ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวสกอตแลนด์
สถานที่น่าสนใจในสกอตแลนด์
สกอตแลนด์เป็นประเทศที่มีสเน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยความงดงามทางทัศนียภาพและความเป็นมิตรของผู้คนในท้องถิ่น สกอตแลนด์มีเมืองที่สำคัญอยู่หลายเมืองได้แก่ เมือง Glasgow Edinburgh และ Aberdeen เป็นต้น ที่คุณสามารถเข้าร่วมงานเทศกาลท้องถิ่นและเยี่ยมชมปราสาทที่มีชื่อเสียง เช่น “Edinburgh Castle”
สำหรับบางคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวชมธรรมชาติ สกอตแลนด์ก็มีสถานที่อนุรักษ์สัตว์ป่าหรือกิจกรรมที่ท้าทาย และยังมีแหล่งอนุรักษ์พันธ์สัตว์หายากอีกหลายชนิด เช่น นกพัฟฟิน เหยี่ยวทะเล ส่วนผู้ที่ชื่นชอบการปีนเขาหรือผู้ที่อยากสูดอากาศบริสุทธิ์ พลาดไม่ได้ที่จะต้องลองเดินขึ้นยอดเขา Ben Nevis (ยอดเขาที่สูงที่สุดในสหราชอาณาจักร) ที่ Fort William หรือผู้ที่ชื่นชอบการตกปลาก็สามารถไปตกปลา Mackerel ได้ที่ทะเลสาบน้ำเค็มอันสวยงามที่ Ballachulish
สถานที่ท่องเที่ยวในเมือง Edinburgh
บ๊อบบี้ (Greyfriars Bobby) เป็นสุนัขสายพันธุ์ Skye Terrier บ๊อบบี้เป็นสุนัขของ John Gray ซึ่งเป็นตำรวจคอยทำหน้าที่เฝ้าระวังภัยยามค่ำคืน จนกระทั่งวันนึง John Gray ได้เสียชีวิตลงด้วยโรควัณโรค ร่างของเค้าถูกฝังอยู่ที่ Greyfriars Kirkyard ในเมืองเอดินเบอระ สกอตแลนด์ บ๊อบบี้สุนัขที่แสนจะซื่อสัตย์ได้นั่งเฝ้าหลุมฝังศพของ John Gray เจ้านายของมันมาตลอดระยะเลา 14 ปี นอกจากเวลาที่มันหิวซึ่งมันจะไปหาอาหารกินที่บบริเวณร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆกันกับหลุมฝังศพของเจ้านายมัน และในช่วงฤดูหนาวมันก็จะหาที่หลบหนาวอยู่แถวบ้านของคนที่อยู่ใกล้ๆกับหลุมฝังศพเจ้านาย บ็อบบี้เสียชีวิตในปี 1872 แต่ร่างของมันไม่สามารถถูกฝังอยู่ในบริเวณสุสาน (Greyfriars Kirkyard) ร่วมกับมนุษย์ได้ เพราะว่าสถานที่นั้นถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่สุดท้ายก็มีการตกลงให้ฝังร่างของมันไว้ตรงบริเวณด้านในของประตูทางเข้าของ Greyfriars Kirkyard ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหลุมฝังศพของเจ้านายมันมากนัก อนุเสาวรีย์ของเจ้าบ็อบบี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงสุนัขตัวเล็กๆ ตัวนึงที่มีความซื่อสัตย์และยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้พระราชวังโฮลีรูด (Holyrood Palace หรือ Palace of Holyroodhouse) ชื่อ “Holyrood” เป็นคำที่แปลงเป็นภาษาอังกฤษจากคำว่า “Haly Ruid” ของภาษาสกอตที่แปลว่า “Holy Cross” หรือ “กางเขนศักดิ์สิทธิ์” พระราชวังโฮลีรูดเป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่ที่เมืองเอดินเบอระ ในสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร โฮลีรูดเป็นพระราชวังที่เป็นสมบัติส่วนพระองค์ของพระราชวงศ์อังกฤษที่ยังทรงใช้ในสถานที่ประทับหลักในสกอตแลนด์ โฮลีรูดเดิมเป็นสำนักสงฆ์ที่ก่อตั้งโดยพระเจ้าเดวิดที่ 1 แห่งสกอตแลนด์ในปี ค.