FAQ/ถามตอบ – เรียนแพทย์ที่ประเทศเยอรมัน

1. คุณสมบัติ

2. การสมัคร

3. การเรียนการสอน

 

1.คุณสมบัติ

 

คำถาม นักศึกษาต่างชาติต้องผ่านการทดสอบใดบ้าง

คำตอบ นักศึกษาต่างชาติไม่จำเป็นต้องผ่านการทดสอบใดเป็นพิเศษ แต่จำเป็นต้องมีใบรับรองวุฒิระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย แต่ถ้าใบรับรองนั้นไม่สามารถเทียบวุฒิได้ นักศึกษาต้องลงเรียนที่ Studienkolleg ณ ประเทศเยอรมัน และผู้เรียนยังต้องมีทักษะภาษาเยอรมันที่ดีด้วย

คำถาม ใช้เวลานานเท่าไรในการรอการตอบรับจากทางสถาบัน และมีความจำเป็นที่จะต้องเรียนปริญญาตรีก่อนหรือไม่  หรือต้องเริ่มเรียนใหม่ทั้งหมดอีกครั้งในภาคการศึกษาแรก

คำตอบ ในกรณีที่ผู้เรียนมีผลการเรียนดีเลิศ ผู้เรียนจะได้รับการตอบรับทันทีจากทางสถาบัน แต่ถ้าไม่ ผู้เรียนจำเป็นที่จะต้องลงเรียนอย่างอื่นในขณะเดียวกัน เพราะยังมีผู้สมัครอีกเป็นจำนวนมากที่ต้องรอประมาณสามภาคการศึกษากว่าที่พวกเขาจะได้เข้าเรียนที่สถาบันทางการแพทย์

คำถาม อาจารย์ผู้สอนคาดหวังอะไรจากผู้เรียน และผู้เรียนควรมีคุณสมบัติใด

คำตอบ  อาจารย์ผู้สอนต้องการผู้เรียนที่มีความใฝ่รู้ใฝ่เรียนจากทั่วทุกมุมโลก มีความสนใจทางด้านการแพทย์และวัฒนธรรมสังคม และเป็นผู้ที่สามารถดูแลตัวเองได้จึงจะได้รับการประเมิน

คำถาม ปัญหาอุปสรรคสำหรับนักศึกษาต่างชาตินอกจากอุปสรรคทางด้านภาษา

คำตอบ ภาษาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่ปัญหาอุปสรรคส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการบริหารจัดการ ตัวอย่างเช่นการลงทะเบียนเรียน โดยผู้เรียนต้องเปิดใจกว้างรับวัฒนธรรมเยอรมัน และถึงแม้ว่าประเทศเยอรมันจะมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม แต่ผู้คนส่วนมากจะมีแนวความคิดและดำเนินชีวิตแบบคริสเตียน และเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเอง ยึดมั่นในวัฒนธรรมและศาสนา เป็นคนพูดตรง เปิดใจรับสิ่งต่างๆ

 

2. การสมัคร

 

คำถาม ข้าพเจ้ามีความต้องการที่จะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Federal ณ ประเทศเยอรมัน แต่ข้าพเจ้าไม่ทราบวิธีการสมัคร

คำตอบ  นักศึกษาต่างชาติสามารถสมัครได้โดยตรงที่มหาวิทยาลัย หรือส่งใบสมัครผ่านทางองค์กรที่เรียกว่า uni-assist โดยขั้นตอนแรก ผู้สมัครต้องเลือกมหาวิทยาลัยที่ต้องการ และติดต่อไปยังสำนักงานระหว่างประเทศเพื่อทราบข้อมูลขั้นตอนในการสมัคร โดยผู้เรียนจะได้รับทราบรายละเอียดถึงเอกสารสำคัญและใบรับรองผลการสอบภาษาเยอรมัน TestDaF หรือ DSH

คำถาม ข้าพเข้าทราบมาว่าอาชีพหมอในประเทศเยอรมันเป็นที่ต้องการมาก ข้าพเจ้าจึงอยากทราบว่าการจะเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยสำหรับนักศึกษาแพทย์ต่างชาติจะง่ายขึ้นไหม

