เรียนต่อสวิส ข้อมูลและระบบการศึกษา สำหรับผู้ที่สนใจ เรียนต่อสวิส แนะนำข้อมูลค่าใช้จ่ายในการกินอยู่สวิตเซอร์แลนด์ การเรียนต่อ การสมัครเรียน ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา จนถึงระดับอุดมศึกษา ก่อนอื่นเรามารู้จักประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่ถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีคุณภาพของคนและการใช้ชีวิตที่ดีติดอันดับโลก
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศที่อยู่ใจกลางทวีปยุโรป และเป็นประเทศที่มีภูมิทัศน์สวยงาม เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการโรงแรมในยุโรป ด้วยสภาพแวดล้อม และความเป็นอยู่ที่มีคุณภาพติดอันดับต้น ๆ ของโลก จึงทำให้คนไทยส่วนใหญ่นิยมไป เรียนต่อสวิส ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรการโรงแรม หรือหลักสูตรในระดับมหาวิทยาลัยก็ตาม
อัพเดทข้อมูลสถานการณ์ COVID-19 ดูได้ที่ www.swissinfo.ch
ทำไมถึงเลือกเรียนต่อสวิส?
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีมหาวิทยาลัยรัฐบาล 12 แห่ง ซึ่งเปิดโอกาสให้ทั้งนักเรียนในประเทศและนักเรียนต่างชาติเข้าสมัคร เรียนต่อประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงสถาบันเทคโนโลยีชั้นนำทางด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์อีก 2 แห่ง โดยในแต่ละมหาวิทยาลัยไม่เพียงแต่จะให้การเรียนการสอนที่หลากหลายสาขา แต่ยังเป็นผู้นำทางด้านการวิจัย ซึ่งจะเห็นได้จากนักวิทยาศาสตร์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์มักจะมีการทำวิจัยที่มีชื่อเสียงในระดับโลก และมีการอ้างถึงงานวิจัยของพวกเขาเหล่านี้ในจำนวนมาก ดังนี้การทำวิจัยในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกจึงถือว่าเป็นพื้นฐานสำคัญของมหาวิทยาลัยในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อผลิตบัณฑิตที่ดีสู่ตลาดทางการศึกษาต่อไป
- มีคุณภาพการศึกษาสูง
- เป็นผู้นำทางด้านวิจัยระดับโลก
- มีโปรแกรมให้เลือกหลากหลาย
- โปรแกรมป.โทส่วนใหญ่จะมีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ
- มีอัตรานักเรียนต่อคณะที่ต่ำ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในการเรียนเป็นกลุ่มเล็ก ๆ
- มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย
- ประชาชนในประเทศมีคุณภาพชีวิตที่ดีระดับโลกทั้งทางด้านที่อยู่อาศัย, การเรียนและการทำงาน
ปัจจัยหลักสำหรับนักศึกษาไทยในการไปเรียนต่อสวิส คือ คุณภาพการศึกษา และคุณภาพการใช้ชีวิต จริงหรือไม่?