ศ. 1128 ต่อมามาใช้เป็นที่ประทับหลักของพระมหากษัตริย์และพระราชินีของสกอตแลนด์มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 ตัวพระราชวังตั้งอยู่ทางใต้ของรอยัลไมล์ (Royal Mile) ในเมืองเอดินเบอระ ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับปราสาทเอดินเบอระที่ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของรอยัลไมล์ ในปัจจุบันเป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการในสกอตแลนด์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่จะทรงประทับเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ในต้นฤดูร้อนของทุกปี และทรงเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงในสวนและการเลี้ยงรับรองอย่างเป็นทางการต่างๆเมื่อประทับอยู่ที่นั่นThe Scotch Whisky Heritage Centre เป็นศูนย์จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นมาชองวิสกี้ให้ชมทั้งกรรมวิธีการผลิตตั้งแต่ขั้นตอนแรกๆ ไปจนถึงการบรรจุลงขวด ด้วยภาพจำลอง หุ่นแสดงและวีดีโอ ภายในพิพิธภัณฑ์ได้รวบรวมวิสกี้ยี่ห้อต่างๆกว่า 3,000 ขวดไว้ให้ได้ชมกัน เรียกได้ว่ามีแทบทุกยุคทุกสมัยเรียงรายกันอย่างสวยงาม ละลานตา นอกจากจะจัดแสดงแล้วทางศูนย์จัดแสดงยังมีการเชิญวิทยากรมาให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของวิสกี้ สาธิตการทำวิสกี้ รวมถึงไฮไลท์ของงานอย่างการให้นักท่องเที่ยวได้ชิมวิสกี้ มีโต๊ะให้ได้นั่งลิ้มลองรสชาติกันอย่างสบายใจ นับเป็นสวรรค์ของนักดื่มเลยทีเดียว
- ค่าบริการเข้าชมคนละ 14.00 ปอนด์
- เด็กที่อายุต่ำกว่า 17 ปี ค่าบริการเข้าชมคนละ 7.00 ปอนด์ (ไม่อนุญาตให้ชิม)
- ครอบครัว (ผู้ใหญ่ 2 คนและเด็ก 2 คน) 35.00 ปอนด์
- เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 10.00-18.00น. เปิดให้เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 17.00น. (อาจมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเทศกาล)
The Edinburgh Military Tattoo งานเทศกาลที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน Edinburgh Festival งาน Edinburgh Military Tattoo นั้นเป็นงานเฉลิมฉลองการเล่นดนตรี การเต้นรำ และขบวนพาเหรดของกองทัพอันหรูหราตระการตาHolyrood Park and Arthur’s Seat สวน Holyrood Park อยู่ไม่ไกลจาก Royal Mile ซึ่งตั้งอยู่ที่ใจกลางของเมืองเอดินเบอระ สวนนี้มีพื้นที่ 640 เอเคอร์ อยู่ใกล้กับพระราชวัง Holyrood Palace
จุดที่สูงที่สุดของสวนนี้ถูกเรียกว่า Arthurs Seat ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่สงบแล้ว มีระดับความสูง 251 เมตรเหนือน้ำทะเลซึ่งทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองได้ สวนนี้ยังเป็นที่ตั้งของป้อมปราการอันยิ่งใหญ่และแน่นหนาที่เป็น 1 ใน 4 ป้อมปราการที่สร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อ 2,000 กว่าปีก่อน ด้วยความหลากหลายด้านธรณีวิทยาและพืชพันธุ์ชนิดต่างๆ ทำให้ที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความสนใจในด้านวิทยาศาสตร์ด้วยเช่นกัน Royal Botanical Garden Edinburgh เดินทางเพียงแค่ 1 ไมล์จากใจกลางเมือง สวนพฤกษศาสตร์ Royal Botanical Garden