การเดินทางในเยอรมัน

การเดินทาง

สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ถือได้ว่าเป็นประเทศหนึ่งที่มีระบบการเดินทางที่หลากหลาย อาทิเช่น  รถไฟ, รถประจำทาง, เรือเฟอรรารี่ และเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวต่อวัน  ระบบการเดินทางภายในประเทศจะเน้นการลดเวลาในการเดินทาง และการรอรถ อีกทั้งยังเชื่อถือในความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี

 

รถประจำทาง

มีทั้งสายที่วิ่งตามเส้นทางรถไฟหลัก และสายที่เปิดให้บริการสำหรับบางแห่งที่ไม่สามารถเดินทางด้วยรถไฟได้  สถานีรถประจำทางหลัก ๆ มักจะตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟของแต่ละเมือง

 

รถยนต์

เยอรมนีมีเส้นทางมอร์เตอร์เวย์และเส้นทางถนนของท้องถิ่นรวมแล้วมากกว่า 650,000 กิโลเมตร โดยจะเชื่อมต่อจากเมืองหนึ่งสู่เมืองหนึ่ง  ซึ่งสายถนนหลักของเยอรมนีที่รู้จักกันดีคือ autobahnen

การขับรถในประเทศเยอรมนีจะอนุญาติให้ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป แต่หากต้องการจะเช่ารถยนต์จะต้องอายุมากกว่า 21 ปี และมีใบขับขี่สากล โดยราคาเช่ารถมักจะอยู่ที่ 1,500 ถึง 2,000 ยูโร

กฎในการขับรถยนต์ในประเทศเยอรมนีได้กำหนดความเร็วเร็วในเมืองอยู่ที่ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และในแถบบ้านคนจะกำหนดอยู่ที่ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  สำหรับทางด่วนจะกำหนดที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสำหรับทาง Autobahn มักจะกำหนดโดยเฉลี่ยที่ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

 

จักรยาน

 

หลาย ๆ สถานที่ในเยอรมนี ยังมีการเดินทางโดยใช้รถจักรยาน  ซึ่งเราจะพบเห็นนักธุรกิจใส่สูทบางคนขี่จักรยานเพื่อไปทำงานในเมือง และบางคนก็ไปจ่ายตลาด  อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่าจะมีการอนุญาติให้ขี่จักรยานได้โดยทั่วไปแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการกำหนดเลนสำหรับการขี่จักรยานโดยเฉพาะ

 

รถไฟ

 

The InterCityExpress หรือ ICE

นั้นเป็นรถไฟความเร็วสูงในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีซึ่งดำเนินการโดย Deutsche Bahn  ICE เป็นการเดินรถไฟระหว่างประเทศจากเมืองใหญ่ ๆ ของประเทศเยอรมนี ไปยังซูริค, เวียนนา, โคเพนฮาเก้น, ปารีส, อัมสเตอร์ดัม และบรัสเซล

 

S-Bahn (Schnellbahn)

เป็นสายรถไฟที่วิ่งระหว่างเมืองใหญ่ในเยอรมนี ส่วนระบบรถไฟใต้ดินที่วิ่งภายในเมืองนั้นจะเรียกว่า U-Bahn ในบางเมืองระบบ U-Bahn และ ระบบ S-Bahn จะวิ่งเป็นสายเดียวกัน

 

U-Bahn (Untergrundbahn)

เป็นระบบรถไฟใต้ดิน ซึ่งจะมีในเมืองใหญ่ ๆ ของเยอรมนี โดยจะวิ่งทุก ๆ 5-15 นาทีขึ้นกับช่วงเวลา (เวลาการเดินทางและค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางโดย U/S Bahn สามารถตรวจสอบได้ที่ http://reiseauskunft.bahn.de/bin/query.exe/en)

 

รถราง (Tram)

สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีมีสายการเดินรถรางอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเมืองในฝั่งตะวันออก รถรางส่วนใหญ่จะวิ่งทุก ๆ 20-30 นาที

 

LRT (Stadbahn)

ระบบ LRT จะเปิดบริการเฉพาะเมืองใหญ่ ๆ อาทิเช่น Frankfurt,Stuttgart, Hannover,CologneและเมืองในภูมิภาพRuhr  คนในเยอรมันจะเรียก LRT ว่า Stadbahn ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการเดินสายรถไฟในลักษณะนี้จะคล้าย ๆ กับระบบรถไฟใต้ดิน (U-Bahn System) คือมีรางรถไฟที่กว้าง, ขบวนมีความยาว และสถานีจะสูงกว่ารางรถไฟ ซึ่งรถไฟระบบนี้จะวิ่งทุก ๆ 10 – 20 นาทีขึ้นกับช่วงเวลา

 

เครื่องบิน

สนามบินหลัก ๆ ในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยเรียงตามลำดับจำนวนผู้โดยสารดังนี้

