เที่ยวโลซานน์ ตามรอยสถานที่ประวัติศาสตร์

เที่ยวโลซานน์

เที่ยวสวิส ตอนที่ 3 ในที่สุดก็เสร็จ ตอนนี้เราไป เที่ยวโลซานน์ กันค่ะ ตอนนี้ขอข้ามขั้นมาพูดถึงเมืองโลซานน์ เมืองที่เป็นที่รู้จักของคนไทยกันเป็นอย่างดี พอเราข้ามจากฝั่งสวิสที่ใช้ภาษาเยอรมัน มาเป็นสวิสที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ด้วยความเป็นระเบียบและวัฒนธรรมของสวิส ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม

เที่ยวโลซานน์ - สถานีรถไฟ

พอมาถึงที่สถานีรถไฟโลซานน์ เป็นสถานีรถไฟที่มีความสวยงามอีกสถานีหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์

ในโลซานน์การเดินทางจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้า และรถประจำทาง เห็นเป็นเมืองเล็ก ๆ แบบนี้ มีรถไฟใต้ดินกับเขาเหมือนกัน เหมือนเป็นรถไฟที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองใหม่กับเมืองเก่า

เริ่มต้นของเราอย่าให้รอช้า จาก Lausanne Gare (สถานีรถไฟกลาง) เราก็ไปที่สถานี Ouchy-Olympique ค่ะ หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ว่า โลซานน์ เป็นเมืองหลวงแห่งโอลิมปิก เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของสำนักงาน International Olympic Committee (IOC) อีกทั้งด้วย

เที่ยวโลซานน์ เมืองหลวงโอลิมปิก

ความที่โลซานน์เป็นเมืองริมทะเลสาบ ที่นี่ยังมีการจัดกิจกรรมกีฬาต่าง ๆ มากมายทั้งกีฬาทางน้ำ และทางบก รวมถึงกีฬาในฤดูหนาวอีกด้วย

พอถึงที่ Ouchy-Olympique เราก็เลยได้พบปะกับสถานีที่ตกแต่งไปด้วยนักกีฬาและธงชาติของแต่ละประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคค่ะ

พอออกมาจากสถานีปุ๊บความงดงามของริมทะเลสาบ ภูเขา ก็มาเยือน การมาโลซานน์ครั้งแรกไม่ผิดหวังจริง ๆ ค่ะ

แต่จุดมุ่งหมายของการมาที่ Ouchy-Olympique นั้นไม่ได้อยู่ที่มาถ่ายรูปสวย ๆ แล้วเราก็กลับ แต่จริง ๆ แล้วเรากำลังจะตามรอยประวัติศาสตร์ของรัชกาลที่ 9 กันค่ะ

วิวที่ได้ในระหว่างการเดินจากสถานีรถไฟไปที่ศาลาไทยค่ะ

เราเดินริมทะเลสาบไปเรื่อย ๆ สักพักเราก็จะเจอสวนสาธารณะเดอน็องตู ซึ่งภายในสวน เราก็ได้เจอกับ ศาลาไทย (Le Pavillon Thailandais) ซึ่งทางการสวิสได้อนุญาตให้รัฐบาลไทยก่อสร้างขึ้น (อ่านประวัติของศาลาไทยได้ที่ http://www.thaiembassy.ch/Content/Embassy/84.html) ปัจจุบันตอนที่เราได้ไป ก็ยังคงเห็นทั้งชาวต่างชาติ และชาวไทยมาเยือนกันตลอด ศาลาไทยแห่งนี้ ตั้งอยู่ตรงเนินริมทะเลสาบทำให้วิวทิวทัศน์สวยงามมากเลยค่ะ

ศาลาไทย เที่ยวโลซานน์

 

 

