เจาะลึกการเรียนที่นิวซีแลนด์

blog-tips-hero-highschool-edit

1) สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับ NCEA

NCEA มีชื่อเรียกเต็มว่า (National Certificate of Educational Achievement)  NCEA ของมัธยมปลายที่เราต้องเก็บหน่วยกิจ จะมี 3 ระดับ นั่นคือ NCEA level 1 (Year 11) NCEA level 2 (Year 12) และ NCEA level 3 (Year 13) นักเรียนส่วนใหญ่จะเรียน 5 ถึง 6 วิชา ในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับว่าเราเก็บหน่วยกิจได้ครบเท่าไร ส่วน Year 10 นั้นจะเป็นของมัธยมต้น ซึ่งนักเรียนส่วนน้อยจะเลือกเรียนใน Year นี้ ระดับของการศึกษามัธยมที่นิวซีแลนด์ไม่ต่างกันมากเพราะคุณภาพการเรียนการสอนต้องได้มาตรฐานที่รัฐบาลกำหนดไว้

2) การสอบวิชาภายในห้องและภายนอกห้องเรียนของนิวซีแลนด์ต่างกันอย่างไร ? 

สำหรับคนที่ไม่เคยไม่เรียนที่นิวซีแลนด์ก็จะไม่คุ้นว่าการวัดผลนั้นเขาทำการอย่างไร เหมือนกันครับตอนที่ผมไปเรียนนิวซีแลนด์ใหม่ๆ ก็ไม่เข้าใจ แต่ไม่ต้องกลัวครับ สิ่งที่ต้องไม่ลืม คือ การสอบแต่ละครั้งมีความหมายกับเรามากเพราะจะทำให้เราได้หน่วยกิจเร็วขึ้น อย่างแรกเราต้องรู้จักการสอบภายในห้อง การสอบภายในห้องไม่ใช่ข้อสอบกลางของรัฐบาลนิวซีแลนด์ แต่จะเป็นการวัดผลสอบวิชาของโรงเรียนนั้นๆ และส่วนมากจะเป็นวิชาที่ไม่เน้นทางวิชาการ อาทิ วิชาสอนทำอาหาร วิชาเต้นรับ และ วิชาสอนภาษาที่สาม เป็นต้น ข้อสอบภายในจะเป็นข้อสอบเกี่ยวกับบทเรียนที่เรียน นี่ไม่ได้หมายความว่าวิชาที่สอบนอกห้องเรียนจะไม่มีวิชาสอบภายในห้องเลย แต่ละวิชาก็ยังคงมีปนวิชาสอบภายในและวิชาสอบภายนอกอยู่ ส่วนวิชาสอบภายนอกนั้น คือ ข้อสอบกลางที่ออกโดยรัฐบาลที่จะมีสอบช่วงเทอมสุดท้ายของการเรียน หรือ เทอม 4 นั้นเอง ผมขอบอกเลยว่าสอบภายนอกห้องเรียนนั้นจะเป็นข้อสอบอัตนัยสะส่วนใหญ่ ซึ่งไม่เหมือนที่ไทย ทั้งนี้ทั้งนั้นเราไม่ควรขาดวันที่เรามีสอบเพราะเราจะเสียหน่วยกิจไปฟรีๆ การสอบแบบนี้นั้นไม่เหมือนอย่างกับที่ไทยเพราะถ้าคุณสอบแล้วไม่ได้หน่วยกิจ นั่นหมายถึงเราต้องเรียนวิชาเพิ่มเพื่อทำให้ได้หน่วยกิจครบ

3) การเรียนภาคปฏิบัติของโรงเรียนมัธยมที่นิวซีแลนด์

ภาคปฏิบัติที่นิวซีแลนด์จะเยอะกว่าที่ไทยมากเพราะเขาต้องให้นักเรียนรู้ลึกถึงข้อมูลด้านวิชาการอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้ห้องทดลองเพื่อดูเซลใบไม้ว่าทำหน้าที่อย่างไง การผ่าซากตักแตนเพื่อศึกษาอวัยวะภายใน ในด้านงานฝีมือก็จะมีการออกแบบรถยนต์ไม้อัดโดยใช้เครื่องมือในโรงเลื่อย ถ้าใครไม่ชอบงานนี้ก็จะมีการออกแบบกราฟิกบนคอมพิวเตอร์ที่เรียนในห้อง ไม่ว่าจะเป็นการเรียนสถาปนิก หรือ เรียนการวาดภาพประกอบ ที่นิวซีแลนด์จะเรียนแล้วปฏิบัติจริงไม่ได้เรียนแล้วท่องเหมือนกับที่น้องๆได้เรียนในไทย นักเรียนที่ยังไม่เคยไปเรียนอาจจะไม่ทราบ และ ต้องปรับตัวกันหน่อย ภาคปฏิบัติจะช่วยให้เรามีทักษะที่เพิ่มขึ้น แต่ถ้าน้องๆ ชอบแนวปฏิบัติอยู่แล้วก็จะดี 

4) โรงเรียนรัฐบาลกับโรงเรียนเอกชนที่นิวซีแลนด์ต่างกันอย่างไร? 

