รวบรวมบทความเกี่ยวกับ เรียนต่อเยอรมัน ศึกษาต่อ ประเทศเยอรมนี โดย www.educatepark.com

FAQ/ถามตอบ – เรียนแพทย์ที่ประเทศเยอรมัน

FAQ/ถามตอบ – เรียนแพทย์ที่ประเทศเยอรมัน 1. คุณสมบัติ 2. การสมัคร 3. การเรียนการสอน   1.คุณสมบัติ   คำถาม นักศึกษาต่างชาติต้องผ่านการทดสอบใดบ้าง คำตอบ นักศึกษาต่างชาติไม่จำเป็นต้องผ่านการทดสอบใดเป็นพิเศษ แต่จำเป็นต้องมีใบรับรองวุฒิระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย แต่ถ้าใบรับรองนั้นไม่สามารถเทียบวุฒิได้ นักศึกษาต้องลงเรียนที่ Studienkolleg ณ ประเทศเยอรมัน และผู้เรียนยังต้องมีทักษะภาษาเยอรมันที่ดีด้วย คำถาม ใช้เวลานานเท่าไรในการรอการตอบรับจากทางสถาบัน และมีความจำเป็นที่จะต้องเรียนปริญญาตรีก่อนหรือไม่  หรือต้องเริ่มเรียนใหม่ทั้งหมดอีกครั้งในภาคการศึกษาแรก คำตอบ ในกรณีที่ผู้เรียนมีผลการเรียนดีเลิศ ผู้เรียนจะได้รับการตอบรับทันทีจากทางสถาบัน แต่ถ้าไม่ ผู้เรียนจำเป็นที่จะต้องลงเรียนอย่างอื่นในขณะเดียวกัน เพราะยังมีผู้สมัครอีกเป็นจำนวนมากที่ต้องรอประมาณสามภาคการศึกษากว่าที่พวกเขาจะได้เข้าเรียนที่สถาบันทางการแพทย์ คำถาม อาจารย์ผู้สอนคาดหวังอะไรจากผู้เรียน และผู้เรียนควรมีคุณสมบัติใด คำตอบ  อาจารย์ผู้สอนต้องการผู้เรียนที่มีความใฝ่รู้ใฝ่เรียนจากทั่วทุกมุมโลก มีความสนใจทางด้านการแพทย์และวัฒนธรรมสังคม และเป็นผู้ที่สามารถดูแลตัวเองได้จึงจะได้รับการประเมิน คำถาม ปัญหาอุปสรรคสำหรับนักศึกษาต่างชาตินอกจากอุปสรรคทางด้านภาษา คำตอบ ภาษาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่ปัญหาอุปสรรคส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการบริหารจัดการ ตัวอย่างเช่นการลงทะเบียนเรียน โดยผู้เรียนต้องเปิดใจกว้างรับวัฒนธรรมเยอรมัน และถึงแม้ว่าประเทศเยอรมันจะมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม แต่ผู้คนส่วนมากจะมีแนวความคิดและดำเนินชีวิตแบบคริสเตียน และเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเอง ยึดมั่นในวัฒนธรรมและศาสนา เป็นคนพูดตรง เปิดใจรับสิ่งต่างๆ   2. [อ่านต่อ..]

AMADEUS International School VIENNA เรียนมัธยมที่ออสเตรีย

AMADEUS International School VIENNA ประสบการณ์ทางการศึกษาเพียงหนึ่งเดียวในเมืองแห่งดนตรีคลาสสิกของโลก   Website : http://www.amadeus-vienna.com/   เกี่ยวกับ AMADEUS Vienna โรงเรียนนานาชาติ AMADEUS แห่งกรุงเวียนนา เป็นโรงเรียนประจำนานาชาติแห่งแรกที่เสนอหลักสูตรการศึกษาที่ดีที่สุดซึ่งมีรากฐานมาจาก IB PYP/MYP/DP โรงเรียนแห่งนี้ตั้งอยู่ในกรุงเวียนนาที่สวยงาม ยังคงกลิ่นอายของยุคศตวรรษที่ 18 ในชุมชนที่แวดล้อมด้วยรั้ว อุทยานไม้ น้ำพุธรรมชาติ และ สถาปัตยกรรมที่ประณีตงดงาม ผู้จบการศึกษาจากที่นี่จะมีพื้นฐานความรู้แน่น เข้าใจถึงแหล่งการเรียนรู้ทั้งหมดที่กำหนดโดย หลักสูตรการศึกษาระดับประกาศนียบัตรนานาชาติ (ตัวอย่างเช่น Mathematics, Science, English Language Arts, Humanities, Information & Communications Technology, Global Languages, Theory of Knowledge, Creativity, Action และ Service เป็นต้น) ผู้จบการศึกษาจะได้รับการเตรียมตัวอย่างดีสำหรับการเข้าสู่วิทยาลัย มหาวิทยาลัย โรงเรียนสอนดนตรีที่ดีที่สุดทั่วโลก และก้าวเข้าสู่อาชีพที่ประสบความสำเร็จในวงการดนตรีหรืออาชีพอื่นๆตามเส้นทางที่เลือกเอง [อ่านต่อ..]

ฺเรียนมัธยมปลาย ในประเทศเยอรมัน กับ Berlin Brandenburg International School

ข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจ เรียนมัธยมปลาย ในประเทศเยอรมัน "โรงเรียนนานาชาติเบอร์ลิน เบรนเดนเบิร์ก (BBIS) เป็นโรงเรียนสากลแห่งเดียวที่ ใช้ โปรแกรมทั้ง 4 โปรแกรมของทาง International Baacalaureate Organization และยิ่งไปกว่านั้นทางโรงเรียนยังได้จัดเตรียมหอพักและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆสำหรับนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นปีที่ 9-12 BBIS มองเห็นถึงการศึกษาในแต่ละคนอย่างครอบคลุม ตามมาตรฐานที่ดีที่สุดสำหรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต ความสำเร็จ และความสุข ทักษะต่างๆในศตวรรษที่21 เช่น การคิดวิเคราะห์ ภาษาต่างที่หลากหลาย และ ความสามารถต่างๆที่มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เป็นกุญแจสำคัญในหลักสูตรของเรา ข้อเสนอความพิเศษที่ครอบคลุมและ กิจกรรมต่างๆในหลักสูตรนี้เป็น โปรแกรมการศึกษาที่สมบูรณ์ที่สุด เรามีความเชื่อที่จะให้การศึกษากับผู้เรียนอย่างสมบูรณ์ วิทยาเขตที่กว้างใหญ่ของเรากว้างราวๆ 400,000ตารางเมตร มีสภาพแวดล้อมดี เงียบสงบ อาคารเรียนต่างๆและห้องเรียนได้จัดให้มีบรรยากาศที่น่าเรียนเพื่อให้มีช่วงเวลาเรียนที่ดี ผลลัพธ์ในเชิงบวกจากประสบการณ์ในหลักสูตรก็เกิดขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อตอนนักเรียนทั้งหลายเลื่อนชั้นเรียนหรือในการสอบปลายภาคเรียนต่างๆ นำไปสู่ประกาศนียบัตรหลักสูตร IB ในระดับประถม ใบรับรองในสายอาชีพที่เกี่ยวข้องในหลักสูตร หรือ ประกาศนียบัตรหลักสูตรการศึกษาบีบีไอเอสในระดับมัธยมปลาย BBIS มีนักเรียนเข้ามาเรียนมากมายจาก 60 กว่าประเทศ ตั้งอยู่ในเขตแดนตอนใต้และตะวันตกของเมืองเบอร์ลิน ระยะทางที่ขับรถไป เมืองพอทส์ดัม และการเดินทางที่สะดวกทั้งรถโรงเรียนและการขนส่งสาธารณะ BBIS ได้สร้างสังคมของการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ [อ่านต่อ..]