เนื่องจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไม่มีทรัพยากรทางธรรมชาติ การศึกษาและแหล่งการเรียนรู้จึงการเป็นทรัพยากรสำคัญ ดังนั้น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์จึงถูกกล่าวถึงว่ามีระบบการศึกษาที่ดีแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว เนื่องจากรัฐแต่ละรัฐมีหน้าที่รับผิดชอบในการบริการทางศึกษา ระดับอนุบาล มัธยมศึกษา มหาวิทยาลัย ทำให้การศึกษานี้อาจจะแตกต่างกันในระหว่างรัฐ บุคลากรที่อยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จึงถือได้ว่าเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพสูง
ถ้าหากดูกันที่อันดับโลกของมหาวิทยาลัยแล้ว Top Ranking University ของโลก ถ้าไม่นับมหาวิทยาลัยจากสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร ถือได้ว่า มหาวิทยาลัยในสวิตเซอร์แลนด์ อย่าง ETH Zurich และ EFPL Lausanne เป็นมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับระดับโลก โดยในปัจจุบันตาม QS Ranking 2016-2017 ได้จัดอันดับให้ ETH Zurich อยู่ในอันดับที่ 8 ของโลก และ EFPL Lausanne อยู่ในอันดับที่ 14 ของโลก ซึ่งสำหรับนักวิจัยแล้ว รู้กันดีว่าสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอีกประเทศหนึ่งที่สนับสนุนงานวิจัย งานสัมมนาทางวิชาการ ในระดับโลกอยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังให้ทุนการศึกษาสำหรับผู้ที่ไปศึกษาวิจัย และผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกอีกด้วย
นอกจากนี้ การเรียนในสาขาที่นักศึกษาไทยนิยมเรียนกัน อย่าง การโรงแรมและการท่องเที่ยว พบว่า มี 6 สถาบันการโรงแรมในสวิตเซอร์แลนด์นั้น ติด Top 20 ของโลก ได้แก่ Ecole hôtelière de Lausanne, Les Roches International School of Hotel Management, Swiss Hotel Management School, HTMi – Hotel and Tourism Management Institute Switzerland, IMI – International Management Institute Switzerland และ Gilon Institute of Higher Education
และถึงแม้ว่า สวิตเซอร์แลนด์ จะมี Top Ranking University ถึง 2 แห่ง และมี Top Ranking ทางด้านการโรงแรมอยู่ถึง 6 แห่ง แต่ก็ยังคงรักษามาตรฐานคุณภาพการศึกษาของสถาบันอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดีทีเดียว หากดูตามการจัดอันดับตามสถิติค่ากลาง (Median) ของแต่ละประเทศในยุโรป โดย The Times Higher Education แล้ว จะพบว่าสวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีค่ากลางของคุณภาพการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างสูง นั่นแสดงให้เห็นว่า การรักษามาตรฐานการศึกษาในระดับอุดมศึกษาของสวิตเซอร์แลนด์นั้นมีคุณภาพ และน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก
สำหรับปัจจัยในเรื่องของคุณภาพการใช้ชีวิต สวิตเซอร์แลนด์นั้น ติดอันดับ Top 10 ประเทศที่มีคุณภาพชีวิตสูงในระดับโลกอย่างต่อเนื่องมานานหลายปี ด้วยคุณภาพของคนที่ใช้ชีวิตยึดถือตามกฎระเบียบของประเทศ และแบบแผนของการดำเนินชีวิตในแบบของชาวสวิส อีกทั้งการสร้างระบบการคมนาคมสาธารณะที่ทั่วถึง ทั้งทางรถไฟ เครื่องบิน รถราง (Tram) รถประจำทาง เป็นต้น นอกจากนี้สภาพแวดล้อมของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ยังคงพื้นที่สีเขียวไว้ได้อย่างมากอีกด้วย
