การเลี้ยง สุนัขในญี่ปุ่น

ในปีค.ศ. 2006 มีการนับสถิติของจำนวนสุนัขในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีถึง 13.1 ล้านตัว ชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ จะต้องดูแลความสะอาดของสัตว์เลี้ยงตนเอง เมื่อพาไปเดินเล่น จำเป็นที่จะต้องนำถุงพลาสติกไปด้วยเพื่อคอยเก็บอุจจาระ

ในประวัติศาสตร์ ยุคโชกุน Tokugawa Tsunayoshi หนึ่งในโชกุนซึ่งเกิดในปี 1648 (ปีจอ) ได้กำหนดกฎหมายทางด้านการห้ามทำร้ายหรือฆ่าสุนัข ซึ่งในระหว่างที่อยู่ภายใต้การปกครองของ Tsunayoshi นั้นมีผู้คนจำนวน 60,000 ถึง 200,000 คนที่ถูกลงโทษจากการแหกกฎดังกล่าว

เรื่องราวของสุนัขกับคนญี่ปุ่น

ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัขในญี่ปุ่นเป็นสัตว์เลี้ยงของศาสตราจารย์ Hidesaburo Ueno ซึ่งในทุก ๆ เช้า ศาสตราจารย์และฮาจิโกจะออกมาเดินเล่นด้วยกันในแถบสถานีรถไฟชิบูยะ และเมื่อถึงเวลา 15.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเลิกงาน เจ้าฮาจิโกะก็จะมาคอยศาสตราจารย์ทุก ๆ วันที่ตรงหน้าสถานีรถไฟ อยู่มาวันหนึ่งในปีค.ศ. 1925 ศาสตราจารย์ได้เกิดโลหิตในสมองแตกฉับพลัน และได้เสียชีวิต ณ ที่ทำงาน เมื่อถึงเวลาเลิกงาน เจ้าฮาจิโกะก็จะมารอศาสตราจารย์ แต่ศาสตราจารย์ก็ไม่กลับมา กระนั้นก็ตามเจ้าฮาจิโกะก็ยังมารอแล้วรอเล่า จนเวลาเนิ่นนานถึง 10 ปีด้วย

และถึงแม้ว่าเจ้าฮาจิโกะจะเปลี่ยนเจ้าของไปแล้ว แต่การกระทำต่าง ๆ ก็ไม่เปลี่ยนไป เจ้าฮาจิโกะยังไปรอศาสตราจารย์ที่หน้าสถานีรถไฟเช่นเดิม และกลับมานอนที่บันไดบ้านศาสตราจารย์ในเวลากลางคืนเหมือนเช่นทุกวัน เมื่อเจ้าฮาจิโกะแก่ตัวลง ก็ยังไม่ลดละในการไปรอเจ้านายเฉกเช่นเดิม

การกระทำของเจ้าฮาจิโกะนั้นถูกเขียนทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่น และได้ตั้งอนุสรณ์สถานของสุนัขที่มีความซื่อสัตว์ขึ้นในปี 1934 (1 ปีก่อนที่เจ้าฮาจิโกะจะเสียชีวิต) จนกระทั่งปัจจุบัน ชาวญี่ปุ่นทุกคนต่างรู้จักฮาจิโกะ เด็ก ๆ ชาวญี่ปุ่นมักจะได้ฟังนิทานเรื่องนี้ก่อนนอนกันอย่างเสมอ นอกจากนี้วัยรุ่นเองยังมีคำที่ชอบพูดกันบ่อย ๆ เมื่อต้องการนัดกันให้ไปเจอที่ชิบูยะว่า “Hachiko mae de!” (เจอกันที่ฮาจิโกะนะ)

 

 

ธุรกิจบริการเกี่ยวกับสุนัขในญี่ปุ่น

cloth-shop-300x225

ในประเทศญี่ปุ่นมีธุรกิจทางด้านบริการเกี่ยวกับสุนัขมากมาย อาทิเช่น ร้านตัดแต่งขน, คลินิคดูแลสุนัข, ร้านขายอาหารสุนัข, โรงแรมสุนัข นอกจากนี้ยังมีบริการสำหรับผู้ที่ไปทำงานในช่วงกลางวัน ซึ่งไม่สามารถคอยดูแลสุนัขของตนเองได้ ก็จะมีศูนย์บริการ (Dogs Day Care) ซึ่งจะมีค่าบริการแตกต่างกันไป โดยจะประมาณราคาสำหรับสุนัขแรกเข้า ดังนี้ ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 21,000 เยน และค่าดูแล 3 เดือนสำหรับสุนัขขนาดเล็ก 310,000 เยน ซึ่งค่าดูแลนั้นจะรวมค่าเดินทาง, ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายในด้านสุขภาพระหว่างวันให้ด้วย โดยการดูและนั้นผู้ดูแลจะปล่อยให้สุนัขนั้นเล่นอยู่ในห้อง และพาเดินออกไปเล่นข้างนอก นอกจาก Dogs Day Care แล้ว ยังมี Pet Resort College ซึ่งจะคอยดูแลสัตว์เลี้ยงให้กับเราตั้งแต่นำไปเข้าบริการจนกระทั่งเสียชีวิต ซึ่งจะมีค่าบริการสำหรับแรกเข้าและค่าบริการตลอดชีพ สำหรับสุนัขขนาดเล็กและขนาดกลาง ประมาณ 1.8 ล้านเยน