รู้จักเมืองใหญ่ในเยอรมัน ตอนที่ 4 >>> แฟรงเฟิร์ต

จริง ๆ แล้วชื่อเต็ม ๆ ของ Frankfurt คือ Frankfurt am Main ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ในประเทศเยอรมัน Frankfurt เป็นศูนย์กลางการเงินการเดินทางของประเทศ และเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป นอกจากนี้ยังป็นที่ตั้งของ European Central Bank, German Federal Bank, Frankfurt Stock Exchang, Frankfurt Trade Fair และธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่หลากหลายแห่งทั้ง Deutsche Bank, Commerzbank และ DZ Bank ศูนย์กลางทางการขนส่งนั้น Frankfurt Airport เป็นหนึ่งในสนามบินที่มีเส้นทางการเดินทางแลกเปลี่ยนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก , Frankfurt Central Station ยังเป็นหนึ่งในสถานีที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และ Frnkfurter Kreuz ยังถูกใช้เป็นเส้นทางในการเดินทางมากที่สุดในยุโรป สำหรับอากาศใน Frankfurt จะเป็นลักษณะแบบมหาสมุทรคือ มีอุณหูมิที่ต่ำในช่วงฤดูหนาว และมีอุณหภูมิที่อบอุ่นในช่วงฤดูร้อน โดยอุณหภูมิเฉลี่ยประจำปีจะอยู่ประมาณ [อ่านต่อ..]

มารู้จัก TestDaF กัน

มารู้จัก TestDaF การทดสอบภาษาเยอรมัน เพื่อยื่นเข้ามหาวิทยาลัย Test of German as a foreign language - TestDaF เป็นการทดสอบภาษาเยอรมันสำหรับชาวต่างชาติที่มีความรู้ในภาษาเยอรมันในระดับหนึ่ง และต้องการที่จะทราบระดับของตนเอง นอกจากนี้ใครก็ตามที่ต้องการเรียนมหาวิทยาลัยในเยอรมันจำเป็นที่จะต้องยื่นหลักฐานทางภาษาที่เพียงพออีกด้วย   ผลการสอบ TestDaF จะแบ่งเป็น 3 ระดับ TestDaF-Niveaustufe 5 (TDN 5 – TestDaF level 5) TestDaF-Niveaustufe 4 (TDN 4 – TestDaF level 4) TestDaF-Niveaustufe 3 (TDN 3 – TestDaF level 3) ซึ่งระดับภาษา TestDaF นั้นเทียบเท่าได้กับระดับภาษาตาม Common European Framework of Reference for [อ่านต่อ..]

การขับรถในประเทศเยอรมัน

หากนักเรียนอยากที่จะขับรถในระหว่างที่อาศัยอยู่ในประเทศเยอรมัน ข้อมูลในส่วนนี้จึงน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการเตรียมตัวการขับรถยนต์ในเยอรมันกันค่ะ ปัจจุบันประเทศเยอรมันยังไม่มีการกำหนดความเร็วรถยนต์ในส่วนของทาง Autobahn (Motorway)  อย่างไรก็ตามมีการแนะนำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับในถนนประเภทอื่น ๆ ผู้ขับรถ ควรจะสังเกตป้ายจำกัดความเร็วรถยนต์ เพราะหากขับเร็วกว่ากำหนด จะเสียค่าปรับ จนถึงการโดนยึดใบขับขี่ได้ ประเทศเยอรมันถือได้ว่าเป็นประเทศที่ชื่นชอบในเรื่องของรถยนต์ จึงไม่แปลกใจเลยว่าประเทศนี้เป็นประเทศที่มีการสร้างรถยนต์เป็นแหล่งแรก โดยในปัจจุบันอุตสาหกรรมรถยนต์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการลงทุนมากที่สุดในโลก สำหรับนักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีรถเป็นของตนเองสักเท่าไร เนื่องจากราคาค่าน้ำมันนั้นสูงกว่าประเทศยุโรปประเทศอื่น ๆ และต้องเสียค่าประกันรถยนต์ในราคาที่แพง นักเรียนส่วนใหญ่จึงมักที่จะเช่ารถมากกว่า ซึ่งการเช่ารถนั้นสามารถทำได้ทั่วไป เนื่องจาก German Railways (Deutsche Bahn - DB) นั้นยังมีบริการให้เช่ารถยนต์ตามสถานีรถไฟและสนามบินมากกว่า 100 เมืองทั่วประเทศในราคาตั้งแต่ 1.90 ยูโรต่อชั่วโมง ในเรื่องของใบอนุญาติขับขี่นั้น สำหรับนักเรียนไทยที่อาศัยอยู่ในเยอรมันไม่เกิน 185 วันนั้นจะสามารถใช้ใบขับขี่สากลได้เลย แต่ถ้านักเรียนที่อาศัยอยู่มากกว่า 185 วัน ให้ติดต่อกับทาง Bürgeramt เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของการอออกใบอนุญาติขับขี่ของเยอรมันต่อไป   ที่มา : DAAD

รู้จัก Studienkollegs (Preparatory Course) คอร์สเรียนต่อเยอรมัน

เรียนปริญญาตรี ประเทศเยอรมัน - รู้จัก Studienkollegs เรียนปริญญาตรี ประเทศเยอรมัน - สำหรับนักเรียนซึ่งจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือในระดับวิชาชีพ ปวช. และต้องการไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรีประเทศเยอรมัน นักเรียนจะไม่สามารถสอบเข้าในระดับปริญญาตรีได้เลย แต่จะต้องเรียน Studienkollegs หรือ Preparatory Course ก่อน 1 ปี ถ้าน้องยังไม่มีพื้นฐานภาษาเลย จะต้องเรียนภาษาให้ได้ในอย่างน้อยระดับ B1 ก่อนนะคะ จากนั้นจะเป็นไปตาม Pathway ด้านล่างค่ะ ขั้นตอนที่ 1 : สอบเข้าเรียน Studienkollegs (Preparation Course) 1 ปี (จะไม่ใช่หลักสูตรเรียนภาษานะคะ จะเป็นหลักสูตรเตรียมพร้อมเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ต้องเรียนหลายวิชาด้วยกัน ขั้นตอนที่ 2 : สอบ Final ของ Studienkollegs ขั้นตอนที่ 3 : กรณีผ่านสอบ Final สามารถทำเรื่องต่อปริญญาตรีได้ หรือในกรณีที่ไม่ผ่านสอบ [อ่านต่อ..]