จะช่วยมอบความเงียบสงบให้กับผู้มาเยือนท่ามกลางทัศนียภาพอันงดงามของพันธ์ุไม้นานาชนิดบนพื้นที่กว่า 72 เอเคอร์Old Town Edinburgh เป็นแหล่งรวมของถนนอันซับซ้อนที่ปูด้วยหิน ตรอกซอกซอยเล็กๆและสนามหญ้าในบริเวณที่ลับตาผู้คนซึ่งถูกรักษาเอาไว้เป็นอย่างดีและเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมาตั้งแต่ในอดีต ศุนย์กลางของถนนเหล่านี้คือถนน Royal Mile ถนนที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในช่วงการปฏิรูปสิ่งปลูกสร้างอาคารบ้านเรือน โดยทอดยาวตั้งแต่ปราสาท Edinburgh Castle ที่ Castle Rock ไปจนถึง Palace of Holyroodhouse
Old Town Edinburgh นับเป็นสถานที่ที่มีความน่าสนใจตลอดทั้งปี แต่ที่นี่จะมีเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยวได้มากที่สุดในช่วงเดือนสิงหาคม ยามเมื่อผู้คนหลั่งไหลกันเข้ามาและเมืองกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งจากบรรยากาศอันรื่นเริงของงานเทศกาล Edinburgh Fringe and FestivalNational Museum of Scotland พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสกอตแลนด์ ติด 1 ใน 10 สุดยอดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักร และยังติด 1 ใน 20 อันดับพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรี่ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลกอีกด้วย
หลังการปรับปรุงใหม่ด้วยงบกว่า 47 ล้านปอนด์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีศิลปโบราณวัตถุอันล้ำค่าอยู่กว่า 20,000 ชิ้น คอลเลคชั่นอันงดงามตระการตาเหล่านี้จะนำพาคุณสู่การเดินทางอันเร้าใจผ่านประวัติศาสตร์ของสกอตแลนด์ ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ วัฒนธรรมต่างๆและความน่าตื่นเต้นของวิทยาศาสตร์และการค้นพบ ทั้งหมดนี้ภายในที่เดียว National Gallery of Scotland หอศิลป์แห่งชาติสกอตแลนด์ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของสกอตแลนด์ที่เปิดให้เข้าชมฟรี ภายในมีการจัดแสดงผลงานคอลเลคชั่นศิลปะของชาติตั้งแต่ช่วงยุคเรเนซองส์จนถึงช่วงสิ้นสุดศตวรรษที่ 19
ใช้เวลาเดินเล่นเที่ยวชมสถานที่อันเงียบสงบแห่งนี้ คุณจะได้พบกับผลงานชิ้นเอกของศิลปินมากมายในอดีตอย่าง Raphael, Velázquez และ Vermeer ไปจนถึง Monet, Cézanne และ Van Gogh สำหรับชาติที่ไม่ใหญ่มากนักอย่างสกอตแลนด์ คอลเลคชั่นเหล่านี้นับได้ว่าเป็นของชั้นเยี่ยมของโลกเลยทีเดียว Cranachan & Crowdie ร้านค้าที่รวบรวมสินค้าหลายอย่างของสกอตแลนด์ ไม่ว่าจะเป็นของฝาก อาหาร และเครื่องดื่มแบบพื้นเมืองของชาวสกอตแลนด์Fudge Kitchen ขนมช็อกโกแลต fudge หลากหลายรสชาติถูกทำขึ้นที่นี่ คุณสามารถซื้อและชมการทำ fudge แบบสดๆใหม่ๆได้ทุกวัน
Edinburgh Castle ปราสาทเอดินเบอระ มีชื่อเสียงและเป็นสัญลักษณ์ของสก็อตแลนด์ และเป็นส่วนหนึ่งของเมืองเก่าและเมืองใหม่ของสก็อตแลนด์ เมื่อไม่นานนี้ปราสาทเอดินเบอระได้ถูกโหวตให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของสหราชอาณาจักรใน British Travel Awards และยังเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากที่สุดของสก็อตแลนด์ด้วย