คำตอบ กำลังอยู่ในขั้นกระบวนการ คาดว่าอีกประมาณ 3 – 5 ปีข้างหน้า

คำถาม ถ้าข้าพเจ้าเรียนภาษาเยอรมันเป็นเวลา 1 ปี ไม่ทราบว่าข้าพเจ้าจะได้รับการตอบรับจากทางสถาบันหลังจากจบหลักสูตรนี้หรือไม่

คำตอบ การเรียนการสอน ใช้ภาษาเยอรมันเป็นหลัก แต่จะมีเพียงแค่ Molecular Medicine ที่ใช้ภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ ภาษาเยอรมันยังจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตและการเรียนที่เยอรมันอีกด้วย โดยผู้เรียนต้องผ่านการทดสอบ Deutsche Sprachprüfung für den Hochschulzugang“ (DSH) หรือ Test DaF แต่อย่างไรก็ตามการมีผลคะแนนสอบที่ดีเลิศก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าผู้เรียนจะได้รับการตอบรับเข้าเป็นนักศึกษาแพทย์ เพราะส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับคะแนนของผู้สมัครและดุลพินิจของแต่ละมหาวิทยาลัยในการคัดเลือก

คำถาม ข้าพเจ้าจะทราบได้อย่างไรว่าเกรดของข้าพเจ้าดีเพียงพอ

คำตอบ ผู้สมัครสามารถติดต่อสอบถามไปยังมหาวิทยาลัยที่สนใจ และขอ Numerus Clausus (NC) ขั้นตอนการสมัครของปีที่ผ่านมา หรือดำเนินการสมัครเลย

คำถาม ในกรณีที่ข้าพเจ้าได้รับปริญญาบัตรจากมหาวิทยาลัยต่างประเทศ แล้วมีที่ใดที่ใบประกาศนียบัตรของข้าพเจ้าจะได้รับการยอมรับ

คำตอบ ใบรับรองของคุณต้องแปลเป็นภาษาเยอรมันและได้รับการลงลายมือชื่อโดยสถาบันการศึกษาของรัฐบาลกลาง เช่น สถานทูตเยอรมัน

คำถาม ข้าพเจ้ามีความประสงค์ที่จะเรียนแพทย์ที่ประเทศเยอรมัน และจะสมัครผ่าน hochschulstart.de. ข้าพเจ้าอยากทราบว่าหมดเขตการสมัครคือวันที่เท่าไรและข้าพเจ้าต้องใช้ที่อยู่ใดในการส่งบัตรรายงานของข้าพเจ้า

คำตอบ นักศึกษาต่างชาติจากประเทศสหภาพยุโรปสมัครผ่าน hochschulstart.de. เหมือนกับนักศึกษาเยอรมัน           โปรดเข้าชมเว็บไซต์และอ่านรายละเอียดขั้นตอนการสมัคร และนักศึกษาต่างชาติจากประเทศนอกสหภาพยุโรปสามารถสมัครที่มหาวิทยาลัยได้โดยตรงหรือสมัครผ่านทาง uni-assist โดยผู้สมัครสามารถติดต่อสอบถามสำนักงานระหว่างประเทศของแต่ละมหาวิทยาลัย และจะง่ายยิ่งขึ้นสำหรับนักศึกษาจากประเทศในสหภาพยุโรป โดยเฉพาะนักศึกษาสวีเดน ที่มีความประสงค์จะศึกษาต่อ ณ ประเทศเยอรมัน มากกว่านักศึกษาจากประเทศนอกสหภาพยุโรป

คำถาม ช่วยแนะนำมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงในเบอร์ลินหรือมูนิช (Berlin หรือ Munich)

คำตอบ ในขณะนี้ที่เยอรมันมีคณะแพทย์ชั้นนำทั้งหมด 32 คณะ ซึ่งแตกต่างกับประเทศอื่นๆ เพราะมหาวิทยาลัยท้องถิ่นอีกหลายๆแห่งมีมาตรฐานเดียวกันกับในเมืองหลวง

คำถาม ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องยากไหมสำหรับนักศึกษาจากประเทศนอกสหภาพยุโรปที่จะได้รับการตอบรับ