รู้จักเมืองใหญ่ในเยอรมัน ตอนที่ 3 >>> ฮัมบวร์ก

ฮัมบวร์ก ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของประเทศเยอรมัน มีประชากรอาศัยทั้งสิ้น 3.5 ล้านคน ฮัมบวร์กเป็นเมืองหลักที่มีความหนาแน่นของประชากรค่อนข้างน้อย โดยคิดเป็น 30 ตารางเมตรต่อคน นอกจากนี้ร้อยละ 14 ของเมืองยังถูกสร้างเป็นสวนสาธารณะ สวนหย่อม และพื้นที่สำหรับกิจกรรมอื่น ๆ อีกด้วย ฮัมบวร์กมีสะพานมากถึง 2,302 สะพานมากกว่าจำนวนสะพานในเวนิส และอัมสเตอร์ดัมรวมกันซะอีก อีกทั้งยังมีสถานกงสุลมากกว่า 90 ประเทศ ซึ่งมากเป็นอันดับสองรองจากกรุงนิวยอร์ก   การเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะในฮัมบวร์ก   The Hamburg Public Transport Network (HVV) ได้จัดตั้งระบบการขนส่งที่มีความเชื่อมต่อกันเพื่อให้สะดวกในการเดินทางรอบ ๆ เมือง โดยการเดินทางนั้นสามารถเลือกใช้การเดินทางได้หลายวิธีดังนี้ S-Bahn และ U-Bahn เป็นวิธีการเดินทางหลักภายในฮัมบวร์ก เพราะมีความรวบเร็ว และการเดินทางจะเน้นใจกลางเมือง โดย U-Bahn (รถไฟฟ้าใต้ดิน) จะมีเส้นทางทั้งหมด 3 สาย ส่วน S-Bahn จะมีทั้งหมด 6 สาย และเส้นทางของรถไฟที่ใช้เดินทางข้ามเมืองอีก [อ่านต่อ..]

รู้จักเมืองใหญ่ในเยอรมัน ตอนที่ 2 >> มิวนิค

มิวนิค เป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ตั้งอยู่ในแถบแม่น้ำ Isa ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากเบอร์ลิน และฮัมบูร์ก มิวนิคเป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่ประมาณ 1.4 ล้านคน ปัจจุบันมิวนิคเป็นศูนย์กลางทางด้านการสื่อสารและการเงินของประเทศเยอรมัน   ภูมิอากาศ ภูมิอากาศในมิวนิคเป็นแปบบไหล่ทวีป มีการเปลี่ยนแปลตามเทือกเขาแอลป์ อุณหภูมิระหว่างตอนกลางวันและตอนกลางคืนค่อนข้างที่จะแตกต่างกัยอย่างมาก ในช่วงฤดูหนาวจะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม ซึ่งหน้าหนาวในมิวนิค ก็ยังสามารถเจอผนตกหนักได้เช่นกัน ในส่วนของหน้าร้อนจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยที่ 24 องศาเซลเซียส   การเดินทาง เครื่องบิน Munich International Airport เมืองมิวนิคมีสนามบินนานาชาติที่มีความสำคัญเป็นลำดับที่สองในเยอรมันนี แต่ละปีรองรับผู้โดยสารมากถึง 35 ล้านคนต่อปี Munich International Airport ยังเป็นศูนย์การบินหลักของสายการบิน Lufhansa ซึ่งเป็น partner ของทางสนามบินอีกด้วย สนามบินนี้ตั้งอยู่นอกเมืองมิวนิค ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับใจกลางเมือง Riem และในปี 2011 ยังได้รับยกย่องให้เป็นสนามบินที่ดีที่สุดในยุโรปอีกด้วย การเดินทางจากสนามบินเข้ามาสู่ตัวเมืองนั้น สามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลายทางไม่ว่าจะเป็นการนั่ง S-Bahn (รถไฟสายเข้าเมือง) ซึ่งราคาจะอยู่ประมาณ 10 ยูโร ต่อตั๋ว [อ่านต่อ..]

รู้จักเมืองใหญ่ในเยอรมัน ตอนที่ 1 >>> เบอร์ลิน

เบอร์ลิน <BERLIN> เมืองใหญ่ ๆ ในเยอรมัน จะอยู่กระจายกันทั่วทั้งประเทศ และแต่ละเมืองจะมีความสำคัญเท่า ๆ กัน และมีความโดดเด่นไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม สำหรับตอนที่ 1 จะพาไปรู้จักกับเมืองหลวงของประเทศ ซึ่งอยู่ทางตอนบนของประเทศ นั่นคือ กรุงเบอร์ลิน ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และเป็นศูนย์กลางของทางวัฒนธรรม, การเมือง, บันเทิง และวิทยาศาสตร์ เศรษฐกิจภายในเบอร์ลินนั้นขึ้นอยู่กับในส่วนของการบริการ และอุตสาหกรรมทางด้านสื่อต่าง ๆ นอกจากนี้เบอร์ลินยังเป็นศูนย์กลางของการเดินทางโดยรถไฟ และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เบอร์ลินยังเป็นแหล่งที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง, สถาบันวิจัย, วงออเครสต้า, พิพิธภัณฑ์ และกีฬาที่ได้รับความนิยม และยังมีชื่อเสียงในการจัดเทศกาลต่าง ๆ จึงเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่ามีพลเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่สูง เราอาจจะเคยพูดถึงเบอร์ลินไปแล้วในแง่ของการศึกษา แต่บทความนี้จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจถึงความเป็นอยู่ของเมือง สถานที่ท่องเที่ยว มากขึ้น คลิกที่นี่ เบอร์ลินหนึ่งในเมืองการศึกษาระดับโลก สถานที่ท่องเที่ยว Bradenburg Gate เป็นอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เริ่มสร้างเมื่อปีค.ศ. 1789 และเสร็จเมื่อปีค.ศ. 1791 ปัจจุบันเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของการรวมประเทศเยอรมัน Kaiser Wilhelm Memorial Church [อ่านต่อ..]

กิจกรรมแนะนำสำหรับผู้ที่ไปเรียนต่อในเยอรมัน ตอนที่ 2

ชิล ชิล ตามสวนสาธารณะในเมือง ในช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเช้า ๆ วันอาทิตย์ เราจะพบผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันอยู่ในสวนสาธารณะ ต่างก็เอาตระกร้าปิคนิก, หนังสือ, อุปกรณืกีฬา และอื่น ๆ เพื่อสร้างพื้นที่ในสวนสาธารณะแห่งนี้ให้เป็นเหมือนห้องนั่งเล่นของตนเองนอกบ้าน สิ่งที่เรามักจะพบเจอเมื่อเราไปพักผ่อนในสวนสาธารณะในเยอรมัน ช่วงฤดูร้อน - ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม สระว่ายน้ำแบบ outdoor มักจะเปิดในเชิงธุรกิจ จึงทำให้ทะเลสาบส่วนใหญ่เต็มไปด้วยผู้คนออกมาเล่นน้ำกัน ผู้คนส่วนใหญ่มักชอบออกมาอาบแดดในสวนสาธารณะ ดังนั้นไม่น่าแปลกใจเลย ที่จะเห็นผู้หญิงและผู้ชายอยู่ในชุดว่ายน้ำ และนอนตามสวนสาธารณะ ซึ่งการอาบแดดตามสวนสาธารณะในเยอรมันไม่ถือว่าเป็นการทำให้เกิดอนาจารแต่อย่างใด - ชาวเยอรมันเป็นผู้รักในการปิ้งบาร์บีคิวเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งตามกฎหมายของเยอรมันแล้ว ประชากรแต่ละคนมีสิทธิที่จะปิ้งบาร์บีคิวนอกบ้านได้ 26 ครั้งใน 4 เดือน เมื่อถึงในช่วงเดือนพฤษภาคม นักเรียนทั่วเยอรมันจึงมักจะนัดพบกันเพื่อไปปิ้งไส้กรอก ทำชีสรมควัน มันฝรั่งอบ ในสวนกัน - กีฬาแบบแปลกใหม่อย่าง Slacklining ซึ่งเป็นการเดินไต่บนเชือก จริง ๆ แล้ว กีฬาชนิดนี้มีต้นกำเนิดจากแคลิฟอร์เนีย แล้วมาได้รับความนิยมอย่างมากในเยอรมัน ผู้เล่นจะต้องผูกเชือกระหว่างต้นไม้สองต้น และทำการเดินให้สมดุล    

