แผนภูมิเปรียบเทียบ ระบบการศึกษาของประเทศอังกฤษ กับ ไทย

ระบบการศึกษา ประเทศอังกฤษ สายสามัญ ช่วงอายุ (ปี) ระบบการศึกษา ประเทศไทย สายสามัญ
ระดับการศึกษา ระดับชั้น การสอบวัดผล ระดับประเทศ
Foundation Stage (อนุบาล) Nursery1 3-4 อนุบาล 1
Nursery2 4-5 อนุบาล 2
Key Stage 1 (ประถม) Year 1 5-6 อนุบาล 3
Year 2 6-7 ป. 1
Key Stage 2 (ประถม) Year 3 7-8 ป. 2
Year 4 8-9 ป. 3
Year 5 9-10 ป. 4
Year 6 SATS 10-11 ป. 5
Key Stage 3 (มัธยม) Year 7 11-12 ป. 6
Year 8 12-13 ม. 1
Year 9 13-14 ม. 2
Key Stage 4 (GCSE) Year 10 14-15 ม. 3
Year 11 GCSE 15-16 ม. 4
Key Stage 5 (Sixth Form, A Levels) Year 12 AS Level 16-17 ม. 5
Year 13 A2 Level 17-18 ม. 6
เรียนต่อระดับ ปริญญา >=18 ปริญญา

ระบบการศึกษาประเทศอังกฤษ

Key Stage 1 (ช่วงอายุ 5-7 ปี, Year 1-2)

นักเรียนใน Key Stage นี้ อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 5-7 ปี วิชาหลักที่เรียนมี 3 รายวิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์, ภาษาอังกฤษ และวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้จะเป็นวิชาที่สอนให้นักเรียนมีความรู้รอบตัวเพิ่มเติมหรือเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง อาทิเช่น วิชาที่เกี่ยวกับศาสนา พลศึกษา สุขศึกษา ศิลปะ นันทนาการ เป็นต้น

โดยเป้าหมายใน Key Stage นี้คือ
– สามารถอ่านออกเขียนได้
– สามารถบวกลบเลขได้
– มีความเข้าใจวิทยาศาสตร์ทั่วไป
– มีความประพฤติทางสังคมที่เหมาะสม
– มีพัฒนาการเรื่องมนุษยสัมพันธ์ ทั้งในห้องเรียน และ นอกห้องเรียน ซึ่งส่วนใหญ่มักใช้ระบบบัดดี้คลาส เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรุ่น (เพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง)

Key stage 2 (ช่วงอายุ 7-11 ปี, Year 3-6)

นักเรียนใน Key Stage นี้ อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 7-11 ปี วิชาหลักที่ยังคงเป็น ภาษาอังกฤษ, คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ นอกจากนั้นยังมีวิชาที่น่าสนใจ ให้เรียนเพิ่ม เช่น วิชาภาษาฝรั่งเศส, คณิตศาสตร์ ที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น, วิชาเกี่ยวกับการอ่านและการตีความ, วิธีการทำรายงาน และการพูดบรรยาย เป็นต้น โดยมีคุณครูผู้เชียวชาญในแต่ละวิชาเป็นผู้ควบคุมดูแลการสอนให้กับนักเรียน

โดยเป้าหมายใน Key Stage นี้คือ
– สามารถพูดนำเสนอหน้าชั้นเรียนแบบสั้นๆได้
– สามารถอ่านและทำความเข้าใจเนื้อเรื่อง
– มีพัฒนาการทักษะการเขียนรายงานที่ดี

Key Stage 3 (ช่วงอายุ 11-14 ปี, Year 7-9)

นักเรียนใน Key Stage นี้ อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 11-14 ปี โดยจะมีเหล่าคุณครูผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทำหน้าที่สอนหนังสือและให้ความรู้แก่นักเรียนในวิชานั้นๆ นอกจากนั้นยังมีการติดตามผลการเรียนของนักเรียนแต่ละคนอีกด้วย

รายวิชาที่เรียน ได้แก่
– ภาษาอังกฤษ
– คณิตศาสตร์
– วิทยาศาสตร์
– ประวัติศาสตร์
– ภูมิศาสตร์
– ภาษาต่างประเทศ
– สาระสนเทศและเทคโนโลยี
– ศิลปะและการออกแบบ
– ดนตรี
– พละศึกษา
– ประชากรศาสตร์
– คอมพิวเตอร์