FrankfurtAirport เป็นสนามบินนานาชาติหลักของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

เส้นทางการเดินทาง

–  ทางรถไฟ : จะอยู่ตรง Terminal 1 ทั้งรถไฟข้ามเมือง และรถไฟเข้าสู่ตัวเมือง  สำหรับผู้ที่ออก Terminal 2 จะมีบริการ Shuttle Bus มายัง Terminal 1

–  ทางรถประจำทาง : สำหรับรถประจำทางเพื่อเข้าตัวเมืองจะมีทั้ง Terminal 1 และ Terminal 2

Munich Airport ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองมิวนิค

เส้นทางการเดินทาง

– รถไฟ : สนามบินมิวนิคจะเชื่อมต่อกับ Munich Suburban Railway สาย S1 และ S 8 สามารถเดินทางไปยัง Freising,Munich,Regensburgได้

–  รถประจำทาง : MVV Bus Lines จะเชื่อมต่อกับ เมือง Freising, Erding และ Markt Schwaben

Düsseldorf International Airport เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค North Rhine-Westphalia

เส้นทางการเดินทาง

– รถไฟ : มีสถานีรถไฟ 2 สถานีด้วยกัน โดยจะแบ่งเป็นสถานีที่เดินทางในระยะยาว (ICE) ซึ่งอยู่ห่างจาก Terminal ประมาณ 2.5 กิโลเมตร ผู้โดยสารสามารถเดินทางจาก Terminal ถึง สถานี ICE โดยโมโนเรล ซึ่งเรียกว่า Sky Train อีกหนึ่งสถานีคือ S-Bahn Station ซึ่งอยู่ชั้นใต้ดินของ Terminal เป็นสถานีรถไฟซึ่งสามารถเดินทางเข้าในเมืองได้

Berlin(Tegel) Airport เป็นสนามบินหลักของเมืองเบอร์ลิน รูปหกเหลี่ยมของ Terminal ในสนามบินเป็นสัญลักษณ์ของสนามบินที่นี่

หากต้องการเดินทางไปตามสายรถไฟ U-Bahn หรือ S-Bahn จะสามารถเดินทางได้ด้วยรถประจำทางสาย BVG ดังนี้

i. JetExpress TXL Bus เชื่อมกับ Beusselstraße S-Bahn station

ii. X9 Express Bus เชื่อมกับ Jakob-Kaiser Platz U-Bahn station (ใช้เวลาเดินทาง 5 นาที), Jungfernheide S-Bahn และ Regional Express station, and Zoologischer Garten U-Bahn/S-Bahn/Regional Express station (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที)

iii. 109 Bus เชื่อมกับ Jakob-Kaiser Platz U-Bahn station, Charlottenburg S-Bahn และ Regional Express station (ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที) และ Zoologischer Garten U-Bahn/S-Bahn/Regional Express station (ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที)

iv. 128 Bus เชื่อมกับ Kurt-Schumacher-Platz U-Bahn station (ใช้เวลาเดินทาง 10 นาที) และ Osloer Straße U-Bahn station (ใช้เวลาเดินทาง 25 นาที)

Hamburg Airport เป็นสนามบินที่มีความสวยและความทันสมัยเป็นอย่างมาก การเดินทางนั้นง่ายและสะดวกสบายเป็นอย่างมากเนื่องจากภายในสนามบินมีสถานีรถไฟ S-Bahn ซึ่งวิ่งเข้าสู่เมืองHamburgเพียง 25 นาที

Cologne/Bonn Airport เป็น 1 ในสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี  สนามบินตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองCologne14.8 กิโลเมตร การเดินทางนั้นจะมีสถานีรถไฟภายในสนามบิน สำหรับสายรถไฟ Cologne-Frankfurt High-Speed

 

สายการบินราคาถูก

สายการบินที่บินในแถบยุโรป จะมีราคาค่อนข้างถูก โดยนักท่องเที่ยวสามารถจองผ่านเวบไซต์ต่าง ๆ ดังนี้

www.billigfluege.de

www.e-flights.de

www.travelzoo.com

www.sky-tours.com

www.opodo.de

www.germanwings.de

www.tuifly.com

www.ryanair.com

www.airberlin.com

www.flydba.de

www.condor.com

www.easyjet.com

 

มื้ออาหารของชาวเยอรมัน

มื้อเช้า

ชาวเยอรมันชอบทางจำพวกขนมปัง, โทสต์ และขนมปังโรล ในช่วงเช้า โดยจะรับประทานกับแยม, น้ำผึ้ง, ไข่ ทานคู่กับกาแฟหรือชา  สำหรับเด็ก ๆ จะดื่มนมหรือโกโก้เป็นหลัก

