ประเทศฝรั่งเศส (France)

 

พื้นที่

ฝรั่งเศสมีพื้นที่ 550,000 ตารางกิโลเมตร นับเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก (ประมาณเกือบหนึ่งในห้าของพื้นที่ของสหภาพยุโรป) อีกทั้งยังมีพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่กินอาณาบริเวณกว้างขวาง (เขตเศรษฐกิจจำเพาะมีพื้นที่ทั้งสิ้น 11 ล้านตารางกิโลเมตร)

 ภูมิประเทศ

พื้นที่ประมาณสองในสามของประเทศฝรั่งเศสเป็นที่ราบ เทือกเขาที่สำคัญได้แก่ เทือกเขาแอล์ปซึ่งมียอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป คือ ยอดเขามงต์บลองก์ (Mont-Blanc) สูง 4,807 เมตร เทือกเขาปิเรเนส์ เทือกเขาจูรา เทือกเขาอาร์แดนส์ เทือกเขามาสซิฟ ซองทราลและเทือกเขาโวจช์ ประเทศฝรั่งเศสมีชายฝั่งทะเลอยู่ถึง 4 ด้าน คิดเป็นความยาวรวมทั้งสิ้น 5,500 กิโลเมตร (ทะเลเหนือ ช่องแคบอังกฤษ มหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน)

 ภูมิอากาศ

มี 3 แบบคือ

  1. แบบชายฝั่งทะเลตะวันตก (บริเวณตะวันตกของประเทศ)
  2. แบบเมดิเตอร์เรเนียน (ทางตอนใต้ของประเทศ)
  3. แบบภาคพื้นทวีป (ทางตอนกลางและภาคตะวันออกของประเทศ)
สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ

พื้นที่เกษตรกรรมและทำป่าไม้มีประมาณ 48 ล้านเฮกตาร์ คิดเป็นร้อยละ 82 ของพื้นที่โดยรวมทั้งประเทศ (เฉพาะฝรั่งเศสส่วนภาคพื้นทวีป)

พื้นที่ป่ามีประมาณร้อยละ 30 และนับว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหภาพยุโรปรองจากสวีเดนและฟินแลนด์ ตั้งแต่ปี 1945 พื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 46 และถ้าพูดถึงในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา นับว่าเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว

ฝรั่งเศสมีความแตกต่างไปจากประเทศอื่นๆในยุโรปเพราะมีพันธุ์ไม้มากถึง 136 ชนิด ในส่วนของสัตว์ใหญ่ก็เพิ่มจำนวนขึ้น ภายในช่วงระยะเวลา 20 ปี จำนวนของสัตว์ประเภทกวางเพิ่มขึ้นถึง 2-3 เท่า

ประเทศฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับมรดกทางธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ จึงได้มีการจัดตั้ง

  • อุทยานแห่งชาติ 7 แห่ง
  • ป่าสงวน 156 แห่ง
  • เขตรักษาพันธุ์พืชและสัตว์ป่า 516 แห่ง
  • รวมทั้งประกาศให้พื้นที่อีก 429 แห่งเป็นเขตอนุรักษ์อยู่ภายใต้การดูแลของสถาบันอนุรักษ์ชายฝั่งทะเล
  • นอกจากนี้ยังมีอุทยานธรรมชาติตามภูมิภาคต่างๆ อีกกว่า 37 แห่งซึ่งกินพื้นที่กว่าร้อยละ 7 ของประเทศ

งบประมาณจำนวน 32 พันล้านยูโรได้รับการจัดสรรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเมื่อคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อประชากรจะเท่ากับ 516 ยูโร ทั้งนี้ 3 ส่วน 4 ของเงินข้างต้นจะเป็นค่าใช้จ่ายในเรื่องของการบำบัดน้ำเสียและการจัดการของเสียต่างๆ

ในระดับนานาชาติ ฝรั่งเศสเป็นภาคีของสนธิสัญญาและอนุสัญญาทางด้านสิ่งแวดล้อมหลายฉบับ รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพและการแปรสภาพเป็นทะเลทราย

ทราบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.environnement.gouv.fr

 

