮอนชู แบ่งเป็นสองส่วนคือ ซันโย ชายฝั่งเกาะกลางทะเลใน และ ซันอิน ชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น

– ภาคใต้ (คิวชู และเกาะโอกินะวะ)

ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของเกาะหลักฮอนชู มีอากาศที่อบอุ่น ชนบทที่เขียวชอุ่ม บ่อน้ำแร่และภูเขาไฟที่เร้นลับเนื่องจากอยู่ใกล้จีนและเกาหลี จึงได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 อีกทั้งเป็นจุดแรกที่ติดต่อกับทางตะวันตกซี่งชาวโปรตุเกสได้เข้ามาเทียบท่าเมื่อศตวรรษที่ 16

» » อ่านต่อในหัวข้อ ข้อมูลประเทศญี่ปุ่น

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สถานทูตญี่ปุ่น