รถไฟในญี่ปุ่น

ระบบรถไฟในประเทศญี่ปุ่นมีระบบความปลอดภัยค่อนข้างสูง และมีชื่อเสียงอยู่ในระดับต้น ๆ ของโลก

Shinkansen (bullet Train)

จะมีหลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น Tokaido-Sanyo shinkansen ซึ่งเชื่อมระหว่างTokyoกับ Hakata, Tohoku shinkansen เชื่อมระหว่างTokyoกัน Shin-Aomori, Johetsu shinkansen เชื่อมระหว่างTokyoกับNiigata,Naganoshinkansen เชื่อมระหว่างTokyoกับNaganoและKyushushinkansen เชื่อมระหว่าง Shinyatsushiro กับ Kagoshima Chuo

ประเภทของ Shinkansen

Tokaido-Sanyo Shinkansen มีทั้งหมด 3 ประเภทนั่นคือ Nozomi, Hikari และ Kodama โดยในแต่ละประเภทนั้นจะจอดที่สถานีที่แตกต่างกัน อาทิเช่น Nazomi จะจอดที่ Shinagawa, Shin-Yokohama,Nagoya,Kyotoและ Shin-Osaka ตามลำดับ

Japan Rail Pass

เป็นบัตรโดยสารสำหรับนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่เข้าประเทศญี่ปุ่นเป็นการชั่วคราว และจะไม่มีจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น โดยจะแบ่งประเภทของบัตรออกเป็นบัตรธรรมดาและบัตร Green โดยในแต่ละประเภทจะมีกำหนดระยะเวลาให้เป็น 7 วัน, 14 วัน และ 21 วัน ซึ่งราคาก็จะแตกต่างตามระยะเวลาและประเภทของบัตรเช่นกัน โดยJapanRail Pass สามารถใช้ได้กับทั้งรถไฟ, รถประจำทางและเรือเฟอรรี่

สามารถตรวจสอบข้อมูลและรายละเอียดของบัตรโดยสารได้ที่ Japan Railway Pass

รถไฟฟ้าใต้ดิน

จะมีในทุก ๆ เมืองใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและลดปัญหาการจราจรของคนในเมือง โดยเส้นทางการเดินรถในเมืองจะมีดังนี้

-FukuokaSubway Network

-KobeSubway Network

-KyotoSubway Network

-NagoyaSubway Network

-OsakaSubway Network

-SapporoSubway Network

-SendaiSubway Network

-TokyoSubway Network (TokyoMetro Lines)

-TokyoSubway Network (Toei Lines)

-YokohamaSubway Network

สถานีรถไฟ

สถานีรถไฟของประเทศญี่ปุ่น หลาย ๆ สถานีจะมีการบริการต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า บางสถานีจะมีที่พักให้บริการนักท่องเที่ยว คล้าย ๆ กับโรงแรมอีกด้วย และแต่ละสถานีจะมีการตกแต่งภายในที่แตกต่างกันตามวัฒนธรรมของเมืองนั้น ๆ บางครั้งจะมีการตกแต่งตามกิจกรรมคอนเสิร์ตที่จะเกิดขึ้นในแถบ ๆ สถานี นอกจากนี้สถานีบางสถานียังมีบ่อน้ำร้อนภายในสถานี เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ผ่อนคลายอีกด้วย

สถานีที่มีบ่อน้ำร้อน (Onsen) ไว้บริการ อาทิเช่น Gala-Yuzawa Station, Tsunan Station และ Hiraoka Station เป็นต้น