กิจกรรมแนะนำสำหรับผู้ที่ไปเรียนต่อในเยอรมัน ตอนที่ 1

กิจกรรมแรกที่จะแนะนำคือ การไปดูหนังกลางแปลง หนังกลางแปลงในเยอรมันไม่เหมือนกับในประเทศไทย ในฤดูร้อนของเยอรมัน อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส จึงทำให้ผู้คนสามารถออกมาสนุกกับการดูหนังข้างนอก ในบรรยากาศโรงหนังแบบเปิดกันได้ และด้วยบรรยากาศสนุกสนาน ผองเพื่อน รวมถึงหนังแต่ละเรื่องที่ฉายก็ถูกคัดสรรกันมาอย่างดี อีกทั้งด้วยบรรยากาศที่สวยงาม จึงทำให้กิจกรรมดูหนังกลายเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจขึ้นมาทีเดียว     เมื่อเริ่มที่จะสนใจและชวนเพื่อน ๆ กันได้แล้ว สิ่งที่เราควรเตรียมตัวจะมีดังต่อไปนี้   ตั๋วหนัง ไม่ใช่ว่าใครจะเดินถือเสื่อ 1 ผืนแล้วเข้าไปดูได้แบบในประเทศไทยนะคะ โรงหนังแบบเปิดแบบนี้ก็ขายตั๋ว โดยมักจะขายแบบออนไลน์หรือขายล่วงหน้า แน่นอนว่าถ้าวางแผนจะไปแล้ว ก็ควรที่จะมีตั๋วอยู่ในมือได้แล้วค่ะ   อากาศ เนื่องจากเป็นโรงหนังแบบเปิด อากาศทั้ง ฝน, ลม, พายุ ต่างก็มีผลกระทบทั้งสิ้น ดังนั้นควรดูพยากรณ์อากาศให้แน่ชัด และเตรียมเสื้อผ้า หรือร่มให้พร้อม   เบาะรองนั่ง/หมอน ที่นั่งของโรงหนังอาจจะไม่สะดวกสบายเท่าไรนัก ถ้ากังวลเกี่ยวกับเรื่องการนั่ง แนะนำให้นำเบาะนั่งมาเองด้วยค่ะ   ที่มา: DAAD

วิธีการเรียนภาษาเยอรมัน สำหรับนักศึกษาไทยที่เข้าไปเรียนต่อที่เยอรมนี

วิธีการเรียนภาษาเยอรมัน สำหรับนักศึกษาไทยที่เข้าไปเรียนต่อที่เยอรมนี เมื่อนักศึกษาไทยเข้าไปเรียนในเยอรมัน การเรียนภาษาเยอรมันจะทำได้หลายวิธีไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มเพื่อนที่โรงเรียน หรือคนรู้จักในเมือง หรือด้วยการอ่านหนังสือ ซึ่งนักศึกษาเองต้องหาวิธีที่เหมาะสมกับนักเรียนในเรียนภาษา   การเรียนภาษาแบบ Group Course คนส่วนใหญ่เรียนภาษาเยอรมันเป็นกลุ่มในโรงเรียนสอนภาษา, มหาวิทยาลัย ในประเทศเยอรมนี หรือเรียนในไทย ถ้านักศึกษาต้องการเรียนหลักสูตรปริญญาที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ และมีเวลาเพียงเล็กน้อยในการเรียนภาษาเยอรมัน ซึ่งอาจจะต้องหาหลักสูตรที่เหมาะสมกับการเรียน สำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาภาษาอย่างรวดเร็ว ก็ควรจะเรียนเป็นแบบ Intensive Language Course อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัยในเยอรมันส่วนใหญ่มักจะมีหลักสูตรภาคฤดูร้อนในช่วงพักภาคการศึกษา ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวสามารถช่วยให้นักศึกษามีการพัฒนาภาษาที่ดี นอกจากนี้ยังเป็นการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมกับเพื่อน ๆ ชาวต่างชาติอีกด้วย หากไม่มีหลักสูตรทางด้านภาษาเปิดในเมืองที่เราเรียนหรือนักศึกษาไม่มีเวลาพอที่จะเรียน แนะนำนะคะให้เรียนแบบออนไลน์ซึ่งจะอนุญาติให้นักศึกษาได้สื่อสารกับอาจารย์และมีการติดต่อกับอาจารย์ทางอีเมลล์อีกด้วย การเรียนภาษากับเพื่อน ๆ การรวมกลุ่มเพื่อน ๆ ชาวเยอรมันที่อยากจะแลกเปลี่ยนภาษากับนักศึกษา ด้วยการทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารร่วมกัน การคุยกันผ่านทางออนไลน์ ซึ่งข้อดีวิธีนี้คือนักศึกษาจะสามารถฝึกภาษาด้วยการพูดได้บ่อยกว่าการเรียนในห้องเรียน นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังจะสอนให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในเยอรมัน และวัฒนธรรมต่าง ๆ   การเรียนภาษาด้วยตัวเอง หากไม่มีเวลาสำหรับการไปเรียนภาษาตาม 2 วิธีข้างต้น นักศึกษาอาจจะลองพัฒนาภาษาได้ด้วยตนเอง จาก การอ่านหนังสือ, การฟังวิทยุ, การดูทีวี และเรียนจากอินเตอร์เน็ต [อ่านต่อ..]

หลังจากเรียนจบแล้ว จะทำงานที่เยอรมันได้หรือเปล่า?

นี่เป็นอีก 1 คำถามนะคะ ที่น้อง ๆ มักจะเข้ามาถามพี่ ถ้าให้พี่ตอบ พี่เองก็คงตอบเหมือนเดิมว่าพี่ตอบไม่ได้ว่าน้องจะได้งานที่เยอรมันหลังจากจบการศึกษาเลยหรือเปล่า ทั้งนี้ทั้งนั้นเองก็คงต้องขึ้นอยู่กับตัวน้องเอง   อย่างไรก็ตาม เมื่อน้องเรียนจบแล้ว น้อง ๆ จะมีโอกาสที่จะอยู่ในประเทศเยอรมันได้อีกไม่เกิน 18 เดือน ซึ่งน้องสามารถใช้เวลาช่วงนี้ในการหางานตามสาขาที่ตนเองจบมาได้ จะว่าไป 18 เดือน อาจจะรู้สึกเหมือนนาน แต่จริง ๆ แล้วเมื่อเวลาผ่านไประยะเวลานี้กลับไม่นานอย่างที่คิด นั่นเอง จึงเป็นสิ่งที่นักเรียนควรที่จะต้องเตรียมตัวในการหางานตั้งแต่ก่อนที่จะจบการศึกษา การเตรียมตัวนั้นไม่ใช่เรื่องยาก และไม่ใช่เรื่องง่าย เพียงแต่เราจะต้องรู้หนทางที่เราจะไป และรู้แหล่งข้อมูลให้ดี เคล็ดลับต่าง ๆ มีหลากหลาย จะลองยกตัวอย่างมาให้ตามด้านล่างนี้ หาตนเองให้เจอก่อนที่จะหางาน นี่เป็นหัวใจสำคัญในการทำงาน สิ่งที่เราชอบสิ่งที่เรารักที่จะทำคืออะไร ตรงนี้ควรถามตนเองให้ดี ๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการค้นหาข้อมูลอย่างไร้เป้าหมาย หาแหล่งข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง และโอกาสที่เข้ามา ไม่ใช่แค่การนั่งหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการจัดหางาน หรือข่าวสารข้อมูลที่ติดอยู่ในบอร์ดคณะ ต้องลองกลับมานั่งอ่านดี ๆ ว่ามีงานไหนตรงกับใจเราหรือไม่ นอกจากนี้เราอย่าลืมว่าภายในมหาวิทยาลัยยังมีในส่วนของ Career Service ให้กับนักศึกษาเพื่อที่จะช่วยนักศึกษาหางาน และแนะนำเทคนิคในการสัมภาษณ์อีกด้วย แหล่งข้อมูลของงานในอนาคต [อ่านต่อ..]

