ระบบการศึกษาเยอรมัน

 

การศึกษาในประเทศเยอรมนีได้รับรองจากต่างชาติว่ามีคุณภาพดีอีกประเทศหนึ่งในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นทั้งในระดับมัธยมศึกษา และในระดับอุดมศึกษาด้วยกัน

 

ระบบการศึกษาในประเทศเยอรมนี

 

Partway สำหรับนักเรียนในระดับประถมศึกษา – ระดับมัธยมศึกษา

education system in germany

 

โรงเรียนในเยอรมนี แบ่งเป็นดังนี้

–  โรงเรียนของรัฐ  — นักเรียนจะได้เรียนฟรี ไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน ส่วนใหญ่แล้วจะคัดเลือกจากนักเรียนที่อยู่ในแถบ ๆโรงเรียนก่อน เพื่อให้มีการกระจายการศึกษาได้อย่างทั่วถึง

–   โรงเรียนวอลดอร์ฟ (Waldorf School) ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 200 โรงเรียนในเยอรมนี

–   มอนเตสซอรี่ (Montessori Method)  มีอยู่ประมาณ 272 แห่งในเยอรมนี

–   การศึกษาทางเลือกแบบ Free School (Freie Alternativschue) มีอยู่ประมาณ 85 แห่งในเยอรมนี

–   โรงเรียนศาสนาอื่น ๆ อาทิเช่น โปแตสแตนท์ 63 โรงเรียน, คาทอลิก 114 โรงเรียน เป็นต้น

หลังจากนักเรียนจบการศึกษาในระดับประถมศึกษา นักเรียนจะสามารถเลือกเรียน โรงเรียนในระดับมัธยมศึกษาได้ดังนี้

–   Hauptschule  นักเรียนที่มีผลการเรียนในระดับล่าง จะเข้ามาเรียนที่นี่ เนื่องจากการเรียนการสอนจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป และมีการเรียนสายวิชาชีพค่อนข้างเยอะ

–    Realschule เป็นโรงเรียนมัธยมต้นที่เน้นการเรียนการสอนไปในสายอาชีพ เพื่อไปเรียนต่อในโรงเรียนอาชีวศึกษาระดับกลางและระดับสูงต่อไป

–    Gymnasium เป็นโรงเรียนที่เน้นการเรียนการสอนในสายสามัญ เพื่อสอบเข้าสู่มหาวิทยาลัย  ซึ่งบางโรงเรียนอาจจะมีการสอนเน้นหนักไปทางสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง

–    Gesamtschule เป็นโรงเรียนมัธยมต้นที่นำเอาสายสามัญและสายวิชาชีพมาผสมรวมกัน และจัดระบบการเรียนการสอนแบบใหม่

ปีการศึกษา

ต้นปีการศึกษาจะเริ่มทุก ๆ กลางเดือนหรือปลายเดือนสิงหาคม ใน 1 ปีการศึกษา จะแบ่งออกเป็น 2 ภาคการศึกษา

 

สถาบันอุดมศึกษา

ประเภทของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในเยอรมนีสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้

1.  มหาวิทยาลัยรัฐ (The Classical Universities)

เป็นมหาวิทยาลัยที่เน้นการศึกษาในหลักสูตรทางด้าน แพทยศาสตร์, นิติศาสตร์, มนุษยศาสตร์ และวิทยาศาสตร์

2.  สถาบันเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ (Universities of Applied Sciences / Fachhochschulen)

สถาบันเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์จะเน้นหนักทางด้านการสอนเพื่อนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานเฉพาะ หรือในอุตสาหกรรม มากกว่าเน้นการทำวิจัย โดยส่วนใหญ่จะเปิดหลักสูตรระดับดีกรีปริญญาตรีจนถึงปริญญาโทในสาขาที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทางด้านเคมีภัณฑ์ หรือการอนุรักษ์ทางด้านศิลปะ

3.  วิทยาลัยศิลปะ, ภาพยนต์ และดนตรี (Colleges of Art, Film and Music)

เป็นสถาบันการศึกษาสำหรับผู้ที่มีพรสวรรค์ทางด้านความคิดสร้างสรรค์  ผู้สมัครจะต้องยื่น Portfolio เพื่อแสดงผลงานของผู้สมัครในการพิจารณาเข้าศึกษา ซึ่งทางสถาบันไม่จำกัดว่าจะต้องจบการศึกษาในระบบการศึกษาของเยอรมนีเท่านั้น หากนักเรียนต่างชาติที่มีพรสวรรค์และมีคุณวุฒิเทียบเท่า ก็จะสามารถเข้าศึกษาได้

4.  มหาวิทยาลัยเอกชน (Private Universities)

ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยเอกชนมากกว่า 80 แห่งที่ได้รับการรับรองจากรัฐในประเทศเยอรมนี ซึ่งส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยเหล่านี้จะได้รับการสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการหรือทางด้านการเงินจากธุรกิจหรือมูลนิธิต่าง ๆ นอกจากนี้ในบางแห่งยังได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาลด้วย