ส่วนมากโรงเรียนที่นิวซีแลนด์จะเป็นของรัฐบาล จะมีส่วนน้อยที่เป็นของเอกชน ค่าเรียนของโรงเรียนรัฐจะอยู่ระหว่าง 5-6 แสนบาท ซึ่งจะถูกกว่าเอกชน โรงเรียนเอกชนนั้นจะมีอุปกรณ์การเรียนที่เหนือกว่าในทุกด้าน และ จะเด่นในด้านวิชาการสูง ค่าเรียนของเอกชนจะอยู่ประมาณ 9 แสน โรงเรียนรัฐจะถูกควบคุมดูแลรัฐทั้งหมด ส่วนมากจะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลโดยตรง ของเอกชนนั้นจะได้รับเงินจากกลุ่มศาสนาคริสต์ ถ้าเทียบกับมัธยมที่ไทยแล้วคุณภาพมัธยมนิวซีแลนด์ต่างกันไม่มากเพราะเข้ามีมาตรฐานที่สูงกว่าเรา โรงเรียนรัฐบาลที่นิวซีแลนด์จะไม่มีกินนอนเหมือนกับโรงเรียนเอกชน 

5) เรียนต่อมหาวิทยาลัยในนิวซีแลนด์

ถ้าต้องการเรียนมหาลัยที่นั่นควรเรียน Year 13 เพียงแค่เราทำหน่วยกิจให้ได้ 60 ใน level 3 บวกกับ level 2 อีก 20 หน่วยกิจถึงจะเข้าไปเรียนในมหาลัยของเขาได้ วิชา Year 13 ส่วนมากจะเป็นวิชาเลือกที่เราจะไปใช้ในตอนเรียนมหาวิทยาลัย และ ต้องเป็น 3 วิชาที่รัฐบาลกำหนดเท่านั้น การเรียนในมหาลัยนิวซีแลนด์จะใช้เวลาเรียน 3 ถึง 4 ปี ขึ้นอยู่กับคณะที่เราเรียน แต่ละมหาลัยจะมีความเด่นในการเรียนที่ไม่เหมือนกัน ถ้าเราอยากจะเรียนวิชาชีวะวิทยา ผมแนะนำให้คุณลองดูมหาลัย “โอทาโก” ที่ตั้งอยู่ในเมือง ดันนีดิน ซึ่งอยู่เกาะใต้ของนิวซีแลนด์ การเลือกมหาลัยไม่ใช่ว่าเราดูที่ความสวยงามของอาคาร แต่ต้องดูว่าเราเหมาะกับที่ไหนด้วย มหาลัยของที่นิวซีแลนด์จะแบ่งเป็น 2 เทอม semester 1 จะเปิดเรียนประมาณเดือน กุมพาพันธ์ ถึง เดือน มิถุนายน semester 2 จะเปิดประมาณเดือน กรกฎาคม ถึง พฤศจิกายน

6) สังคมโรงเรียนมัธยมนิวซีแลนด์

สังคมของเด็กนิวซีแลนด์จะใช้ชีวิดแบบเรียบง่าย และ เป็นอิสระสูง เด็กที่นั่นส่วนใหญ่จะชอบออกไปทำกิจกรรมโรจโพน และ เล่นกีฬาเป็นประจำ เวลาตอนพักกินข้าว เด็กๆชาวกีวี่จะไม่นั่งกินข้าวในโรงอาหารเหมือนอย่างกับที่ไทย แต่จะนั่งแบบอิสระบนพื้นหญ้า และ มันทำให้เรานึกถึงการไปปิกนิกวันหยุดสุดสัปดาห์เลยทีเดียว สังคมของที่นั่นจะนิยมกินขนมปังเป็นหลัก เช่น แซนวิช ไส้กรอก และ คาสตาสด์ ที่มีส่วนผสมของครีม เด็กที่นิวซีแลนด์ถูกฝึกมาให้มาโรงเรียนตรงต่อเวลา ซึ่งจะต่างกับที่ไทยที่เราบางครั้งเราอาจจะมาสายได้ ซึ่งต่างกับที่นิวซีแลนด์เพราะว่านักเรียนต้องบอกว่ามาสายเพราะอะไร  ไม่ใช่ว่ามาสายแล้วเข้าเรียนเชยๆ สังคมที่นั่นจะนิยมหารายร้ายเสริมหลังเลิกเรียน การไปทำงานเป็น casher ที่ร้าน Mac Donald ก็เป็นอีกหนึ่งงานที่เด็กกีวี่ทำ สังคมที่นั่นจะคล้ายๆ อังกฤษ แตกต่างแค่ค่าคลองชีพที่ถูกกว่าสำหรับเด็กไทย

7) ถ้าเด็กนักเรียนไทยควรไปเรียน Year ไหนของ high school?