การทำงานระหว่างเรียนที่เยอรมัน

สำหรับนักศึกษาไทยที่ขอวีซ่านักเรียน เพื่อเรียนต่อในประเทศเยอรมัน และต้องการทำงาน part-time นักศึกษาจะสามารถทำงานได้ 120 วันสำหรับการทำงานแบบเต็มวัน หรือ 240 วันสำหรับการทำงานครึ่งวัน ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่รวมกับการฝึกงานภาคบังคับของหลักสูตร (Compulsory Internship) โดยการทำงานของนักศึกษาส่วนใหญ่จะได้ประมาณ 5-10 ยูโรต่อชั่วโมง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งหากนักศึกษาได้เข้าไปทำงานในสถานที่สามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้ หรือในองค์กรที่อยากจะเข้าทำงาน นอกจากนี้หากนักศึกษาเข้าไปทำงานในเมืองใหญ่อย่าง มิวนิค, ฮัมบูร์ก หรือโคโลญจน์ ก็อาจจะได้ค่าตอบแทนที่มากกว่า ตัวอย่างงาน part-time ของนักเรียน มีหลากหลายตัวอย่างไม่ว่าจะทำงานข้างนอก งานในมหาวิทยาลัย หรือการทำงานในช่วงวันหยุดอาทิเช่น เทศกาลคริสต์มาส เป็นต้น       ที่มา: DAAD

รู้ไว้ใช่ว่า….

เมื่อน้อง ๆ เข้ามาเรียนยังประเทศเยอรมัน น้อง ๆ ทุกคนคงอยากสร้างความประทับใจแรกพบให้กับเจ้าบ้าน เพื่อแสดงถึงการเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดี ดังนั้นเราจึงควรรู้จักมารยาทเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ชาวเยอรมันมักจะกระทำกันค่ะ   - เวลาเราจะเรียกใครสักคนหนึ่งในกรณีที่ไม่ใช่เพื่อนของเรา เราอาจจะใช้คำที่เป็นทางการอย่างคำว่า "Sie" ซึ่งใช้ได้ทั้งกับผู้หญิงและผู้ชาย Sie เทียบเท่ากับคำว่า "vous" ในภาษาฝรั่งเศส "Usted" ในภาษาสเปน หรือ "Lei" ในภาษาอิตาเลียน ถ้าหากเป็นนักศึกษาด้วยกันเองอาจจะใช้คำที่ไม่เป็นทางการอย่างคำว่า "Du" ได้ - การต้อนรับ โดยทั่วไปมักจะใช้วิธีการจับมือ ส่วนการหอมที่แก้มนั้นเราจะทำได้ทั่วไปกับเพื่อนสนิทเท่านั้น นอกจากนี้เวลาคุยกันนั้นควรที่จะสบตากับผู้คุยเสมอ การที่ไม่สบตากับผู้ที่คุยอยู่ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สุภาพมากนักนะคะ - การสนทนากัน ชาวเยอรมันมักที่จะไม่ชอบพูดคุยเรื่องส่วนตัว สมมติว่าน้องเจอกันคน ๆ นั้น เป็นครั้งแรก ควรที่จะพูดคุยกันด้วยหัวข้อทั่วไปก่อน นอกจากนี้พยายามเหลียกเลี่ยงการคุยเกี่ยวกับหัวข้อทางการเมืองหรือเชื้อชาติ - เวลานัด น้อง ๆ จะต้องมั่นใจว่าเราจะต้องมาตรงเวลา หากมีการสายหรือไม่สามารถมาตามนัดด้วย น้อง ๆ ควรแจ้งกับผู้นัดก่อนเวลา โดยอาจจะเป็นการแจ้งกับตัวผู้นัด [อ่านต่อ..]

เบอร์ลิน หนึ่งในเมืองการศึกษาระดับโลก

Pic From Shutterstock.com เบอร์ลิน เป็นหนึ่งในเมืองการศึกษาที่ดีที่สุดในระดับโลก โดยจัดอยู่ในลำดับที่ 8 จากเมืองทั่วโลกทั้งสิ้น 98 เมือง การจัดลำดับครั้งนี้จัดโดย Quacquarelli Symonds (QS) นอกจากเบอร์ลินแล้ว มิวนิคเองก็เป็นอีก 1 เมืองที่ได้รับการจัดอันดับโดยอยู่ในลำดับที่ 13 ของโลก โดยการจัดลำดับครั้งนี้จะใช้เกณฑ์ของคุณภาพการเรียนการสอนในระดับนานาชาติ รวมถึงเกณฑ์ทางด้านคุณภาพชีวิต การจ้างงาน และการใช้ชีวิตของนักเรียน จากการสำรวจ เบอร์ลิน ได้รับการยอมรับว่าเป็น เมืองแห่งเสรี และ มีบรรยากาศของความหลากหลายทั้งทางด้านรสนิยม และความน่าสนใจอื่น ๆ ซึ่งในส่วนนี้เองจึงทำให้เมืองหลวงของประเทศเยอรมนีกลายเป็นเมืองที่เป็นที่นิยมสำหรับนักเรียนทั่วโลก ปัจจัยอื่น ๆ >>> มีจำนวนหลักสูตรมากในระดับปริญญาที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ โดยในปี 2011 มีจำนวนนักเรียนต่างชาติถึง 13,500 คนจากนักเรียนทั้งหมด 84,000 คนในเบอร์ลิน >>> ค่าเล่าเรียนมีราคาถูก โดยเฉลี่ยจะต่ำกว่า $1,000 ต่อปี หากเปรียบเทียบกับอเมริการซึ่งมีค่าเล่าเรียนเฉลี่ยที่ $30,000 ต่อปี >>> เบอร์ลินถือว่าเป็นเมือง [อ่านต่อ..]