มื้อกลางวันและมื้อเย็น

โดยตามธรรมเนียม มื้อกลางวันถือว่าเป็นอาหารมื้อหลักของในแต่ละวัน  โดยจะรับประทานในเวลา 12.00 น. ส่วนมื้อเย็นจะเป็นอาหารที่มื้อเล็กกว่า โดยอาจจะเป็นอาหารจำพวกแซนด์วิชมากกว่า  แต่ในปัจจุบันชาวเยอรมันได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินโดยจะทางอาหารเย็นเป็นมื้อใหญ่กว่าเนื่องจากเป็นเวลาที่รีแล็กซ์มากกว่า

เครื่องเคียงประจำมื้ออาหาร

ก๋วยเตี๋ยวเป็นของเคียงที่สำคัญของชาวเยอรมัน โดยเฉพาะ Spätzle ซึ่งมีไข่แดงเป็นส่วนประกอบหลัง หรือจะเป็นลักษณะของก๋วยเตี๋ยว, มันฝรั่ง หรือ Dumplings (มันฝรั่งบดต้มกับแป้ง) ก็พบเห็นตามทั่วไป

เครื่องดื่ม

เบียร์ถือว่าเป็นเครื่องดื่มเก่าแก่ของเยอรมนี พิลเซ่นเบียร์ (Pills) เป็นประเภทของเบียร์ที่มีความนิยมมากที่สุดในเยอรมนี ในขณะที่ทางฝั่งใต้ของบาวาเรียจะชอบดื่มลาเกอร์เบียร์มากกว่า

นอกจากนี้ไวน์ยังเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในเยอรมนี โดยแหล่งที่มาของไวน์นั้นจะอยู่ในแถบทางด้านตอนบนและตอนกลางของแม่น้ำไรน์  โดยประเพณีแล้วชาวเยอรมันจะชอบไวน์ขาวชนิดหวานมากกว่า

ของหวาน

ของหวานที่เป็นที่นิยมนั้นมีหลากหลายอาทเช่น เค้กและทาร์ตที่ทำจากผลไม้สดในประเทศ (แอ๊ปเปิ้ล, ลูกพลัม, สตรอเบอร์รี่ และเชอร์รี่) นอกจากนี้ยังมีชีสเค้ก, โดนัทเยอรมัน, เบอร์ลินเนอร์

ไอศกรีมและของหวานจำพวกเชอร์เบทยังเป็นที่นิยมอย่างมาก  ไอศกรีมที่เป็นที่นิยมในเยอรมนีมากที่สุดคือ ไอศกรีมสปาเก๊ตตี้ (Spaghetti Eis)

 

การซื้อของ

ชาวเยอรมันไม่นิยมการจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต ส่วนใหญ่จะพกเป็นเงินสดหรือเดบิตการ์ดเอาไว้  เนื่องจากในร้านเล็ก ๆของเยอรมนีจะไม่รับบัตรเครดิต รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ก็จะไม่รับทั้งบัตรเครดิตและบัตรเดบิตอีกด้วย  ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการจะไปช้อปปิ้งในเยอรมนีแนะนำว่าพกเงินสดดีที่สุดค่ะ

ชาวเยอรมันส่วนใหญ่มักจะหิ้วถุงผ้ากันมาเองสำหรับการซื้อของ เนื่องจากหลาย ๆ ร้านขายของชำส่วนใหญ่นั้นจะไม่ให้ถุงกับลูกค้า เพื่อเป็นการรณรงค์อีกวิธีหนึ่ง

ร้านขายของในเยอรมนีมักจะเปิดในเวลา 9.00 หรือ 10.00 และจะปิดในเวลา 18.00 หรือ 20.00 ซึ่งหากเป็นวันเสาร์ร้านขายของส่วนใหญ่มักจะปิดก่อนเวลา ในขณะที่หากเป็นเมืองใหญ่ ๆ ร้านค้าจะเปิดถึงเวลา 20.00 น. ตั้งแต่วันจันทร์ ถึงเสาร์ และในบางที่อาจมีการเปิดถึง 22.00 น.

ร้านค้าบางร้านจะมีการปิดในช่วงเวลากลางวันตั้งแต่ 13.00 ถึง 15.00 น. ซึ่งมักจะพบได้ในเมืองเล็ก ๆ  ในขณะที่ร้านทุก ๆ ร้านจะมีการปิดในช่วงวันอาทิตย์และวันหยุดราชการ  หากต้องการซื้ออะไรในวันเหล่านี้ เราจะสามารถไปซื้อได้ที่ร้านค้าในปั๊มน้ำมันแทน  และร้านขนมปัง,ร้านดอกไม้บางร้านยังมีการเปิดในช่วงวันอาทิตย์อยู่ หากเป็นเมืองใหญ่ ๆ ร้านค้าตามสถานีรถไฟจะเปิดให้บริการในช่วงวันอาทิตย์ และวันหยุดราชการอยู่แล้ว