เพลงชาติและคำขวัญ

ลา มาร์เซยแยส (La Marseillaise) เป็นเพลงชาติของฝรั่งเศสมาตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 1795 แต่เดิมเพลงนี้มีชื่อว่า Chant de guerre pour l’armée du Rhin ซึ่งประพันธ์ขึ้นที่เมืองสตราสบูรก์เมื่อปี 1792 คำขวัญของสาธารณรัฐฝรั่งเศสคือเสรีภาพ เสมอภาคและภราดรภาพ

 ธงชาติของฝรั่งเศส

วันคริสต์มาส
แต่เดิมสีน้ำเงินแดงเป็นสัญลักษณ์ของกองกำลังรักษากรุงปารีส ต่อมาในปี 1789 นายพลลาฟาแยตต์เพิ่มสีขาวอันเป็นสัญลักษณ์ของสถาบันกษัตริย์ นับแต่นั้นมาสีน้ำเงินขาวแดงจึงเป็นสีของธงชาติและกลายเป็นสัญลักษณ์ของสาธารณรัฐฝรั่งเศส

วันชาติ

14 กรกฎาคม

 ประชากร
  • ประชากรจำนวน 62.2 ล้านคน (ปี 2005)
  • ความหนาแน่นของประชากร 96 คนต่อตารางกิโลเมตร
  • เมืองมีประชากรมากกว่า 100,000 คนมีถึง 57 เมือง

เมืองที่มีประชากรมากที่สุดห้าอันดับแรกคือ

t1

 

การแบ่งส่วนการปกครอง
 

france-map
สาธารณรัฐฝรั่งเศสประกอบด้วย

  • ส่วนที่อยู่บนภาคพื้นทวีป
  • จังหวัดโพ้นทะเล (DOM) 4 จังหวัดได้แก่ กัวเดอลูป มาร์ตินิก เฟรนช์เกียนาและลา เรอูนียง
  • ดินแดนโพ้นทะเล (TOM) 5 แห่งได้แก่ เฟรนช์ โปลิเนเซีย, วาลลิสและฟูตูนา, มายอตต์, แซงต์-ปิแอร์-เอต์-มิเกอล็ง, เฟรนช์ เซาเทิร์นและแอนตาร์กติก แทร์ริทอร์รีส์
  • ดินแดนที่มีสถานภาพพิเศษอีก 1 แห่งคือ นิวแคลิโดเนีย

ประเทศฝรั่งเศส แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ

  1. เทศบาล เป็นองค์การปกครองส่วนที่เล็กที่สุด จำนวนประมาณ 37,000 communes
  2. จังหวัด เป็นองค์การปกครองขนาดกลาง ในฝรั่งเศสมีจำนวนประมาณ 100 département ซึ่งรวมถึงดินแดนโพ้นทะเล 4 แห่ง คือ Martinique, Guadeloupe, Réunion และ French Guyana
  3. มณฑล เป็นองค์การปกครองที่ใหญ่ที่สุด ประเทศฝรั่งเศสมีทั้งสิ้น 13 แคว้น (regions) ได้แก่

    1. Alsace-Champagne-Ardenne-Lorraine
    2. Aquitaine-Limousin-Poitou-Charentes
    3. Auvergne-Rhône-Alpes
    4. Bourgogne-Franche-Comté
    5. Brittany
    6. Centre-Val de Loire
    7. Île-de-France
    8. Languedoc-Roussillon-Midi-Pyrénées
    9. Nord-Pas-de-Calais-Picardy
    10. Normandy
    11. Pays de la Loire
    12. Provence-Alpes-Côte d’Azur
    13. Corsica

มณฑล/แคว้น เมืองหลวง ข้อมูลโดยทั่วไป
Nord-Pas-de-Calais-Picardy

 Lille (ลีลล์)

เมืองหลวงของแคว้นนี้ได้ถูกยกให้เป็นเมืองวัฒธรรมของยุโรปในปี 2004 และ และยังเป็นเป็นเมืองแรกในฝรั่งเศสที่มีรถไฟใต้ดิน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งผลิตเบียร์คุณภาพเนื่องจากภูมิประเทศเหมาะสมกับการปลูกข้าวสาลีและข้าวบาร์เล่ย์