- ผู้ใหญ่เสียค่าเข้าชมคนละ 16.50 ปอนด์
- เด็กเสียค่าเข้าชมคนละ 9.90 ปอนด์
City Observatory (หอดูดาวยอดโดมแบบกรีกโรมัน) จากจุดชมวิวบนเขา Calton Hill นี้ สามารถเพลิดเพลินไปกับการชื่นชมพระอาทิตย์ตกและชมวิวทิวทัศน์รอบๆเมืองเอดินเบอระได้
National Monument อนุสรณ์สถานแห่งชาติสกอตแลนด์ตั้งอยู่บน Calton Hill ในเมืองเอดินเบอระ เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติที่สร้างขึ้นให้กับทหารและลูกเรือชาวสกอตแลนด์ที่เสียชีวิตในการต่อสู้ในสงครามจักรพรรดินโปเลียน และเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้ชายชาวสกอตแลนด์รุ่นใหม่ๆมีความกล้าหาญ
สถานที่ท่องเที่ยวใน Glasgow
The Glasgow School of Art โรงเรียนศิลปะ Glasgowได้รับการออกแบบโดย Charles Rennie Mackintosh ในปี 1896 และแล้วเสร็จในปี 1909 และยังเป็นโรงเรียนศิลปะที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ซึ่งสถาบันแห่งนี้ก็ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของ Charles Rennie Mackintosh ซึ่งมีการตกแต่งภายในได้ดีและลงตัวที่สุด
ผู้มาเยือนจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นให้มาทำความรู้จักกับเรื่องราวของ Mackintosh’s story เดินชมภายนอกของอัญมณีทางสถาปัตยกรรมชิ้นนี้ และพบกับคอลเลคชั่น originial furniture เฉพาะของที่นี่ที่นำทัวร์โดยนักเรียนของที่นี่Kelvingrove Art Gallery and Museum หอจัดแสดงผลงานศิลปะและพิพิธภัณฑ์ Kelvingrove เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่เป็นที่นิยมมากของ สก็อตแลนด์ มีผลงานแปลกตาและน่าสนใจจัดแสดงอยู่กว่า 8,000 ชิ้นใน 22 แนวธีม
ของที่จัดแสดงอยู่ที่นี่มีมากมายหลากหลาย มีทั้งที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์, อาวุธและชุดเกราะ, งานศิลปะจากยุคสมัยต่างๆและอื่นๆอีกมากมาย ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดที่จัดแสดงอยู่ที่นี่คือภาพวาด ‘Christ of St John of the Cross’ ผลงานชิ้นเอกของ Salvador Dali
หอจัดแสดงผลงานศิลปะและพิพิธภัณฑ์ Kelvingrove ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัว ด้วยการออกแบบ จัดวางผลงานศิลปะโดยคำนึงถึงเด็กๆ และนอกจากนี้ที่นี่ยังมีร้านอาหาร, คาเฟ่และร้านขายของที่ระลึกบริการด้วยSharmanka Kinetic Theatre โรงละครอันน่าพิศวงของ Eduard Bersudsky ซึ่งมีการแสดงโดยใช้ตุ๊กตา รูปปั้น หุ่นกลไกมากมายที่รวบรวมเอาไว้ The Glasgow Sceince Centre ศูนย์วิทยาศาสตร์ Glasgow เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่นำเสนอวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในแบบที่ไม่เหมือนใคร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดของสก็อตแลนด์ ภายในมีกิจกรรมมากมายสำหรับผู้มาเยือนทุกวัยภายในพื้นที่ 2 เอเคอร์ซึ่งประกอบด้วย ลานจัดแสดงนิทรรศการ, ห้องปฏิบัติการ (workshop), การแสดง, ลานกิจกรรม, ท้องฟ้าจำลองและโรงภาพยนตร์ IMAX
- เวลาเปิดให้บริการในฤดูร้อน วันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 10:00 – 17:00น.