การเรียนต่อในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
ด้วยคุณภาพการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพและความปลอดภัยในระดับสูง ซึ่งเป็นปัจจัยแรกสำหรับผู้ปกครองในการส่งนักเรียนเข้ามาเรียนในสวิตเซอร์แลนด์ โดยเฉพาะตั้งแต่ในระดับประถมศึกษา หรือในระดับมัธยมศึกษา นอกจากความปลอดภัยที่ทางผู้ปกครองสามารถวางใจได้แล้ว การสื่อสารภาษาที่สามยังเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ สวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีภาษาที่ใช้ในการสื่อสารถึง 4 ภาษา แยกตามภูมิภาค ทั้ง ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาเยอรมัน, ภาษาอิตาเลียน และภาษาโรมานซ์ ซึ่งเหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนต่อภาษาที่ 3, 4 หรือ 5 เพิ่มเติม อีกทั้งยังเป็นเส้นทางในการเข้าสู่มหาวิทยาลัยในยุโรปทั้งในสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส หรือการไปเรียนต่อในประเทศสหรัฐอเมริกา หรือในสหราชอาณาจักร เองก็สามารถทำได้เช่นกัน
สำหรับการ เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์ ในระดับประถมและมัธยมนั้น >> กฎระเบียบของโรงเรียนประจำในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ – หากผู้ปกครองท่านใดเคยได้สัมผัส หรือได้เห็นการเรียนการโรงแรมในสวิตเซอร์แลนด์แล้ว ที่จำเป็นต้องใส่แบบฟอร์มอยู่ตลอดเวลา การเรียนในระดับมัธยมในโรงเรียนประจำของสวิสดั้งเดิมเอง ก็ยังคงยึดถือ Swiss Standard เช่นเดียวกัน สิ่งสำคัญของการเรียนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ใช่ในเรื่องของการศึกษาเพียงอย่างเดียว แต่ทางโรงเรียนเอง ยังเตรียมพร้อมให้นักเรียนทุกคน สามารถออกไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีระเบียบแบบแผนและมีคุณภาพ
ข้อมูลอื่น ๆ ที่น่าสนใจของสวิส
เมืองสำคัญ
Geneva
เป็นเมืองหลวงของรัฐเจนีวา ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของประเทศ ติดกับประเทศฝรั่งเศสและทะเลสาบเลมอง (Lac Leman หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อว่าทะเลสาบเจนีวา) เจนีวาเป็นเมืองสำคัญที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองว่าเป็นเมืองนานาชาติ เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติหลายแห่ง อาทิเช่น สหประชาชาติ (UN), สภากาชาดสากล (ICRC), องค์การอนามัยโลก (WHO), องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO), ข้าหลวงใหญ่ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UN High Commission for Refugees), องค์กรเพื่อการวิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรป (CERN) และยังเป็นสถานที่ในการจัดการประชุม World Economic Forum (WEF) อีกด้วย
คนส่วนใหญ่จะรู้จักว่าเมืองเจนีวาเป็นเมืองแห่งนาฬิกา โดยในแต่ละปีจะมีงานจัดแสดงนาฬิกาที่มีชื่อเสียงระดับโลก (International Salon for Prestige Watchmaking) เมืองเจนีวายังมีสนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของประเทศ ซึ่งจะเชื่อมโดยตรงกับรถไฟที่สามารถเดินทางไปปารีสและมิลานได้
Zurich