คำตอบ ยากทั้งสำหรับนักศึกษาต่างชาติและนักศึกษาเยอรมันเพราะการเรียนแพทย์ได้รับความนิยมในหมู่ผู้เรียนเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีผู้สมัครมากกว่าจำนวนที่มหาวิทยาลัยสามารถรับได้ แต่ที่นั่งส่วนหนึ่งได้สงวนไว้สำหรับนักศึกษานอกสหภาพยุโรป

คำถาม ข้าพเจ้ามีความประสงค์ที่จะศึกษาจิตเวชศาสตร์ ณ ประเทศเยอรมัน โดยข้าพเจ้าทราบมาว่า ข้าพเจ้าสามารถลงเรียนจิตเวชศาสตร์ในระดับปริญญาตรี และศึกษาต่อระดับปริญญาโทในสถาบันการแพทย์ ข้าพเจ้าจึงอยากทราบวิธีหรือขั้นตอนในการเรียนเป็นนักจิตวิทยา และระยะเวลาในการเรียนจนจบหลักสูตร

คำตอบ ผู้เรียนต้องจบหลักสูตรการแพทย์ซึ่งใช้ระยะเวลาภายใต้ German State Examination (Deutsches Staatsexamen)             โดยจิตเวชศาสตร์เป็นการฝึกอบรมในระดับปริญญาโทซึ่งต้องใช้เวลาอีก 4 ปี รวมถึง 1 ปีสำหรับการศึกษาประสาทวิทยาซึ่งเป็นสาขาวิชาที่น่าสนใจ แต่ระยะเวลาในการเรียนจนจบหลักสูตรอย่างน้อย 10 ปี อย่างไรก็ตามมีผู้คนจำนวนมากเรียนจบหลักสูตรและพวกเขาก็รักในสาขาวิชานี้มาก

คำถาม ไม่ทราบว่าข้าพเจ้าต้องเข้าเรียน pre-medicine ก่อน หรือเข้ามหาวิทยาลัยได้เลย และใช้ระยะเวลาเท่าใด

คำตอบ  การเรียนแพทย์โดยปกติจะใช้ระยะเวลา 6 ปี หรือ 12 ภาคการศึกษา ในการเรียนจนจบหลักสูตร รวมไปถึง 1 ปีสำหรับภาคปฏิบัติในภาคเรียนที่ 11 และ 12 และไม่จำเป็นต้องลงเรียน pre-medical

คำถาม หลักสูตรมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ของเยอรมันสามารถเทียบกับหลักสูตรของมหาวิทยาลัยอื่นทั่วโลกได้อย่างไรบ้าง

คำตอบ หลักสูตรประกอบด้วยกัน 2 ส่วน คือ

2 ปีแรกจะครอบคลุมเกี่ยวกับทฤษฏีทางการแพทย์ เช่น ชีววิทยา กายวิภาค จุลพยาธิวิทยา เคมี ฟิสิกส์และอื่นๆ และในปีที่ 3 จะเป็นการแพทย์ศึกษาการฝึกอบรมในสาขาวิชาอย่าง อายุรศาสตร์และการผ่าตัด โดยคุณภาพของคณะแพทย์มีความเป็นเลิศและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก

 

3.การเรียนการสอน

 

คำถาม ช่วยแสดงความคิดเห็นถึงทักษะความชำนาญหลังจากคิดค้นทำยารักษาโรคทั่วไป ซึ่งข้าพเจ้ามีความสนใจทางด้านรังสีวิทยา

คำตอบ หลักสูตรการฝึกอบรมทางการแพทย์ในระดับปริญญาโทจะมีกฎระเบียบที่แตกต่างกันเช่น รังสีวิทยา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศว่าการศึกษาทางการแพทย์จะได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่หรือแค่บางส่วน ซึ่งนักเรียนจากอดีตสหภาพโซเวียตโดยปกติจะผ่านการอบรมทางแพทย์เป็นเวลา 1 ปี ณ ประเทศเยอรมัน และนักเรียนส่วนใหญ่จากแอฟริกาและอินเดีย มีได้เรียนแพทย์ศาสตร์ในประเทศของพวกเขามาก่อน ซึ่งพวกเขาสามารถสมัครเข้าฝึกอบรมในระดับปริญญาโท ณ ประเทศเยอรมันได้โดยตรง สาขารังสีวิทยา ตัวอย่างเช่นจะมีการฝึกอบรม 4-5 ปี และมีการสอบปากเปล่า ซึ่งนำไปสู่การอนุมัติในการเป็นรังสีแพทย์ตามกฎหมายของประเทศเยอรมัน