- เวลาเปิดให้บริการในฤดูหนาว วันพุธ – วันศุกร์ เวลา 10:00 – 15:00น. วันเสาร์และวันอาทิตย์เวลา 10:00 – 17:00น.
สถานที่ท่องเที่ยวใน Stirling
Stirling Castle เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของสก็อตแลนด์ ในอดีตเคยเป็นที่อยู่อาศัยของราชาและราชินี Stewart ในปราสาทมีการตกแต่งด้วยรูปปั้นมากมายและภายนอกก็มีสวนที่สวยงามจึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบของราชาและราชินี Stewart และผู้คนมากมาย
ปัจจุบันปราสาทแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้คนมากมายเข้ามาเยี่ยมชม เมื่อเข้ามาจะมีคนที่แต่งตัวเป็นบอดี้การ์ด, เจ้าหน้าที่ศาล, แม่บ้านและเหล่าคนรับใช้คอยต้อนรับในบรรยากาศแบบยุคศตวรรษที่ 16 ครอบครัวสามารถสนุกกับกิจกรรมที่ห้องใต้ดินของปราสาทได้เช่น การให้เด็กๆแต่งกายด้วยชุดที่เข้ากับบรรยากาศและเล่นสวมบทบาทเป็นคนในยุคกลาง
ที่ระเบียงดาดฟ้าของปราสาทมีร้านอาหาร Unicorn Café ที่ให้เพลิดเพลินไปกับอาหารแบบชาวสก็อตพร้อมกับชมวิวทิวทัศน์จากบนปราสาทไปด้วย นับเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาด
- เวลาเปิดให้บริการในฤดูร้อน วันที่ 1 เมษายน 2015 – 30 กันยายน 2015 เวลา 09:30 – 18:00น.
- เวลาเปิดให้บริการในฤดูหนาว วันที่ 1 ตุลาคม 2015 – 31 มีนาคม 2016 เวลา 09:30 – 17:00น.
- ผู้ใหญ่เสียค่าเข้าชมคนละ 14.50 ปอนด์
- เด็กเสียค่าเข้าชมคนละ 8.70 ปอนด์
- จำหน่ายตั๋วเข้าชมรอบสุดท้าย 45 นาทีก่อนเวลาปิด
สถานที่ท่องเที่ยวใน Aberdeen
Linn O’ Dee สถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนทางธรรมชาติ Linn O’ Dee นั้นเป็นน้ำตกและแม่น้ำที่สวยงามที่ไหลผ่านระหว่างหุบเขา เหมาะสำหรับการมาปิกนิกพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์Balmedie Beach ชายหาดที่สวยงาม มีเนินทรายมากมายอยู่ทางด้านหลังของชายหาด ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมือง ระยะทางเพียงแค่ 5 ไมล์จากเมือง Aberdeen Aberdeen Maritime Museum พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์อันยาวนานของเมืองนี้กับทะเล
ชื่นชมคอลเลคชั่นอันเป็นเอกลักษณ์เกี่ยวกับการต่อเรือ การแล่นเรือ การตกปลา และประวัติของท่าเรือต่างๆ
คอลเลคชั่นภาพวาดและอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับการเดินเรือถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ด้วยอุปกรณ์แบบ touch screen consoles, computer visual databases, education room และสื่อนิทรรศการที่จะให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าทึ่งโดยตรง ทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มมิติใหม่ให้กับผู้มาเยือนและทำให้เรื่องราวมากมายของการทำอุตสาหกรรมทางทะเลอย่าง การขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง การหาปลาและการขนส่งทางทะเล กลับมามีชีวิตอีกครั้งRoyal Aberdeen Golf Club ในอดีต Royal Aberdeen Golf Club เคยเป็นหมายเลข 6 ตารางลีกการแข่งขันกอล์ฟมากมาย และตามหลักแล้วก็น่าจะได้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกมากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้