อาหารที่ขึ้นชื่อของแคว้นนอร์ด-ปาส์-เดอ-กาเลส์คือ หอยแมลงภู่อบกับมันฝรั่งทอด และซุปปลากับไก่แกล้มเบียร์รสเลิศ

สถานที่สำคัญและน่าสนใจในปา-เดอ-กาเลส์ได้แก่ มหาวิหารนอเทรอดามแห่งบูลอญ, มหาวิหารนอเทรอดามแห่งออแมร์, สุสานโนเทรอดามแห่งลอแร็ต, มหาวิหารโนเทรอดามแห่งอาเมียงส์ (Amiens Cathedral) และโบสถ์ซึ่งสร้างแบบป้อมปราการที่ เมืองติเยราช (Thiérache)

แคว้นนี้มี 2 จังหวัด ดังนี้ นอร์ด และ ปาส์-เดอ-กาเลส์

 Normandy Rouen (รูออง)

เป็นแคว้นที่มีชายฝั่งทะเลตะวันตกติดกับมหาสมุทรแอตแลนติค ชายฝั่งทางเหนืองติดกับอ่าวม๊องช์ (Manche) มีความสวยงามทั้งในด้านศิลปะและประวัติศาสตร์ที่สำคัญ

เป็นแหล่งผลิตเนยแข็งที่มีชื่อเสียง เช่น กามองแบร์ ปงเลเวต และเป็นแหล่งปลูกแอปเปิ้ลที่มีคุณภาพรสชาติอร่อยของฝรั่งเศส จึงมีน้ำผลไม้ที่ขึ้นชื่อก็คือ น้ำแอปเปิ้ล

รวมทั้งเรื่องอาหารการกินโดยเฉพาะมีชื่อเสียงด้านเนยสดและเนยแข็ง ครีมสดข้นมัน ไส้กรอกเครื่องในของเมืองก็อง (Caen) รวมทั้งเป็นแหล่งพัฒนาอุตสาหกรรมม้าที่สำคัญ เช่น การเพาะพันธุ์ม้า พัฒนาพันธุ์ม้า การจัดการแข่งขันม้า การสอนขี่ม้า และการฝึกม้า

แคว้นนี้ยังเป็นเมืองอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมไฟฟ้า อุตสาหกรรมรถยนต์ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อนั่นคือ Le Mont-Saint-Michel ซึ่งเป็นโบสถ์โบราณเก่าแก่มีสถาปัตยกรรมแบบโรมันสร้างอยู่บนโขดหินใกล้ทะเล

Brittany  Rennes (แรน)

เป็นแคว้นที่มีลักษณะเป็นแหลมยื่นไปในทางมหาสมุทรแอตแลนติค และเป็นแคว้นเดียวในฝรั่งเศษที่ไม่มีการปลูกองุ่นเนื่องจากสภาพอากาศไม่เหมาะสม แต่มีการประมงเป็นหลักเพราะติดทะเล มีเมืองท่าที่สำคัญชื่อว่า Brest

ผู้คนที่มาเยี่ยมแคว้นนี้จะต้องไม่พลาดที่จะเข้าร่วมงานพิธีสำคัญ พิธี Pardon (ซึ่งมีพิธีมิสซาที่ยิ่งใหญ่ และมีผู้คนแต่งกายชุดประจำแคว้นเดินแห่แหนไปตามถนน) หรือเทศกาลเซลติค ย้อนอดีตอันยาวนานของชาวเบรอตาญ เบรอตาญเมีชื่อเสียงด้านอาหารทะเล น้ำไซเดอร์ ไวน์แอ๊ปเปิ้ลหอมหวาน และแครปต้นตำรับ

Pays de Loire  Nantes (น็องต์)