ศัพท์น่ารู้ สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนต่อประเทศเยอรมัน

ศัพท์ ความหมาย AStA เป็นตัวย่อขององค์กรนักเรียนในมหาวิทยาลัย โดยในแต่ละปีสมาชิกจะได้รับเลือกจากทางนักเรียน Audimax คือหอประชุมที่ใหญ่ที่สุดในมหาวิทยาลัย คำว่า Audimax ที่นักศึกษาชอบเรียกกันนั้น ก็มาจาก Auditorium Maxim Block Seminars โดยปกติแล้ว การสัมมนาหรือการบรรยายนั้นจะเกิดขึ้นในระหว่างภาคการศึกษา แต่สำหรับ Block Seminars หรือ Blockverantstaltungen นั้นจะกล่าวถึงหลักสูตรที่จะต้องมีการบรรยายในช่วงสุดสัปดาห์ หรือวันหยุดช่วงพักของภาคการศึกษา c.t. (cum tempore) / s.t. (sine tempore) เป็นตัวย่อที่ใช้กันบ่อยในงานแสดงต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย หรือการบรรยายต่าง ๆ ซึ่งแสดงถึงเวลาที่แท้จริงในการเริ่ม โดยตัวย่อ c.t. จะมาจากการแสดงจะเริ่มหลังจากเวลาที่ได้กำหนดไว้ในโปสเตอร์ 15 นาที ส่วน s.t. จะหมายถึงงานแสดงจะแสดงตรงต่อเวลาตามเวลาที่ระบุไว้ ยกตัวอย่างเช่น ในโปสเตอร์หรือในข่าวเขียนว่า "A lecture beginning at 10:00 c.t." นั่นคือ การบรรยายจะเริ่มจริง [อ่านต่อ..]

บริการของเรา

บริการของเราสำหรับนักเรียนที่สมัครเรียนผ่านกับทาง Educatepark 1.  แนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ ทุกระดับชั้นโดยเจ้าหน้าที่ ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ มีประสบการณ์ในการแนะแนวการศึกษา มี Service mind 2.  ดูแลให้ความช่วยเหลือในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ การสมัครเรียน (เรามี Contract ตามสถาบันในเวบไซต์) ยื่นวีซ่า จนถึง ไปส่งที่สนามบิน 3.  ประสานงานเรื่องจัดหาที่พักแบบ Home Stay และรถ รับ-ส่ง จากสนามบิน 4.  ดูแลความเป็นอยู่ของนักเรียน และ ให้คำปรึกษาเรื่องการเรียนต่อเนื่อง ในขณะที่เรียนอยู่ต่างประเทศ 5.  อำนวยความสะดวก ให้แก่ผู้ปกครอง หรือ ญาติ ของนักเรียนในการที่จะไปเยี่ยม รู้จัก www.educatepark.com มากกว่า 10 ปีในประสบการณ์ทางด้านการแนะแนวเรียนต่อต่างประเทศ >>www.educatepark.com ได้เริ่มให้บริการตั้งแต่ ปี 2004 โดยมี เนื้อหาหลักคือ แนะแนวเรียนต่อออสเตรเลีย เรียนต่อประเทศอังกฤษ และเสริมด้วย การเรียนภาษาอังกฤษ จากการแปลเพลงสากล  จนทำให้เวปเรา [อ่านต่อ..]

Romantic Road ถนนสายยอดนิยมของยุโรป

Romantic Road (ถนนสายโรแมนติก) ของเยอรมันเป็นถนนที่เริ่มต้นตั้งแต่เมือง Würzburg ไปจนถึง Füssen และตลอดแนวถนนเส้นนี้จะเรียงรายไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และสวยงามของประเทศเยอรมัน ซึ่งดึงดูดนักเที่ยวให้มาเที่ยวที่แคว้นทางใต้ของ Bavaria และ Baden-Württemberg จำนวนมาก เนื่องด้วยความโรแมนติกสถานที่ต่างๆตลอดถนนสายนี้เช่น Rothenburg ob der Tauber, Dinkelsbühl และ Nördlingen ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อาคารก่อสร้างด้วยอิฐแบบดั้งเดิมในสไตล์แบบพื้นเมืองเก่าๆ หลังคาจั่ว และมีหน้าต่างบานเล็กๆเปิดรับแสงอาทิตย์ทั่วทั้งอาคาร ส่วนสีสันที่นอกจากจะมีสีส้มอิฐแล้ว ยังมีสีอื่นๆเช่นสีเหลือง, สีครีม  และสีแดง ซึ่งล้วนให้ความรู้สึกอบอุ่น และชวนให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายหวนนึกถึงอดีต และประวัติศาสตร์อันยาวนานที่ซ้อนอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ และเมื่อขับรถไปจนเกือบถึง Füssen คุณจะตื่นตะลึงไปกับปราสาท Neuschwanstein ที่มีฉากหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ ปราสาทหลังนี้ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ยุคกลาง แต่ก็ยังคงความสวยงามมาได้จนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้คุณยังสามารถชมความงามตามธรรมชาติของเทือกเขาแอลป์ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามถนนเส้นนี้แรกเริ่มเดิมทีนั้นเยอรมันไม่ได้คิดว่าจะกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้สร้างความสูญเสียอันใหญ่หลวงให้กับประเทศ หลังจากสร้างถนนสายนี้ในปี 1950 ซึ่งไม่นานหลังจากที่เยอรมันเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นแบบสาธารณะรัฐ มีผู้ที่มาเยี่ยมชมกลุ่มแรกเป็นเพื่อน และครอบครัวของทหารชาวอเมริกันที่ตั้งกองทัพอยู่ที่ Bavaria และ Baden-Württemberg แต่ปัจจุบันถนนสายโรแมนติกเส้นนี้ได้กลายเป็นจุดเด่นของการท่องเที่ยวเยอรมันที่ไม่ว่าที่ไหนก็สู้ไม่ได้

เทศกาลวันพ่อไม่เหมือนใคร ในเยอรมนี

ถึงแม้ว่าวันพ่อของเยอรมนีจะผ่านมาแล้วในปีนี้ ซึ่งตรงกับวันที่ 17 พฤษภาคม แต่ admin ก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับเทศกาลนี้มาฝากกัน ผู้คนส่วนใหญ่เชื่อว่า เทศกาล Oktoberfest เป็นเทศกาลที่มีการดื่มมากที่สุดในเยอรมันนี ซึ่งจริง ๆ แล้ว เทศกาลเฉลิมฉลองวันพ่อของเยอรมันต่างหาก ที่เราจะเห็นผู้ชายในแต่ละเมืองจะเเต่งตัวแปลกๆ ขนเบียร์ไปดื่มฉลองกันในสวนสาธารณะจนกว่าจะเมาหมดสติ ซึ่งวันนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะคนที่เป็นพ่อแล้วเท่านั้น ในภาษาเยอรมันคำว่า Mannertag หรือ Herrentag ยังมีความหมายว่า “วันของผู้ชาย” อีกด้วย ดังนั้นวันนี้จึงเปิดโอกาสให้ผู้ชายคนเยอรมันแสดงออกถึงสัญชาติญาณดิบๆของพวกเขา เืืทศกาลวันพ่อของเยอรมนี จึงไม่มีใครเหมือนและไม่เคยคิดจะเหมือนใคร อย่างที่เราจะเห็นเทศกาลวันพ่อในบางประเทศ วันที่เด็กๆทำเรื่องธรรมดา เช่น ตัดหญ้าที่สนามหน้าบ้าน ทำความสะอาดโรงรถ หรือไม่ก็ทำอาหารให้พ่อของพวกเขาในตอนเช้า แต่ในเยอรมันมีสิ่งที่แตกต่างออกไป วันพ่อของเยอรมันเป็นวันที่ พ่อทุกคนจะได้รับอนุญาตให้พักหน้าที่ความเป็นพ่อไว้ชั่วคราวหนึ่งวัน   ในแต่ละเมืองทั่วประเทศ ผู้ชายจะจับกลุ่มกัน ขนเบียร์ะของมึนเมาทั้งหลายเท่าที่จะคิดออกไปนั่งดื่มสังสรรค์กันตามที่สาธารณะ พวกเขาจะดื่มกันจนเมา และเกิดอาการแฮงค์ในวันต่อมา    