โดยเป้าหมายใน Key Stage นี้คือ
– นักเรียนมีความกล้าแสดงออก กล้าแสดงความคิดเห็น
– มีความสามารถใน การติดสินใจอย่างมีเหตุผล
– นักเรียนสามารถค้นหาตัวเองได้ ว่าชอบเรียนอะไร มีความถนัดทางด้านไหน

Key Stage 4 (ช่วงอายุ 14-16 ปี, Year 10-11)

นักเรียนใน Key Stage นี้ อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 14-16 ปี ซึ่งเป็นช่วงระดับมัธยมปลาย โดยนักเรียนจะต้องทำการเลือกเรียน 8-12 วิชา เพื่อเตรียมตัวสอบ IGCSE หรือ GCSE เป็นการสอบเทียบวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายของระบบอังกฤษ ซึ่งเป็นการสอบระดับประเทศ

IGCSE ย่อมาจาก International General Certificate of Secondary Education การสอบ IGCSE นั้นจะถูกจัดขึ้นโดยโรงเรียนนานาชาติที่ใช้ระบบการเรียนการสอนแบบอังกฤษ
GCSE ย่อมาจาก General Certificate of Secondary Education การสอบ GCSE นั้นจะถูกจัดขึ้นในโรงเรียนหรือวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ

โดยทั้ง 2 อย่าง นักเรียนจะต้องเลือกสอบประมาณ 8-12 วิชา เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา ภาษาต่างประเทศ ศิลปะ ฯลฯ และผลการสอบจะแบ่งออกเป็น 7 ระดับ คือ Grade A, B, C, D, E, F และ G นักเรียนที่สอบได้ Grade C ขึ้นไปจึงจะถือว่าสอบผ่าน นักเรียนที่สอบ IGCSE หรือ GCSE จนได้วุฒิบัตร สามารถเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรสายสามัญ “A” Level ได้ หรือหลักสูตรสายวิชาชีพ Advanced GNVQ โดยมีระยะเวลาเรียน 2 ปี

หลักสูตรวิชาระดับประเทศที่บังคับเรียน แบ่งออกเป็น วิชาหลัก และ วิชาพื้นฐาน

วิชาหลัก ได้แก่ ภาษาอังกฤษอังกฤษ, คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์

วิชาพื้นฐาน ได้แก่ คอมพิวเตอร์, พละศึกษา และประชากรศาสตร์

และโรงเรียนต้องเปิดสอนอย่างน้อยหนึ่งวิชา ในแต่ละหมวดวิชาดังต่อไปนี้
– ศิลปะ
– สารสนเทศและเทคโนโลยี
– มนุษย์ศาสตร์
– ภาษาต่างประเทศ

โดยเป้าหมายใน Key Stage นี้คือ
– ตัดสินใจได้ว่า สนใจศึกษาต่อในสาชาใด
– มีความรู้พื้นฐาน ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

Key Stage 5 (ช่วงอายุ 16-18 ปี, Year 12-13)

นักเรียนใน Key Stage นี้ อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 16-18 ปี จะมีระยะเวลาเรียน 2 ปี ได้แก่ Year 12 และ Year 13
โดยเป้าหมายของนักเรียนในช่วงนี้คือ เรียนเพื่อเตรียมตัวสอบ GCE A Level (GCE Advanced) เพื่อนำผลสอบไปยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย

GCE A Level (GCE Advanced) เป็นการสอบวัดผลความรู้ของนักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป วิชาที่สอบมีให้เลือกกว่า 50 วิชา โดยส่วนใหญ่จะสอบเพียง 2 – 3 วิชาที่มีความสัมพันธ์กัน คือ เลือกสอบทางด้าน Science หรือทางด้าน Humanities ผลการสอบแบ่งออกเป็น 5 ระดับ คือ A, B, C, D และ E ซึ่ง Grade ทั้ง 5 ระดับนี้ถือว่าสอบผ่านทั้งหมด แต่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะรับพิจารณารับผู้ที่มีผลการสอบในระดับ C ขึ้นไป แต่มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจจะรับผู้ที่ได้คะแนนระดับ A และ B สำหรับผลสอบ GCE “A” Level นี้เป็นเกณฑ์ที่สถานศึกษาใชัในการพิจารณารับนักเรียนเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา

ตัวอย่างรายวิชาที่เรียน ได้แก่ ชีววิทยา, เคมี, ฟิสิกส์, คณิตศาสตร์, ภาษาอังกฤษ, สื่อสารมวลชน, วรรณกรมอังกฤษ, ICT,เศรษฐศาสตร์, พละศึกษา, ประวัติศาสตร์, ภาษาฝรั่งเศส, การศึกษาธุรกิจ, การออกแบบสินค้า, ศิลปะ, สังคมวิทยา, จิตวิทยา เป็นต้น

ระดับอุดมศึกษา (Higher Education)

นักศึกษาของไทย มีจำนวนไม่น้อย ที่มา ศึกษาต่ออังกฤษ โดยมีเป้าหมายในดารเรียนในระดับอุดมศึกษา ซึ่งหลักสูตรระดับอุดมศึกษา แบ่งออกเป็น

Undergraduate ศึกษาต่ออังกฤษ ในระดับปริญญาตรี

– Bachelor Degree เป็นหลักสูตรการศึกษา 3 ปี ยกเว้นบางสาขาวิชา เช่น วิศวกรรมศาสตร์ (4 ปี) สถาปัตยกรรมศาสตร์ (5 ปี) ทันตแพทย์ (5 ปี) สัตวแพทย์ (5 ปี) แพทย์ (6 ปี)

Postgraduate ศึกษาต่ออังกฤษ ในระดับสูงกว่าระดับปริญญาตรีแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ

– Postgraduate Certificate Diploma หลักสูตรการศึกษา 9 เดือนถึง 1 ปี รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีเข้าศึกษาต่อ
– Master Degree หลักสูตรการศึกษา 1 – 2 ปี
– Doctoral Degree ใช้เวลาในการศึกษา 3 ปี หรือมากกว่า 3 ปี ในบางสาขา

ข้อมูลที่ควรทราบ

– ระบบการศึกษาของอังกฤษ เน้น คณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์
– เด็กนักเรียนไทย จะเข้าสู่การศึกษาภาคบังคับ (Year 1) ช้ากว่า นักเรียนอังกฤษ 1 ปี โดยที่อังกฤษ การศึกษาภาคบังคับเริ่มตั้งแต่อายุ 5-6 ปี ส่วนเด็กนักเรียนไทยจะเข้าเรียน ป.1 อายุ 6-7 ปี พอถึงปลายทางที่ ช่วงอายุ 17-18 ปี จะทำให้เด็กไทย เรียนน้อยกว่า เด็กอังกฤษ 1 ปี เด็กนักเรียนอังกฤษ จะได้เรียนถึง Year 13 ส่วนเด็กไทย จะได้เรียนถึง ม.6 หรือ Year 12
– นักเรียนไทยที่จบ ม.6 มา หากต้องการมาต่อ ป.ตรี ที่อังกฤษ ส่วนใหญ่ จะต้องเรียน Foundation ก่อน 1 ปี
– เด็กอังกฤษ ประมาณ 95% จะเรียนในโรงเรียนรัฐบาล แต่สำหรับครอบครัวที่มีฐานะดีมักส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชน
– ในส่วนของ นักเรียนต่างชาติที่มา ศึกษาต่อที่อังกฤษ ในระดับมัธยมศึกษา จะมีสิทธิลงเรียนในโรงเรียนเอกชนเท่านั้น
– ภาคการศึกษาของสถานศึกษาทุกระดับในอังกฤษ เริ่มต้นภาคแรก ในราวปลายเดือนกันยายน หรือต้นเดือนตุลาคมของปีที่หนึ่ง และสิ้นสุดราวปลายเดือนมิถุนายนหรือต้นเดือนกรกฎาคมของปีถัดไป โดยแบ่งออกเป็น 3 ภาค คือ
ภาคต้น (Autumn Term) เริ่มปลายเดือนกันยายน ถึง กลางเดือนธันวาคม
ภาคกลาง (Spring Term) เริ่มกลางเดือนมกราคม ถึง ปลายเดือนมีนาคม
ภาคปลาย (Summer Term) เริ่มปลายเดือนเมษายน ถึง ต้นเดือนกรกฎาคม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.gov.uk/