คำถาม ข้าพเจ้ามีความประสงค์ที่จะเรียนแพทย์ที่ประเทศเยอรมัน แต่ข้าพเจ้าไม่มั่นใจว่าข้าพเจ้าจำเป็นต้องมีประสบการณ์หรือต้องเคยผ่านการฝึกงานมาก่อนหรือไม่

คำตอบ เริ่มเรียนในภาคการศึกษาแรกโดยไม่จำเป็นต้องศึกษาก่อนล่วงหน้า แต่ต้องเคยผ่านการฝึกงาน โดยปกติจะฝึกงานที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 4 สัปดาห์ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคือความรู้ทางด้านภาษาเยอรมัน

คำถาม  ไม่ทราบว่ามีโอกาสไหมที่จะควบการฝึกปฏิบัติไปพร้อมกับการเรียนทฤษฏีในปีที่สี่

คำตอบ  มีความเป็นไปได้ เพราะได้ถูกรวมอยู่ในหลักสูตร

คำถาม มีความเป็นไปได้ไหมสำหรับแพทย์ต่างชาติในประเทศเยอรมันที่จะทำการวิจัยพร้อมกัน

คำตอบ แน่นอน เกือบทุกมหาวิทยาลัยจะให้ผู้เรียนมีโอกาสได้เข้ารับการอบรมและทำวิจัย บางครั้งมันอาจจะช่วยให้ผู้เรียนได้มุ่งไปกับการทำโปรเจคที่ใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนในการทำวิจัย

คำถาม ตอนนี้ข้าพเจ้ากำลังศึกษาชีววิทยาในภาคการศึกษาแรก แต่เป้าหมายที่แท้จริงของข้าพเจ้าคือการเรียนแพทย์ ไม่ทราบว่ามีโอกาสไหมที่ข้าพเจ้าจะเปลี่ยนไปเรียนแพทย์ในภาคการศึกษาที่สามและเริ่มต้นการเรียนแพทย์เป็นภาคการศึกษาแรก

คำตอบ ไม่สามารถทำได้

คำถาม เปิดภาคการศึกษาแรกเมื่อไร

คำตอบ โดยปกติจะเปิดวันที่ 15 ตุลาคม และ 15 เมษายน หนึ่งปีการศึกษาในประเทศเยอรมันจะมีด้วยกันสองภาคการศึกษา

คำถาม ข้าพเจ้ากำลังเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยนิส ประเทศเซอร์เบีย ในภาคการศึกษาที่ 9 และมีผลกาเรียนที่ดี ยิ่งไปกว่านั้นข้าพเจ้าสามารถพูดภาษาเยอรมันและยังได้รับใบประกาศนียบัตร the Goethe certificate B2 ไม่ทราบว่าเป็นไปได้ไหมที่ข้าพเจ้าจะดำเนินการศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในประเทศเยอรมัน

คำตอบ ทางเราขอแนะนำให้คุณจบการศึกษาที่ประเทศเซอร์เบียก่อนเป็นอย่างแรก  และด้วยผลการเรียนของคุณบวกกับทักษะภาษาเยอรมันจะทำให้คุณได้เข้ารับการฝึกอบรมการทำงานสำหรับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยและโรงพยาบาล ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญที่คุณสนใจมากที่สุด

คำถาม ข้าพเจ้าเรียนจบปริญญาตรี สาขาแพทยศาสตร์ ข้าพเจ้ามีความประสงค์ที่จะเรียนต่อด้านศัลยกรรมในประเทศเยอรมัน ข้าพเจ้าต้องทำอย่างไรบ้าง