และเราก็คงเดินต่อไป เพื่อที่จะหา อดีตพระตำหนักวิลล่าวัฒนา บ้านเลขที่  51 ถนน Chemin de Chamblandes ซึ่งเป็นเนินสูงมากเลยค่ะ ถ้าถามว่าเราหาเจอไหม ตอบไม่ถูกเลยค่ะ ว่าเจอไหม เพราะปัจจุบันอดีตพระตำหนักวิลล่าวัฒนาได้ถูกรื้อไปแล้ว เป็น อพาร์ตเม้นท์ 3 ชั้นแทนค่ะ แต่ถึงเราไม่มั่นใจว่าจะเจอ แต่ก็ได้ซึมซับบรรยากาศแถวนั้นทำให้เรารู้ว่าในบ้านแถบนี้นั้นมีการปลูกแบบลดหลั่นกันตามเนินไป ซึ่งมีมองไปทางริมทะเลสาบทางเราจะเห็นวิวที่งดงามมากเลยค่ะ

ความรู้ในเบื้องต้นเกี่ยวกับพระตำหนักวิลล่าวัฒนา พระตำหนักแห่งนี้ เป็นพระตำหนักที่ประทับของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในสวิตเซอร์แลนด์ เป็นบ้าน 3 ชั้น มี 13 ห้องนอน เนื้อที่ประมาณ 12 ไร่ เป็นบ้านที่ทางสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเช่าจากเจ้าของในราคาเดือนละ 8,000 สวิสฟรังก์ จริง ๆ แล้วเจ้าของยินดีที่จะขายในราคา 96,000 สวิสฟรังก์ แต่ไม่ได้ทรงซื้อไว้ เพราะไม่มีเงินก้อน ทรงย้ายเข้ามาอยู่ที่วิลล่าวัฒนา เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2478 และทรงใช้ชีวิตที่นี่เป็นเวลาสิบกว่าปีช ทรงตั้งชื่อบ้านหลังนี้ว่า “วิลล่าวัฒนา” ตามพระนาม “สว่างวัฒนา” ของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และพระนามของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา (ที่มา Wikipedia)

 

ทางเราก็ไม่ได้ถ่ายรูปตรงนี้มานะคะ เพราะเห็นเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล

 

จากนั้น เราก็นั่งรถเมล์ไปสักหน่อย เพื่อที่จะไปยัง แฟลตเลขที่ 16 บนถนน Tissot สถานที่ประทับในระหว่างพ.ศ. 2476 – 2478 ก่อนที่จะย้ายไปที่พระตำหนักวิลล่าวัฒนา

จากนั้นเราก็เดินไปเรื่อย ๆ แบบงงจริง ๆ ค่ะ มาเจอกับสถานี Lausanne-Fonne สถานีนี้ เหมือนอยู่ใจกลางเมืองโลซานน์ เป็นสถานที่ของวัยรุ่น (ความรู้สึกเป็นแบบนั้นเลยค่ะ)

และเราก็นั่งรถไฟกลับไปที่สถานี Délices เพื่อที่จะไปดู Hotel Royal Savoy โรงแรมที่สมเด็จย่าทรงโปรดปรานกันค่ะ

หลังจากนั้นเรามีเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เลยได้ไปเที่ยวยังเมืองเก่าสักเล็กน้อย มหาวิหารโลซานน์น์ (Cathedral de Lausanne) ซึ่งจะมีจุดชมวิวที่ทำให้เราได้เห็นโลซานน์โดยรอบ

มหาวิหารโลซานน์ เที่ยวโลซานน์

วิวที่มองมาจาก มหาวิหาร

เป็นครั้งแรกเลยค่ะ ที่ได้มาเยือนที่โลซานน์น์ ให้ 10/10 กับความเป็นเมือง แต่เป็นเมืองเล็กที่มีความวุ่นวายนิดหน่อย แต่ไม่ได้เงียบสงบมากนัก ประมาณว่าถ้าเราอยากได้ที่เงียบสงบ ธรรมชาติที่นี่ก็มีให้ ถ้าเราอยากได้ความเป็นเมือง วัยรุ่น ๆ สักนิด ที่นี่ก็ตอบโจทย์ค่ะ

 

กลับไปดู รีวิวสวิตเซอร์แลนด์ ตอนที่ 1