แนะนำ นายกรัฐมนตรี ประเทศเยอรมัน

ชื่อ : อังเกลา โดโรเทอา แมร์เคิล (ชื่อเดิม อังเกลา โดโรเทอา คัสเนอร์) เกิด 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2497  ณ เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี อังเกลา โดโรเทอา แมร์เคิล เป็นประธานพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) และ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของเยอรมนี ซึ่งได้รับการเลือกตั้งสู่รัฐสภาเยอรมันจากรัฐเมคเลนบูร์ก-ฟอร์พอมเมิร์นตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2543 เกียรติประวัติ ในปี พ.ศ. 2550 นางแมร์เคิลได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรียุโรปและประธานกลุ่มประเทศจีแปด นอกจากนั้นนางดำเนินบทบาทในการเจรจาสนธิสัญญาลิสบอนและปฏิญญาเบอร์ลินอีกด้วย เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศเยอรมนี ได้รับการเลือกจากนิตยสาร Forbes ให้เป็นสตรีที่ทรงอำนาจมากที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน เป็นสตรีคนที่สองในการเป็นประธานกลุ่มประเทศจีแปดต่อจากนางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์อีกด้วยนายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนี

กีฬายอดฮิตในเยอรมัน

Soccer is the king. Fußball Länderspiel Schweiz - Deutschland am Mittwoch (26.03.2008) im St. Jakob Park in Basel (Schweiz). Die deutsche Nationalmannschaft posiert vor dem Spiel für ein Gruppenfoto. Obere Reihe von links: Michael Ballack, Jens Lehmann, Miroslav Klose, Heiko Westermann, Per Mertesacker und Mario Gomez. Untere Reihe von links: Philipp Lahm, Clemens Fritz, [อ่านต่อ..]

10 อันดับ มหาวิทยาลัย ในประเทศเยอรมัน

ประเทศเยอรมัน มีมหาวิทยาลัยติดอันดับ 1-100 จำนวนมาก ซึ่งเป็นคำตอบอย่างดีว่า ทำไมประเทศเยอรมันถึงได้เป็นผู้นำในการค้าโลก รวมถึง เป็นผู้นำในเทคโนโลยีหลากหลายสาขา ส่วน Top 10 มหาวิทยาลัย ของเยอรมัน จะไม่กระจุกอยุ่แต่ในเมืองหลวงและเมืองใหญ่ ๆ แต่จะกระจายตามหัวเมืองต่าง ๆ ครับ เรามาดูอันดับกันเลยนะครับ Technische Universität München  Ludwig-Maximilians-Universität München Ruprecht-Karls-Universitaet Heidelberg KIT, Karlsruhe Institute of Technology Humboldt-Universität zu Berlin Freie Universität Berlin  RWTH Aachen University  Technische Universität Berlin (TU Berlin) Eberhard Karls Universität Tübingen  Albert-Ludwigs-Universitaet Freiburg  *** อ้างอิงจาก QS World University [อ่านต่อ..]

เรียนบริหารธุรกิจ เยอรมัน กับ EU Business School เมืองมิวนิค

เรียนบริหารธุรกิจ เยอรมัน กับ EU Business School, Munich Campus อัพเดทสถานการณ์ COVID-19  เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน นักเรียนที่ลงทะเบียนจะได้รับฉีดวัคซีน ในเดือนกันยายน 2021 EU Business School เปิดสอนทางด้าน Business Program โดยมี Campus อยู๋ในทั้ง สวิตเซอร์แลนด์ (เจนีวา, มองเทรอส์), เยอรมัน (มิวนิค) และ ที่สเปน (บาร์เซโลนา) ทำไมถึง EU Business School ถึงเลือกมาเปิดที่มิวนิค มิวนิคเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และเป็นเมืองที่มีการศึกษาทางสาขาบริหารและการจัดการอยู่ในระดับต้น ๆ ของโลก มิวนิคเป็นผู้นำทางด้านมัลติมีเดีย และเทคโนโลยีระดับสูงของประเทศเยอรมัน มิวนิคเป็นเมืองที่น่าอยู่อันดับต้น ๆ ของโลก และเปรียบเสมือนเป็นเมืองหลวงของยุโรป www.eumunich.com   EU Business School, Munich Campus เป็นมหาวิทยาลัยที่สอนทางด้านสาขาบริหารและการจัดการในมิวนิคซึ่งต่อตั้งมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1973 [อ่านต่อ..]

Sprachcaffe เรียนภาษาเยอรมันที่มิวนิค หรือ แฟรงก์เฟริตต์

จุดเด่นของ Sprachcaffe ในประเทศเยอรมนี - อาจารย์ที่สอนเป็น Native Speaker ทั้งหมด และมีประสบการณ์ในการสอนภาษาเยอรมันเป็นอย่างดี - มีสาขาให้เลือก 2 สาขา ซึ่งแต่ละสาขา คือ Frankfurtและ Munich - เป็นสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือ และมีการเปิดสอนสถาบันภาษาไปทั่วโลก - มี Advisory Service ซึ่งมีมหาวิทยาลัยที่แนะนำทั้ง >> Johann Wolfgang Goethe-University Frankfurt am Main, Darmstadt University of Technology, Kaiserslautern University of Technology, University of Karlsruhe, University of Bochum, University of Applied Science Jena ระดับการเรียนภาษาและระยะเวลาเรียนที่ SPRACHCAFFE Sprachcaffe, Frankfurt Campus [อ่านต่อ..]

Eurocentres เรียนภาษาเยอรมัน ที่เบอร์ลิน

Eurocentres เรียนภาษาเยอรมัน ที่เบอร์ลิน สถาบันสอนภาษาเยอรมัน Eurocentres ตั้งอยู่ในเขต Charlottenburg ซึ่งไม่ไกลจาก  Zoologischer Garten, Bahnhof Zoo และย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงของเบอร์ลิน ภายในสถาบันประกอบด้วยห้องเรียนที่มีสื่อการเรียนการสอนครบครัน และศูนย์การเรียนรู้มัลติมีเดีย ที่ตั้ง : Eisenacher Str. 1 D-10777 Berlin เวบไซต์ : www.eurocentres-berlin.de/Berlin/en/ สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการจากทางสถาบัน • ห้องสมุดและบริการยืมหนังสือฟรี • ที่พักผ่อนสำหรับนักเรียน • ห้องคอมพิวเตอร์ • ศูนย์การเรียนรู้อเนกประสงค์ • ห้องครัว • Wi-Fi • บริการหนังสือพิมพ์ประจำวันและนิตยสาร • กิจกรรมภายในสถาบัน • ภาพยนต์เยอรมัน • บริการอาหารว่างและกาแฟฟรี • มีสถานีเช่าจักรยานติดกับสถาบัน • มีสนามบาสเก็ตบอล ฟุตบอล และเทนนิส ติดกับสถาบัน  หลักสูตร   General Language [อ่านต่อ..]