เป็นเมืองหลวงของรัฐซูริค ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นทั้งศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรม เมืองซูริคได้กลายเมืองที่ผู้คนต้องการที่จะไปอยู่อาศัย ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์, โรงภาพยนตร์และฮอลล์สำหรับการแสดงดนตรี แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งบาร์, ไนท์คลับและดิสโก้มากกว่า 500 แห่ง นอกจากนี้ Bahnhofstrasse ยังเป็นหนึ่งในถนนช็อบปิ้งที่มีชื่อเสียงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ในเมืองซูริคยังมีมหาวิทยาลัยของรัฐ (Zurich University) และ ETHZ ซึ่งเป็นสถาบันเทคโนโลยีแห่งชาติที่มีชื่อเสียง ซึ่งในช่วงเวลาปี 1975 ถึง 2002 มีผู้รับรางวัลโนเบลทางด้านวิทยาศาสตร์จากที่นี่ถึง 7 คนด้วยกัน
ในส่วนของสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะอยู่ในเมือง Kloten ใกล้ ๆ กับเมืองซูริค นอกจากนี้เมืองนี้ยังเป็นศูนย์กลางของการเดินทางโดยรถไฟ และซูริคยังได้รับยกย่องว่าเป็นเมืองหลวงที่มีการจัดการทางด้านจราจรดีที่สุดในโลกอีกด้วย
Lausanne
เป็นเมืองหลวงของรัฐโว (Vaud) ตั้งอยู่ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งทะเลสาบเจนี มีธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงาม เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศและเป็นศูนย์กลางทางด้านการบริหารและเศรษฐกิจทางตะวันตกของประเทศนอกจากเมืองเจนีวา
เมืองนี้ยังเป็นสถานที่ตั้งของ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) และยังมีองค์กรนานาชาติทางด้านกีฬาตั้งอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นกีฬาประเภท ปิงปอง, วอลเลย์บอล, เบสบอล, กีฬาฟันดาบ, มวยปล้ำ, ว่ายน้ำ, ยิงธนูกีฬาทางอากาศ และกีฬาประเภทขว้างจักร และยังเป็นที่ตั้งของสถาบันเทคโนโลยี 1 ใน 2 ของประเทศ (EPFL) อีกด้วย
ซางกัลเลิน (St Gallen)
ตั้งอยู่ระหว่างหุบเขา 2 ลูก เมืองซางกัลเลินเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาคตะวันออกของประเทศ ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมสิ่งทอตั้งแต่คริสศตวรรษที่ 15 และกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทั้งการทอผ้าลินินและการเย็บผ้า
ลูเซิร์น (Lucerne)
เป็นเมืองศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เศรษฐกิจในมืองนี้ขึ้นอยู่กับการค้าและการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับการบริการอาทิเช่น การขนส่ง, บริการด้านสุขภาพและการให้คำปรึกษา
อากาศในสวิตเซอร์แลนด์
ภูมิอากาศสวิตเซอร์แลนด์ (เมืองซูริค)
- ตอนเช้า 5 องศาเซลเซียส
- ตอนกลางวัน 7 องศาเซลเซียส
- ตอนกลางคืน 0 องศาเซลเซียส
ทางตอนเหนือและตะวันออกของประเทศ (Basel, Luzern, St. Gall, Zurich)ช่วงฤดูหนาวจะค่อนข้างหนาวในขณะที่ช่วงฤดูร้อนอากาศจะอบอุ่น โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นภูเขาทางแถบตะวันออกอุณหภูมิจะลดต่ำลงมากและหลาย ๆภูเขาจะถูกปกคลุมด้วยหิมะ
ทางตะวันตกของประเทศ (Bern, Fribourg, Geneva, Lausanne, Neuchatel) ที่ราบสูงฝั่งตะวันตกจะมีอากาศอบอุ่น โดยอุณหภูมิในช่วงฤดูร้อนจะไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส และในช่วงฤดูหนาก็จะไม่ต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส
ทางตอนใต้ของประเทศ (Lugano) รัฐทิชิโน (Ticino) ซึ่งเป็นรัฐทางตอนใต้ของเทือกเขาแอลป์ จะมีวันที่แดดจัดถึง 298 วันใน 1 ปี และอุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนกรกฎาคมจะมากกว่า 26 องศาเซลเซียส