คำตอบ การเรียนแพทย์ในประเทศเยอรมันยังไม่ได้ปรับเข้าสู่ระบบปริญญาตรีและปริญญาโท โดยปกติปริญญาตรีจะจบภายใน 2ปี นั่นหมายความว่าคุณจะต้องเรียนอีก 4 ปีสำหรับปริญญาโท และต้องผ่าน the German State Examination (Deutsches Staatsexamen) หลังจากนั้นคุณถึงสามารถเริ่มการฝึกอบรมในการเป็นศัลยแพทย์ รวมระยะเวลา 4 ปี สำหรับศัลยกรรมทั่วไปและอีก 2 ปีสำหรับศัลยกรรมเฉพาะทาง

คำถาม ข้าพเจ้าได้สำเร็จการศึกษาปริญญาในสาขาแพทยศาสตร์ รัฐจอร์เจีย และมีความประสงค์ที่จะศึกษาต่อในประเทศเยอรมันที่ TU Erlangen และผลการสอบ TestDaF ของข้าพเจ้า อยู่ใน ระดับ4 ไม่ทราบว่าเพียงพอไหม

คำตอบ มหาวิทยาลัย Erlangen ไม่ได้เป็น TU แต่เป็นมหาวิทยาลัยที่ประกอบไปด้วยมหาวิทยาลัยเทคนิค กรุณาติดต่อสำนักงานระหว่างประเทศเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.uk-erlangen.de

คำถาม ข้าพเจ้าอยากทราบว่า Research stay หมายความว่าอย่างไร และแตกต่างอย่างไรกับ Full Doctorate

คำตอบ  ดร.เม็ดกล่าวว่า “โดยปกติ Research stay จะใช้ระยะเวลาวิจัยประมาณ 3-6เดือน โดยจะได้รับการสนับสนุนจากจากหน่วยงานต่างประเทศ ส่วน Full Doctorate คือการติดตามการฝึกงานของทางมหาวิทยาลัย โดยปกติงานวิจัยต้องจัดทำขึ้นภายในประเทศเยอรมันและต้องผ่านคณะแพทย์ โดยคณะแพทย์จะส่งมอบให้กับผู้สมัครหลังจากได้ตรวจสอบความเหมาะสมทุกอย่างแล้ว”

คำถาม เมื่อข้าพเจ้าได้สำเร็จการศึกษาในสาขาแพทยศาสตร์ซึ่งเป็นใช้ภาษาเยอรมันในการเรียนการสอน แล้วข้าพเจ้าจะสามารถไปทำงานในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษได้หรือไม่

คำตอบ ทุกประเทศในสหภาพยุโรปจะยอมรับปริญญาทางการแพทย์ของคุณที่ได้รับจากประเทศเยอรมัน มีข้อแตกต่างเพียงข้อเดียวคือภาษาที่ใช้ในการทำงาน แต่สิ่งที่ผู้เรียนได้รับจากที่นี่คือทักษะทางการแพทย์ที่สำคัญ

คำถาม ใครเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาช่วยกำกับ ดูแลการทำวิทยานิพนธ์ในระดับปริญญาเอกระหว่าง ดร.เรอร์ แน๊ต หรือ ดร.เม็ด

คำตอบ ทั้งสองท่าน ทั้ง ดร.เรอร์ แน๊ตสามารถช่วยกำกับดูแลการทำวิทยานิพนธ์ทางการแพทย์ในระดับปริญญาเอก และโดยปกติจะได้รับการดูแลจากอาจารย์แพทย์

คำถาม ข้าพเจ้ามีความประสงค์จะเรียนแพทยศาสตร์ในประเทศเยอรมันและประเทศอื่นๆ และไม่ทราบว่าข้าพเจ้าสามารถเปลี่ยนการเรียนโดยที่ภาคเรียนการศึกษายังเหมือนเดิม

คำตอบ ขึ้นอยู่กับทางมหาวิทยาลัยว่าจะอนุญาติให้ผู้เรียนเปลี่ยนระดับหรือไม่ แต่ทางเราไม่แนะนำให้ผู้เรียนเปลี่ยนหลังจากผ่านไป 1 ปี หรือเปลี่ยนในปีสุดท้าย

 

ที่มา : DAAD