แคว้น Pays de Loire มีปราสาทต่าง ๆ สวยงามมากมาย เป็นเมืองที่มีผลผลิตทางเกษตรที่สำคัญของฝรั่งเศส นั่นคือ ข้าวสาลี, ข้าวโพด, ไร่องุ่น และเหล้าองุ่นขาว ที่สำคัญเป็นแคว้นที่มีชื่อเสียงด้านไร่องุ่นคุณภาพดี เนื่องด้วยมีอากาศที่อบอุ่นและได้ความชุ่มชื้นจากมหาสมุทร และยังเป็นแหล่งของอาหารชั้นเลิศอีกหลายชนิด เช่น Rillettes หมูบดปรุงรสพิเศษ ไก่เนื้อแน่น ปลาน้ำจืดเนื้อนุ่ม นอกจากนี้ยังเป็นแดนสวรรค์ของการล่องเรือ เพราะมีแม่น้ำไหลผ่านหลายสาย เช่น แม่น้ำลัวร์ แมน ซาร์ธ มาแยน

ในปี ค.ศ. 2004 นิตยสารไทม์บรรยายน็องต์ว่าเป็น “เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในบรรดาเมืองต่างๆ ในยุโรป

Centre-Val de Loire  Orléans (ออร์เลอ็อง)

เป็นแคว้นที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวปราสาทที่สวยงามริมฝั่งแม่น้ำลัวร์ เช่น Chambord, Blois, Azay-le-Rideau, Chenonceau นอกจากนี้ยังมีวิหารแห่งเมือง Bourges และ Chartres ซึ่งถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็นอุทยานของฝรั่งเศสเพราะ มีอุทยานแห่งชาติถึง 3 แห่ง (Brenne, Perche และ Loire-Anjou-Touraine)

Aquitaine-Limousin-Poitou-Charentes Bordeaux

แคว้นนี้ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกและเทือกเขาพิเรนีส ติดกับพรมแดนประเทศสเปนมีสินค้าที่มีชื่อเสียง คือ ไวน์แดง และแฮม (จากเมืองบายอน)

 มีหาดทรายสีทองกว้างใหญ่และชายทะเลดึงดูดนักโต้คลื่นจากทั่วโลก แคว้นนี้มีอาหารขึ้นชื่อหลากหลายเมนู เช่น หอยนางรมสดแกล้มไวน์ขาวรสเข้ม ไข่เจียวกับเห็ดทรัฟเฟิลหอมอร่อย

ที่สำคัญคือเป็นแหล่งปลูกองุ่นที่มีคุณภาพจึงเป็นแคว้นที่ผลิตไวน์คุณภาพรสเลิศที่สุดของฝรั่งเศส

เป็นแคว้นที่มีวิถีชีวิตขนบธรรมเนียมแบบดั้งเดิม และเป็นที่เก็บรักษามรดกทางวัฒนธรรมแบบโรมันที่เก่าแก่และทรงคุณค่าในอารามโบราณ เช่นที่เมือง Alnay, Saint-Savin ตลอดจนถึงเมืองสำคัญอย่าง Poitiers

นอกจากนี้ยังมีการผสมผสานเทคโนโลยีเพื่อก้าวเข้าสู่โลกแห่งอนาคตดังปรากฎเป็นรูปธรรมในสวนสนุกวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต Futuroscope

Auvergne-Rhône-Alpes  Lyon (ลียง)

เป็นสถานที่ตั้งของยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรปตะวันตกอีกด้วย นั่นคือยอดเขา มงบล็อง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สำคัญ เป็นแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติและเป็นสถานที่เหมาะสมยิ่งสำหรับกีฬากลางแจ้งหลายประเภท และมีของดีประจำแคว้นนั่นคือ เนยแข็งคุณภาพของพื้นเมืองแท้ ๆ

นอกจากนี้ยังมีอุทยานแห่งชาติแหล่งภูเขาไฟในโอแวร์ญเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป อุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วซึ่งเรียงรายกันถึง 80 ลูกและกินระยะทางถึง 35 กิโลเมตร

ILe-de-France  Paris (ปารีส)

ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศเยื้องไปทางทิศเหนือ อิล-เดอ-ฟรองซ์เป็นชื่อแคว้นที่ตั้งของนครปารีสซึ่งเป็นนครแห่งแสงสี สวรรค์ของคู่รัก ศูนย์กลางการออกแบบและแฟชั่นของโลก มหานครทันสมัยที่ไม่เคยหยุดนิ่ง อีกทั้งยังเป็นแคว้นที่มีสถานที่อยู่อาศัยและธรรมชาติที่สวยงานทั้งหมู่บ้าน Vallées de Chevreuse หรือป่าไม้ที่ Rambouillet(ร็องบุยเย่ต์) นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญหลาย ๆ แห่ง อาทิเช่น พระราชวังแวร์ซายด์ แคว้นนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นศูนย์รวมของวิถีชีวิตแบบฝรั่งเศสโดยแท้

Bourgogne-Franche-Comté  Dijon (ดีฌง)

เป็นแคว้นที่มีอารามเก่าแก่สมัยโรมัน และหมู่บ้านเล็ก ๆ ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของแคว้น นอกจากนี้ยังมีอาหารชื่อดังทั้ง ไก่อบเหล้า, หอยทากอบ และไวน์ชั้นเลิศที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก อาทิ ชองแบร์แต็ง, โกลส์-วูโฌต์ โรมาเน่ ก็งตี หรือ กอร์ตง

มีผลผลิตที่สำคัญอาทิเช่น ข้าวสาลี, ขนมปัง, เครื่องเทศ และนาฬิกาชั้นนำมักจะถูกผลิตจากที่นี่เป็นสินค้าส่งออก

สินค้าที่มีชื่อเสียงคือ เนยแข็งจากก็งเต้ หมูแฮมตำรับดั้งเดิม ไวน์จากจูราหลายชนิด

นอกจากนี้ยังมีโบสถ์ Chapelle de Ronchamp ซึ่งออกแบบโดย Le Corbusier สถาปนิกผู้รังสรรค์งานล้ำยุค

ที่โดดเด่นมากคือ อารามเก่าแก่แห่งเมืองกลูนี เวเซอเลย์ โอตัวและตูร์นูส์

Alsace-Champagne-Ardenne-Lorraine  Strasbourg
(สทราซบูร์)

เป็นแคว้นติดกับประเทศเยอรมนี, เบลเยียม, ลักเซมเบิร์ก และสวิตเซอร์แลนด์ มีชื่อเสียงทางด้านอาหาร เป็นถิ่นกำเนิดและแหล่งผลิตของแชมเปญระดับโลกสัญลักษณ์ของงานฉลองและความสำเร็จ นอกจากแชมเปญแล้วยังมีอาหารที่ขึ้นชื่อหลากหลายชนิดเช่น หมูแฮมอาร์เดน ไส้กรอกบูแด็งขาว เห็ดทรัฟเฟิล เนยแข็ง ชูครุต (Choucroüte) กะหล่ำปลีดองที่รับประทานกับไส้กรอกและหมูแฮมนานาชนิด ขนมปังเนยสดอบกับลูกเกดและอัลมอนด์

นอกจากนี้ยังมีมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า อาทิเช่นจตุรัสสตานีสลาซ (Place Stanislas) วิหารประจำเมืองเม็ตซ์ (Metz)ซึ่งถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก และตั้งอยู่ในเมืองน็องซี (Nancy)

เมืองสทราซบูร์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นเป็นที่ตั้งของรัฐสภายุโรป ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ที่สวยงามมีเสน่ห์ รวมทั้งยังมีวิหารประจำเมืองที่สร้างด้วยหินทรายสีชมพูงามโดดเด่น

Languedoc-Roussillon-Midi-Pyrénées Toulouse(ตูลูซ)

ตั้งอยู่ทางใต้ของฝรั่งเศส ทางตอนใต้ของแคว้นติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและชายแดนติดกับอิตาลี เป็นแดนสวรรค์ของนกฟลามิงโกสีชมพู ในเขตนี้มีแสงแดดสดใสเกือบตลอดทั้งปี

มีเมืองตูลูสเป็นเมืองหลวง และแคว้นนี้ยังเป็นแหล่งผลิตเหล้าอาร์มาญยัค สถานที่จัดงานเทศกาล Jazz in Marciac ที่มีชื่อเสียง