สกุลเงินที่ใช้กันในสวิตเซอร์แลนด์
สวิสฟรังก์ (Swiss Francs) “CHF” มีทั้งธนบัตร ใบละ 10, 20, 50, 100, 200, และ 1,000 เหรียญ หน่วยเป็นซองตีมส์ (Centimes) 5, 10, 20
ความแตกต่างทางเวลา
โดยทั่วไปเวลาที่สวิตเซอร์แลนด์ช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง ยกเว้นในช่วงเวลา Daylight Saving time คือจะนับจากวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม ไปจนถึงวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคมของในแต่ละปี ช่วงนี้เวลาที่สวิตเซอร์แลนด์จะช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง
อยากไปเรียนสวิส ม.5 สายวิทย์คณิตเพื่อต่อหมอที่สวิสค่ะ อยากทราบว่าถ้าจะเข้าเรียนโรงเรียนรัฐได้ไหมคะแล้วค่าเทอมต้องจ่ายไหมคะ ถ้าจ่ายแพงมากไหมค่ะ ทำยังไงได้บ้างคะถึงจะได้เรียนฟรี ไม่เอาสอบทุนนะคะ คือหนูอยู่สายวิทย์แน่นอนหนูไม่เก่งภาษาคะ แล้วมีเพื่อนแม่อยู่ที่นั่นคะค่าใช้จ่ายที่พักอาศัยเลยไม่ต้องห่วง ขอบคุณค่ะ
ตอบ น้องแพม
ข้อมูลที่พี่จะให้ต่อไปนี้นะคะ อ้างอิงจาก Rektorenkonferenz der Schweizer Universitäten (CRUS.ch) ซึ่งน้องสามารถเข้าไปดูในเวบไซต์ได้เลยค่ะ
สำหรับหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับทาง แพทยศาสตร์, ทันตแพทยศาสตร์, สัตวแพทยศาสตร์ และกายภาพบำบัด นักเรียนต่างชาติจะไม่ได้รับการอนุญาติให้สมัครเรียนตามหลักสูตรนี้ได้ เว้นแต่ตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้ค่ะ
a. Citizens of Liechtenstein;
b. in Switzerland or Liechtenstein established Foreigners;
c. other foreigners residing in Switzerland, whose parents are domiciled in Switzerland;
d. other foreigners residing in Switzerland who are married to a Swiss / a Swiss, or their spouses are either established for at least five years in Switzerland, or at least five years in the possession of a Swiss work permit;
e. other foreigners residing in Switzerland who are at least five years in the possession of a Swiss work permit, or foreigners resident in Switzerland, whose parents have at least five years in the possession of a Swiss work permit;
f. other foreigners residing in Switzerland, which (a Swiss or cantonal, Swiss accredited baccalaureate certificate in accordance with Regulation of 15 February 1995 on the recognition of Matura cards and the rules of the EDK of 16 January 1995 on the recognition of Matura cards ) or a federal Vocational identity in conjunction with the card on passed additional examinations (according to the Decree of 19 December 2003 on the recognition of professional baccalaureate certificates for admission to the universities) have;
g. Children, living in Switzerland, whose parents reside in Switzerland and nationals of a Member State of the European Community (EC), are as long as they are not yet 21 years old or if they are dependents (under free movement agreement with the EC, Annex 1 Article 3, § 6);
