“บิ๊กเอ” พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดฯ ยันหาก 2 ฮีโรไม่ขยันซ้อม มีสิทธิ์วืด “โตเกียวเกมส์” ด้าน “โค้ชเช” เช ยอง ซุก หัวหน้าผู้ฝึกสอน ยอมรับยังไม่ได้สัญชาติไทย เผยคิดหนักหากต้องทิ้งสัญชาติเกาหลีใต้

ภายหลังจากสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ประสบความสำเร็จคว้าเหรียญรางวัล จาก “น้องเทม” เทวินทร์ หาญปราบ รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 58 กก. และเหรียญทองแดง “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ รุ่นน้ำไม่เกิน 49 กก. ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิล

ล่าสุด นายพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดฯ ออกมากล่าวถึงผลงานในครั้งนี้ ว่า “ส่วนตัวแล้วพอใจกับผลงานโดยรวม ที่ผ่านมา เราทุ่มเทกับการแข่งขันเยอะ โดยเทควันโดเราใช้งบประมาณมาก เพื่อเดินทางไปแข่งขันเก็บคะแนนในต่างประเทศ”

“เรื่องสรีระตอนนี้เราอาจจะไม่เป็นรองคู่ต่อสู้มากเหมือนเมื่อก่อน เพราะนักกีฬามีส่วนสูงที่มากขึ้น แต่สิ่งที่ต้องปรับปรุง คือ เรื่องของกล้ามเนื้อที่อาจจะยังไม่เท่ากับชาติอื่น ๆ เห็นได้ชัดว่าแต่ละชาติเขาก็เตรียมตัวกันมาดี ๆ ทั้งนั้น แต่ละคนท็อปฟอร์มมากในแต่ละรุ่น“

“ส่วนนักกีฬาของเราที่ได้เหรียญมาทั้งคู่ ก็ต้องดูว่าเขาจะพร้อมสำหรับรายการต่อไป หรือโอลิมปิกอีก 4 ปีข้างหน้าหรือไม่ เพราะกีฬาชนิดนี้เรื่องระเบียบวินัย สำคัญมาก ชาติอื่น ๆ เขามาเต็มกันหมด หากทั้งคู่ยังขยันตั้งใจเหมือนเดิมก็มีโอกาสไปญี่ปุ่น แต่ถ้าหย่อนวินัยก็หมดสิทธิ์เหมือนกัน”

ด้าน “โค้ชเช” เช ยอง ซุก หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชาวเกาหลีใต้ เปิดเผยเช่นกันว่า พร้อมทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนต่อไปจนถึงโอลิมปิก 2020 และหวังว่าจะนำเหรียญทองมาให้ทีมชาติไทยให้ได้

พร้อมกันนี้ “โค้ชเช” ยังกล่าวถึงเรื่องการขอสัญชาติไทยด้วยว่า “ผมอยากได้สัญชาติไทย ผมอยากซื้อบ้านเป็นของตัวเอง เพื่อจะอยู่เมืองไทย และทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้เหมือนคนไทย รวมถึงลูกชายจะได้เข้าโรงเรียนด้วย แต่ทราบดีว่าเป็นเรื่องยาก และอาจต้องสละสัญชาติเกาหลี ซึ่งทำใจลำบากเหมือนกัน”

“ส่วนจากนี้ก็จะขอกลับไปดูแลคุณย่าที่เกาหลีใต้ เพราะท่านอายุ 97 ปีแล้ว และอยากนำครอบครัวกลับไปพักผ่อน คาดว่า น่าจะ 2 สัปดาห์ แล้วจะกลับมาทำงานที่ประเทศไทยอีกครั้ง” ยอดโค้ชชาวเกาหลีใต้กล่าว