ที่ Balgownie แห่งนี้อยู่ห่างจากใจกลางของเมือง Aberdeen เพียงแค่ไมล์เดียวเท่านั้นเอง คลับแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1780 โดยเป็นแหล่งรวมตัวของเหล่านักเล่นกอล์ฟที่อเบอร์ดีน และยังเป็นสนามที่ดีที่สุดและใช้ทดสอบมากที่สุดของสกอตแลนด์Footdee (Fittie) หมู่บ้านชาวประมงขนาดเล็กที่ Footdee สามารถไปเยี่ยมชมได้โดยตั้งอยู่ที่ปากทางท่าเรืออเบอร์ดีน เข้าได้จากทางชายหาด Esplanade ที่เมืองอเบอร์ดีน
หมู่บ้าน Footdee ประกอบด้วยพื้นที่ที่เป็นกระท่อมตกปลา 2 ส่วน สร้างขึ้นเป็น 2 บล็อก ในอดีตกระท่อมเหล่านี้เคยเป็นบ้านของชาวประมงและครอบครัวของพวกเขา แต่ในปัจจุบันเหลือครอบครัวชาวประมงที่ยังอาศัยอยู่เพียงน้อยนิด สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงกระท่อมตกปลาที่สวยงามและสวนเล็กๆไม่กี่แห่งเท่านั้นเอง
สถานที่ท่องเที่ยวใน Highland
Inverness เปรียบเสมือนเมืองหลวงของ Highlands เป็นเมืองที่ใหญ่และคึกคักที่สุดของ Highlands ซึ่งทำให้ลักษณะเมืองของ Highlands นั้นมีความคล้ายกับเมืองใหญ่ที่ค่อนข้างเจริญมากกว่าที่จะเป็นเมืองเก่าแก่ แต่ก็ยังไม่วุ่นวายจนเกินไป หากจะไปเที่ยว Highlands ก็ควรมาแวะเดินเที่ยวชม Inverness ซักหน่อย เมืองนี้เป็นเมืองที่สวยงาม ผู้คนเป็นมิตรและใจดี
การเดินทาง: สามารถเดินทางมายัง Inverness ได้ทั้งทางเครื่องบิน รถไฟและรถโค้ชGlenfinnan Viaduct สะพานทางรถไฟสายตะวันตกของ Highlands ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ข้ามหุบเขาตรงบริเวณ Glenfinnan ซึ่งอยู่ใกล้กับ Glenfinnan Monument และ Loch Shiel ดูเผินๆ สะพานแห่งก็ไม่ต่างอะไรจากสะพานรถไฟอื่นๆ แต่ความพิเศษของสะพานแห่งนี้คือรถไฟที่วิ่งผ่านยังคงเป็นรถไฟเครื่องจักรไอน้ำซึ่งมีชื่อว่า Jacobite Steam หากใครได้ดูหนังเรื่อง Harry Potter และยังจำเนื้อเรื่องกันได้ นักเรียนโรงเรียนเวทมนต์ทั้งหลายต้องนั่งรถไฟสาย Hogwart Express จากสถานี King Cross ไปยังโรงเรียน Hogwart ซึ่งจะมีฉากที่รถไฟขบวนยาว โบกี้เป็นสีแดงและหัวรถจักรสีดำพ่นไอน้ำออกจากปล่องในขณะที่วิ่งอยู่บนสะพานหินสีขาวโค้งยาวเพื่อข้ามหุบเขา ซึ่งฉากนั้นก็คือสถานที่แห่งนี้กับรถไฟขบวนนี้นั่นเอง หากแค่ชมวิวยังไม่อินพอ คุณยังสามารถซื้อตั๋วขึ้นไปนั่งบนรถไฟ Jacobite Steam เลยก็ได้ โดยรถไฟจะให้บริการระหว่าง Fort William และ Mallaig แต่ว่าค่าตั๋วโดยสารก็ค่อนข้างแพงสมสมควรเลยEilean Donan Castle เป็นปราสาทเล็กๆที่ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆตรงจุดที่ทะเลสาบ 3 แห่ง มาบรรจบกัน