ผมแนะนำว่าหน้าจะไปเรียนใน Year 10 ก่อนสำหรับเด็กที่ยังพูดหรือสื่อสารภาษาอังกฤษไม่คล่อง Year 10 นั่นจะไม่มีหน่วยกิจที่จะนำไปใช้ได้ แต่เราเรียนเพื่อเป็นความรู้เท่านั้น Year 10 จะมีวิชาบังคับหลายตัวที่เด็กทุกคนต้องลงเรียน Year 10 หรือพูดได้อีกอย่างก็ คือ Junior High School  มันเป็นตัวปรับพื้นฐานให้เด็กค้นเคยกับการเรียนแบบระบบนิวซีแลนด์ ถ้ามาเริ่มเรียน Year 11 มันอาจจะกดดันกับตัวเด็กเองเพราะต้องทำสอบให้ผ่านเพื่อเก็บหน่วยกิจ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่พื้นฐานภาษาของเด็กเองว่ามีความสามารถทางภาษาอังกฤษในระดับไหน Year 10 จะเป็นตัววัดที่ดีในการไปศึกษาในระดับชั้นในปีต่อไปเมื่อน้องๆขึ้น Year 11 ดูเหมือนว่าการเรียน Year 10 นั้นจะทำให้นักเรียนต้องเสียเวลาเรียนอีกปีนึง แต่มันทำให้นักเรียนมีทักษะในปรับตัวเองเข้าหาเด็กนิวซีแลนด์ได้ดี

8) การเทียบวุฒิเข้ามหาลัยวิทยาลัยในไทย

ถ้าจะเทียบวุฒิที่ไทยนั้นทางกระทรวงศีกษาจะเอา NCEA level 2 (60 credits) ซึ่งหมายความว่า เราต้องทำหน่วยกิจอย่างน้อยรวมกับ level 1 ให้ได้ 80 credit หลังจากได้รับ NCEA ที่เป็นทางการแล้ว ควรนำไปให้กระทรวงเพื่อออกใบรับรองว่าเราจบจากนิวซีแลนด์จริงๆ จากนั้นจึงนำไปให้มหาลัยไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการจบการศึกษาตอนมัธยม ควรเอาใบคะแนนที่เราจบ และ ใบประกาศนีย์บัตรที่ออกโดยโรงเรียนมัธยมที่นิวซีแลนด์โดยตรง NCEA level 2 เทียบวุฒิเท่ากับ ม.6 ประเทศไทย 

9) ความปลอดภัยของการเรียนมัธยมที่นิวซีแลนด์ไหม?

การเรียนมัธยมนั้นมีความปลอดภัยสูงโดยเฉพาะอย่างตอนที่ผมไปเรียนที่นิวซีแลนด์ใหม่ๆ การเดินทางกลับบ้านตอนกลางคืนนั้นไม่มีคนพลุกพล่านเหมือนกับประเทศตะวันตกเพราะจำนวนประชากรในนิวซีแลนด์มีแค่ 4 ล้านกว่าคน ประเทศนิวซีแลนด์มีการตรวจอาวุธปืนที่เข้มงวดมาก การพกอาวุธถือว่าผิดกฎหมาย โฮมสเตย์ที่นักเรียนพักอาศัยอยู่จะรายงานทุกอาทิตย์ว่าเรานักเรียนทำตัวดีหรือไม่ ถ้านักเรียนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อาจจะมีการพิจารณาเปลี่ยนโฮมสเตย์ได้ ภัยธรรมชาติที่ประเทศนิวซีแลนด์นั้นมีไม่บ่อย และเกิดถี่ซ้ำๆ อาชญากรรมนั้นทีน้อยมากถ้าเราเปรียบเทียบกับประเทศอื่นเลยทีเดียว ที่นิวซีแลนด์จะมีตำรวจดูเวลานักเรียนที่ต้องการขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาใดๆ ก็ตาม

ผู้เรียบเรียง : พลิน เลิศพูนวศิน