เป็นแคว้นที่ได้ชื่อว่าเป็นที่ที่ผู้คนอยู่ดีที่สุด เนื่องจากพื้นที่ที่กว้างขวางของแคว้นได้รวมไว้แต่ของดี ๆ อากาศที่สดใส ผู้คนที่สนุกสนาน จึงเหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการมาพักผ่อน และหลีกหนีความวุ่นวายจากในเมือง

สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของแคว้นนี้ ได้แก่ ม็งต์เปลิเย่ นีมส์ การ์กาสซอน อูแซสหรือสะพาน Pont du Gard (องค์ยูเนสโกยกให้เป็นมรดกโลก) Site ซึ่งเป็นเมืองท่าที่สำคัญ และเมือง Agen เป็นเมืองตากอากาศ

Provence-Alpes-Côte d’Azur  Marseille
(มาร์แซย์)

มีสภาพภูมิประเทศที่งดงามหลากหลายทั้งน้ำทะเล ที่ราบลุ่มเขียวขจีที่กามาร์ค (Camarque) ไร่องุ่นที่โวกลูซ (Vaucluse) ดินแดนที่ราบสูงของโอตต์-โปร์วองซ์ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ศิลปินและนักประพันธ์หลายคน อาทิเช่น แวนโก๊ะ หรือ ปีกัสโซ, Marcel Pagnol, Auguste Renoirและ Francis Scott Fitzgerald เลือกที่จะมาหาแรงบันดาลใจและใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ถือเป็นดินแดนศิลปินที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ

Corsica  Ajaccio
(อาฌักซีโย)

กอร์ซหรือคอร์ซิกาได้รับสมญาว่า เกาะแห่งความงามด้วยธรรมชาติหลากสีสัน เป็นดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์ สภาพภูมิประเทศของที่นี่มีทุกรูปแบบจากภูเขาจนถึงทะเล คุณสามารถชมความงามของทั้งภูเขาและทะเล บ้านเรือนพื้นเมืองงามแปลกตาที่ Morianincu โบสถ์และภาพเฟรสโก้ที่ Bozu วิถีชีวิตแบบคนเลี้ยงสัตว์ที่ Vanachese และ Noilu และด้วยความสวยงามของบ้านเรือนและธรรมชาติ แคว้นแห่งนี้จึงเป็นอีกสถานที่ที่ผู้คนนิยมมาเที่ยวและพักผ่อน

การปกครอง

การเมืองการปกครอง ระบบการปกครอง- ประชาธิปไตยในรูปแบบสาธารณรัฐ โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุข

สาธารณรัฐฝรั่งเศสปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แบบสาธารณรัฐเดี่ยวกึ่งประธานาธิบดี รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสได้ประกาศใช้เมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2501 โดยผ่านการลงประชามติ สาระสำคัญในรัฐธรรมนูญนั้นคือการเพิ่มอำนาจประธานาธิบดี อำนาจฝ่ายบริหารนั้นถูกแบ่งออกและมีหัวหน้า 2 คน ซึ่งก็คือประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ ผ่านการเลือกตั้งโดยตรงแบบสากล มีวาระ 5 ปี (เดิม 7 ปี) มีตำแหน่งประมุขแห่งรัฐอีกด้วย และนายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรัฐบาล ซึ่งถูกแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี

รัฐสภาฝรั่งเศสนั้นแบ่งออกเป็น 2 สภาได้แก่ สภาผู้แทนราษฎร (Assemblée Nationale) และ วุฒิสภา (Sénat) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นตัวแทนในเขตเลือกตั้ง มาจากการเลือกตั้งโดยตรง มีวาระ 5 ปี สภาผู้แทนราษฎรมีอำนาจในการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีและเสียงข้างมากในสภาสามารถกำหนดการตัดสินใจของรัฐบาลอีกด้วย สมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกของคณะผู้เลือกตั้ง มีวาระ 6 ปี (เดิม 9 ปี)

เงินตราฝรั่งเศส : สกุลยูโร (€)

เหรียญ 1€ =100 Cents

money11

money2money3corn