โดยมีสะพานหินขนาดใหญ่เชื่อมระหว่างตัวปราสาทและริมฝั่ง ถูกสร้างขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อน แต่ตัวปราสาทที่เห็นในปัจจุบันนั้นได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่เนื่องจากปราสาทเดิมถูกทำลายลง ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงปราสาทเล็กๆเมื่อเทียบกับปราสาทอื่นๆในสกอตแลนด์ แต่จุดเด่นของ Eilean Donan Castle นั้นคือที่ตั้งของปราสาทที่เป็นเอกลักษณ์และบรรยากาศรอบๆ ปราสาทที่เงียบสงบและสวยงามมาก ทำให้ Eilean Donan Castle เป็นหนึ่งในปราสาทที่สวยงามและถูกถ่ายรูปมากที่สุดในสกอตแลนด์และยังได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในปราสาทที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของโลก
- เวลาให้บริการ 1 กุมถาพัธ์ – 25 ตุลาคม ทุกวันเวลา 10.00 – 18.00 (Last Admission 17.00) หมายเหตุ: เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อยในบางวัน
- เวลาให้บริการ 26 ตุลาคม – 31 ธันวาคม ทุกวันเวลา 10.00 – 16.00
- ปราสาทจะปิดบริการในวันที่ 1, 2, 22, 24 พฤศจิกายน และ 25, 26 ธันวาคม
- การซื้อตั๋ว: สามารถซื้อตั๋วได้ที่หน้าทางเข้าปราสาท
Loch Ness เป็นทะเลสาบที่มีความลึกกว่า 700ฟุต มีน้ำทะเลสีดำเข้ม บรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดูลึกลับชวนให้ขนลุกของทะเลสาบแห่งนี้ทำห้เป็นที่มาของตำนานเรื่องเล่า ทะเลสาบนี้มีความยาว 23 ไมล์ ทั้ง 2 ฝั่งของทะเล-สาบ มีภูเขาขนาบข้าง มีปราสาทเก่าแก่ Urquhart ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน, วัด, โบสถ์และหมู่บ้านเล็กๆอย่าง Foyers และ Dores ตั้งอยู่ตามภูเขาเหล่านั้น ถนนทางเหนือตามแนวฝั่งของทะเลสาบคือที่ที่มีการรายงานว่าพบเห็นสัตว์ประหลาด Loch Ness โดยเริ่มมีการพบเห็นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 7 และหลังจากนั้นเรื่อยมา
ผู้ที่สนใจสามารถไปเยี่ยมชมศูนย์จัดแสดงเกี่ยวกับ Loch Ness ได้ที่ Loch Ness Centre & Exhibition Experience และ Nessieland สถานที่ทั้ง 2 แห่งนี้อยู่ที่ Drumnadrochit อยู่ไม่ไกลจากปราสาท Urquhart
ทัวร์โดยรถบัสและนั่งเรือเป็นวิธีที่ดีในการเที่ยวชม Loch Ness ซึ่งเปิดโอกาสให้ได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ได้ ถ้าหากเลือกทัวร์ช่วงเย็นก็จะมีโอกาสได้เห็นทิวทัศน์ที่พระอาทิตย์ตกสะท้อนกับผิวน้ำได้
นอกจากการเที่ยวชมแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมที่หลากหลายให้ทำได้เช่น การเดินเล่นและการปีนเขา เป็นสถานที่จัดงาน Baxters Loch Ness Marathon ประจำปี และยังเป็นจุดที่ผู้คนนิยมมาแล่นเรือใบและตกปลาอีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวในเมือง Falkirk