h. Children whose parents enjoy diplomatic status in Switzerland;
i. by Switzerland recognized refugees;
ขอขอบคุณมากค่ะพี่บอม
พี่บอมคะพอจะแนะนำ higt school ที่เจนีวา ให้หน่อยไหมคะ
ตอบ น้องแพม
College du Leman ค่ะ ลองเชคดูนะคะ เป็นโรงเรียนประจำค่ะ
พี่บอมพอจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับค่าเทอมของ College du Leman ไหมคะ
ตอบ น้องแพม
ประมาณ 74,500 สวิสฟรังค์ต่อปีค่ะ
สวัสดีครับ
ผมจบการศึกษาทางด้านวิศวกรรมทั้งปริญตาตรีและปริญญาโท และมีความสนใจศึกษาต่อด้านจิตวิทยาในระดับปริญญาโท
ไม่ทราบว่าทางมหาวิทยาลัยในสวิส เคยมี case เปิดรับการศึกษาต่อข้ามสาขาแบบนี้หรือไม่ครับ
ขอบคุณครับ
ตอบ คุณ Khett
1. เป็นกรณียากนะคะ เพราะ Psychology เป็นสาขาวิชาที่ต้องมีการปูพื้นฐานในระดับปริญญาตรีมาก่อน การต่อข้ามสาขาในปริญญาโทจึงไม่ค่อยพบ ซึ่งจะสังเกตได้จากคุณสมบัติของการรับเข้าที่ระบุชัดเจนว่าจะต้องจบปริญญาตรีทางด้านสาขาจิตวิทยาเท่านั้น
2. สาขาวิชานี้ ส่วนใหญ่จะทำการเรียนการสอนเป็นภาษาเยอรมัน / ฝรั่งเศส เท่านั้นค่ะ
สวัสดีค่ะ ตอนนี่ อยู่ม.5 แล้วค่ะ อยากเรียนต่อคณะที่เกี่ยวกับภาษาหรือไม่ก็สายวิทยาศาสตร์สุขภาพค่ะ เพราะตอนนี้เรียนสายวิทย์อยู่ค่ะ โดยส่วนตัวชอบเรียนทั้งภาษาและก็วิทย์ อยากต่อป.ตรี ที่สวิสค่ะ รบกวนพี่ช่วยรายละเอียดให้หน่อยนะคะ ขอที่ราคาไม่แพงจนเกินไปนะคะ^^
ตอบ น้อง Plaifa
การเรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์ ระดับปริญญาตรี จะเรียนเป็นภาษาเยอรมัน / ฝรั่งเศส / อิตาเลียน นะคะ รบกวนแจ้งนะคะ ว่าตอนนี้ได้ภาษาอะไรอยู่คะ พี่จะได้เจาะจงไปที่ฝั่งที่ใช้ภาษานั้น ๆ ให้ค่ะ
ถ้าจะเรียนเภสัชหรือธุรกิจระหว่างประเทศ จะพอมีสอนเป็นอังกฤษไหมคะ อยากลองเรียนเยอรมันเพิ่มเติมด้วยค่ะ หนูกะจะเรียนภาษาที่โน้นก่อน แล้วคอยเรียนต่อป.ตรี รบกวนพี่บอมช่วยบอกรายละเอียดในการเรียนภาษา และป.ตรี ด้วยนะคะ ^^
ขอรายละเอียด ป.เอก ด้านกฎหมายมหาชน ค่าเรียนและระยะเวลาในการเรียน ที่พัก คาดว่าอาจจะไปเรียนกลางปี ขอรบกวนด้วยนะครับขอบคุณมากครับ
ตอบ คุณ Sahatchai
Public Law ต้องลองสอบถามไปที่ Professor ของทาง University of Zurich โดยตรงนะคะ ค่าเรียนจะอยู่ที่ 150 สวิสฟรังก์นะคะ ต่อภาคการศึกษา เรียนเป็นภาษาเยอรมันค่ะ สอบถามทางคณะได้โดยตรงเลยนะคะ เรื่องที่พัก นักเรียนที่อยู่ซูริคส่วนใหญ่จะหาที่พักเองนะคะ มีหลายเรทนะคะ ตกประมาณ 500-800 สวิสฟรังก์ต่อเดือนค่ะ
เรียนจบ ป.ตรี เภสัช อยากต่อ ป.โท เกี่ยวกับพวก immunology ไม่ก็ infection มีมหาลัยแนะนำมั้ยค่ะ
ตอบ น้อง Vanilla
ตอนนี้เท่าที่พี่ดูจะมีพวก Toxicology ของคณะเภสัชฯ ที่ University of Basel ค่ะ
ถ้าจบจิตวิทยาที่เมืองไทย สามารถต่อที่นุ้นได้ไหมครับ จิตวิทยาที่นุ้นเป็นไงบ้างครับ
ตอบ คุณภูมินทร์
ต่อได้ค่ะ แต่อาจจะต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม และเรียนเป็นภาษาของเมืองนั้น ๆ อาทิเช่น University of Geneva ก็จะสอนเป็นภาษาฝรั่งเศส และ University of Zurich ก็จะสอนเป็นภาษาเยอรมันค่ะ
กฎหมายมหาชน หลักสูตรภาษาอังกฤษครับ รบกวนขอรายละเอียดด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ตอบ คุณ Sahatchai
Public Law มีที่เดียวนะคะ คือ University of Zurich พี่เลยส่ง Public Policy ให้เป็นของแถมด้วยค่ะ เผื่ออยากดูรายละเอียดค่ะ