จากธุรกิจเหล่านี้จะเห็นได้ว่าชาวญี่ปุ่นค่อนข้างมีความรักและความผูกพันต่อสุนัขอย่างมากมาย

พันธุ์สุนัขที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น

Akita

akita-150x150

มีต้นกำเนิดมาจากภูมิภาคทางด้านเหนือของประเทศญี่ปุ่น มีทั้งสิ้น 2 ประเภท คือ American Akita และ Japanese Akita จะมีลักษณะโดยทั่วไปคือหัวใหญ่เป็นรูบ 3 เหลี่ยม, ตาเล็ก, หูตั้ง เป็นสุนัขที่มีพลังสูง ซื่อสัตว์ มีความจงรักภักดีต่อเจ้าของเป็นอย่างมาก

ชาวญี่ปุ่นถือว่าสุนัขพันธุ์อาคิตะเป็นสัญลักษณ์ของการมีสุขภาพที่ดีและอายุยืน ชาวญี่ปุ่นมักจะมอบรูปปั้นสุนัขพันธุ์นี้ให้กับผู้ป่วยเพื่อที่จะได้หายป่วยเร็วๆ

Japanese Spitz

Japanese-Spitz-150x150

ถูกพัฒนามาจาก Spitz สายพันธุ์อื่น ลักษณะคล้ายปอมเมอเรเนียน แต่มีขนาดใหญ่กว่า มีลักษณะนิสัยเป็นมิตร แต่จะไม่ไว้ใจคนแปลกหน้า ควรรับการฝึกตั้งแต่เด็ก เนื่องจาก Spitz เป็นสุนัขที่ค่อนข้างเห่าเก่ง

Japanese Chin

japanese-chin-150x150

เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศจีน แต่เมื่อในประวัติศาสตร์สุนัขพันธุ์นี้ได้ถูกมอบให้เป็นของขวัญแก่จักรพรรดิ์ญี่ปุ่น จึงได้รับความนิยมค่อนข้างมากในญี่ปุ่น และมีการขยายพันธุ์เพิ่มขึ้น เป็นสุนัขที่มีขนยาว เหยียดตรง ลำตัวค่อนข้างสั้นมีลักษณะคล้ายรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส (ความสูงขนาดใกล้เกียงกับความยาวของลำตัว) นิสัยของ Japanese Chin จะเป็นเพื่อนที่ดี ฉลาด และตื่นตัวอยู่เสมอ

Japanese Shiba (Shiba Inu)

shiba-150x150

เป็น 1 ในพันธุ์ท้องถิ่นของญี่ปุ่นที่มีขนาดเล็ก และมีลักษณคล้ายกับอาคิตะเป็นอย่างมาก จริง ๆ แล้วสุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขล่า และอาศัยอยู่ในภูเขา เป็นสุนัขที่ฉลาด นิสัยร่าเริง คล่องแคล่ว และปราดเปรียว

Japanese Shikoku (Shikoku Inu)

Shikoku2-150x150

เป็นพันธุ์สุนัขที่ดั้งเดิมของทางญี่ปุ่น ขนาดกลาง โดยปกติจะหนักประมาณ 35-55 ปอนด์ และจะสูงประมาณ 17-21 นิ้ว เป็นสุนัขที่มีน้ำใจ และมีสายตาดี ชอบออกกำลังกาย โดยเฉพาะการเดินป่าและการแค้มปิ้ง

 Kishu (Kishu Inu)

kishu-150x150

เป็นสายพันธุ์ที่มีการพัฒนามาหลายพันปี ซึ่งลักษณะคล้ายกับอาคิตะ และชิบะ ซึ่งในสมัยก่อนไคชูเป็นพันธุ์สุนัขที่ไว้ล่ากวางและหมูป่าเช่นเดียวกับชิบะ ลักษณะโดยทั่วไปจะสูงประมาณ 17-22 นิ้ว และหนักประมาณ 30-60 ปอนด์ ซึ่งเป็นพันธุ์ขนาดกลาง โดยปกติสีขนจะเป็นสีขาว

 Hokkaido (Hokkaido Inu)

ainu-150x150

พันธุ์สุนัขขนาดกลาง ขึ้นชื่อด้านการต่อสู้ จงรักภักดีและเชื่อฟังเจ้านาย ขนจะมีลักษณะเป็นสองชั้น นุ่มและหนา มีหลายสีทั้ง สีแดง, ขาว, ดำ, ลายเสือ, ลายงา และสีเทา โดยปกติจะสูงประมาณ 50 เซนติเมตร และหนักประมาณ 20 กิโลกรัม