The Falkirk Wheel เป็นลิฟท์หมุนสำหรับยกเรือเพียงแห่งเดียวในโลกซึ่งเชื่อมระหว่างคลอง Forth & Clyde กับคลอง Union ในใจกลางของสก็อตแลนด์ ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 21 ได้รับการยอมรับให้เป็นสถานที่สำคัญที่มีความพิเศษทางด้านวิศวกรรมรวมอยู่ด้วย ถูกออกแบบมาเพื่อแทนที่ประตูกั้นน้ำที่ถูกสร้างในศตวรรษที่ 19
The Falkirk Wheel เป็นการเชื่อมต่อการเดินทางจากชายฝั่งหน่งไปยังอีกชายฝั่งหนึ่งหลังจากที่ถูกตัดขาดมาเป็นเวลากว่า 40 ปีโดยประตูกั้นน้ำที่เสียหายซึ่งทำให้ไม่สามารถเดินทางโดยเรือได้
สำหรับผู้ที่เที่ยวชมโดยการนั่งเรือจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงต่อเที่ยว รวมขาขึ้นและขาลงจาก Falkirk Wheel เปิดให้บริการตลอดทั้งปี
สถานที่ท่องเที่ยวใน Fife
St Andrews Cathedral เศษซากที่ยังคงหลงเหลืออยู่ของมหาวิหาร St Andrews ซึ่งเคยเป็นโบสถ์ที่ใหญ่และงดงามที่สุดของสกอตแลนด์ได้แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่เมื่อครั้งในอดีต
ภายในมหาวิหารมีการจัดแสดงสิ่งของที่น่าสนใจมากมาย ทั้งรูปปั้นมากมายจากช่วงต้นและช่วงปลายของยุคกลาง และศิลปวัตถุต่างที่อยู่ในบริเวณโดยรอบของโบสถ์ รวมไปถึงโลงหินของ St Andrews
St Rule’s Tower หอคอยที่อยู่ในบริเวณของมหาวิหารเป็นส่วนหนึ่งของวิหารแห่งแรกของ Augustinian canonsที่เขต St Andrews ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นของศตวรรษที่ 12 สามารถขึ้นไปชมวิวได้ที่ชั้นบนสุดของหอคอย
ตั๋วสำหรับเข้าชมมีทั้งแบบเฉพาะสำหรับเข้าชมมหาวิหารเท่านั้น และแบบเข้าชมได้ทั้งมหาวิหารและปราสาท St Andrew
ผู้เข้าชมที่ใช้รถ Wheelchairs ก็สามารถเข้าชมได้ แต่อาจต้องการการช่วยเหลือในบางจุด เช่น การข้ามศิลาฤกษ์ของมหาวิหาร การเข้าชมหินแกะสลักชิ้นแรกใน visitor centre สามารถเข้าชมได้เลย แต่การเข้าร้านค้านั้นจำเป็นต้องขึ้นบันไดไป 4 ขั้น และจำเป็นต้องขึ้นบันไดไปอีก 4 ขั้นเพื่อจะชมป้ายหินหลุมศพ St Rule’s Tower ไม่เหมาะสำหรับผู้เข้าชมที่มีความผิดปกติทางร่างกาย
ในบางครั้งอาจมีความจำเป็นตองปิดให้บริการเนื่องจากสภาพอากาศไม่อำนวยหรือเหตุผลอื่นๆ ผู้เข้าชมสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่เว็บไซต์: www.historic-scotland.gov.uk/hsclosure หรือทางทวิตเตอร์: @welovehistory using #hsclosure
- เวลาเปิดให้บริการในฤดูร้อน วันที่ 1 เมษายน – 30 พฤศจิกายน เปิดตั้งแต่ 9:30-17:30น. (เปิดให้เข้าชมรอบสุดท้าย 17:00น.)
- เวลาเปิดให้บริการในฤดูหนาว วันที่ 1 ตุลาคม – 31มีนาคม เปิดตั้งแต่ 10:00-16:00น. (เปิดให้เข้าชมรอบสุดท้าย 15:30น.)
- St Rule’s Tower อาจปิดให้บริการในช่วงที่มีลมแรง
- ผู้ใหญ่เสียค่าเข้าชม 4.50 ปอนด์ สำหรับเข้าชมมหาวิหารเท่านั้น และ 8.00 ปอนด์ สำหรับเข้าชมทั้งมหาวิหารและปราสาท
- เด็กเสียค่าเข้าชม 2.70 ปอนด์ สำหรับเข้าชมมหาวิหารเท่านั้น และ 4.80 ปอนด์ สำหรับเข้าชมทั้งมหาวิหารและปราสาท
แหล่งข้อมูล: Visitscotland.com