เรียนภาษาเยอรมัน ที่เยอรมัน กับ DID DEUTSCH-INSTITUT

เรียนภาษาเยอรมัน ที่เยอรมัน กับ DID Deutsch Institut DID DEUTSCH-INSTITUT; DID ย่อมาจาก Deutsch in Deutschland หรือแปลอีกนัยหนึ่งว่า ภาษาเยอรมันในประเทศเยอรมนี (German in Germany) ซึ่งทางสถาบันใช้ชื่อนี้มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อปีค.ศ. 1970 และจากประสบการณ์มากกว่า 40 ปีของทางสถาบันซึ่งเน้นสอนหลักสูตร German as a Foreign Language เป็นหลัก ทำให้ทางสถาบันมีวิธีการเรียนการสอนที่เข้าใจง่ายและเข้าถึงง่ายทั้งในหลักภาษาและวัฒนธรรมของชาวเยอรมัน การรับรองคุณภาพของทางสถาบัน Star Awards Winner 2011 : ในปี 2011 (รวมถึงปี 2006, 2007 และ 2009) ทาง did deutsch-institut ได้รับเลือกให้เป็นโรงเรียนสอนภาษาในเยอรมันที่ดีที่สุด จากตัวแทนนักท่องเที่ยวทั่วโลกมากกว่า 3000 คน Member of the Federation of International [อ่านต่อ..]

การเดินทางในเยอรมัน

การเดินทางในเยอรมัน การเดินทาง สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ถือได้ว่าเป็นประเทศหนึ่งที่มีระบบการเดินทางที่หลากหลาย อาทิเช่น  รถไฟ, รถประจำทาง, เรือเฟอรรารี่ และเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวต่อวัน  ระบบการเดินทางภายในประเทศจะเน้นการลดเวลาในการเดินทาง และการรอรถ อีกทั้งยังเชื่อถือในความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี   รถประจำทาง มีทั้งสายที่วิ่งตามเส้นทางรถไฟหลัก และสายที่เปิดให้บริการสำหรับบางแห่งที่ไม่สามารถเดินทางด้วยรถไฟได้  สถานีรถประจำทางหลัก ๆ มักจะตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟของแต่ละเมือง   รถยนต์ เยอรมนีมีเส้นทางมอร์เตอร์เวย์และเส้นทางถนนของท้องถิ่นรวมแล้วมากกว่า 650,000 กิโลเมตร โดยจะเชื่อมต่อจากเมืองหนึ่งสู่เมืองหนึ่ง  ซึ่งสายถนนหลักของเยอรมนีที่รู้จักกันดีคือ autobahnen การขับรถในประเทศเยอรมนีจะอนุญาติให้ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป แต่หากต้องการจะเช่ารถยนต์จะต้องอายุมากกว่า 21 ปี และมีใบขับขี่สากล โดยราคาเช่ารถมักจะอยู่ที่ 1,500 ถึง 2,000 ยูโร กฎในการขับรถยนต์ในประเทศเยอรมนีได้กำหนดความเร็วเร็วในเมืองอยู่ที่ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และในแถบบ้านคนจะกำหนดอยู่ที่ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  สำหรับทางด่วนจะกำหนดที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสำหรับทาง Autobahn มักจะกำหนดโดยเฉลี่ยที่ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง [อ่านต่อ..]

สังคมและวัฒนธรรม ชาวเยอรมัน

สังคมและวัฒนธรรม ชาวเยอรมัน การสื่อสารภายในประเทศ   โทรศัพท์ สำหรับรหัสโทรศัพท์เมื่อโทรเข้าประเทศเยอรมัน จะใช้ +49 แล้วตามด้วย 0 จากนั้นจึงกดเบอร์โทรศัพท์ และหากต้องการโทรจากเยอรมันไปประเทศอื่น ๆ ต้องกด 00 ก่อนแล้วตามด้วยรหัสประเทศนั้น ๆ โทรศัพท์สาธารณะ จะไม่พบในเมืองเล็ก ๆ ซึ่งอาจจะใช้ได้ทั้งการหยอดเหรียญ และบัตรโทรศัพท์ โดยสามารถหาซื้อบัตรโทรศัพท์ได้ตามไปรษณีย์, ธนาคาร และตามส่วนที่บริการนักท่องเที่ยว สำหรับมารยาทในการโทรศัพท์ในเยอรมนี ผู้ที่โทรจะต้องเอ่ยชื่อของตนเองให้เรียบร้อยก่อนที่จะเริ่มพูดธุระ และไม่ควรโทรเข้าบ้านในเวลาหลังจาก 22.00 น. หรือโทรเข้าออฟฟิศในเวลาหลังจาก 17.00 น. (จันทร์ถึงพฤหัส) และหลังจาก 16.00 น. (ศุกร์)   ไปรษณีย์ ไปรษณีย์ในเยอรมนีดำเนินการโดยบริษัท Deutsche Post ซึ่งเปิดบริการในเวลา 9.00-18.00 วันจันทร์ถึงวันศุกร์ และในเมืองใหญ่ ๆ จะมีการเปิดให้บริการสำหรับวันเสาร์ครึ่งวันอีกด้วย ตู้ไปรษณีย์ของที่นี่จะเป็นสีเหลือง และมีระบุเวลาในการเก็บจดหมายที่ชัดเจนบนตู้ไปรษณีย์ สำหรับราคาส่งพัสดุภายในประเทศ หากน้ำหนักไม่เกิน 20 กรัม [อ่านต่อ..]

ข้อมูลน่ารู้ ประเทศเยอรมัน

ข้อมูลน่ารู้ ประเทศเยอรมัน ทุนการศึกษา 1.  ทุนดีเอเอดี (DAAD Scholarship) DAAD  เป็นองค์กรแลกเปลี่ยนทางวิชาการแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งมีการให้ทุนการศึกษาในหลากหลายประเภท ทั้งทุนในระดับปริญญาโท, ปริญญาเอก และทุนวิจัย โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดูได้ที่ www.daad.or.th 2.  ทุนอเล็กซานเดอร์-ฟอน-ฮุมโบลท์ (Alexdan von Humboldt Scholarship) Alexdan von Humboldt Foundation เป็นมูลนิธิที่ตั้งโดยรัฐบาลเยอรมนี และได้รับเงินสนับสนุนจากกระทวงต่างประเทศของเยอรมนี กระทรวงศิกษาธิการและการวิจัย กระทรวงความร่วมมือและการพัฒนาการทางเศรษฐกิจ ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือนานาชาติระหว่างสถาบันอุดมศึกษาในเยอรมนีและสถาบันชั้นนำจากทั่วโลก โดยสามารถดูข่าวทุนการศึกษาได้ที่ http://www.humboldt-foundation.de 3.  ทุนอีรัสมุส มันดุส (Erasmus Mundus Scholarship) Erasmus Mundus เป็นการร่วมมือกันของหน่วยงานในระดับอุดมศึกษาชั้นนำโดยมีจุดประสงค์ที่จะเพิ่มคุณภาพสถาบันอุดมศึกษา และสนับสนุนการเรียนรู้และความเข้าใจกันดีระหว่างประชาชนและวัฒนธรรมต่าง ๆ รวมถึงพัฒนาบุคลากร โดยสามารถติดตามข่าวได้ที่ http://eacea.ec.europa.eu/erasmus_mundus/   ค่าใช้จ่ายในการอยู่อาศัย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในทวีปยุโรปด้วยกัน ค่าใช้จ่ายในเยอรมนีถือว่าไม่สูงมากนัก ทั้งราคาค่าอาหาร, ที่พักอาศัย, เสื้อผ้า, กิจกรรมต่าง ๆ [อ่านต่อ..]

เรียนภาษาเยอรมันด้วยตัวเอง การออกเสียง ไวยากรณ์

เรียนภาษาเยอรมันด้วยตัวเอง การออกเสียง ไวยากรณ์ การเรียนภาษาเยอรมัน อาจจะยากสักหน่อย โดยเฉพาะคนไทยอย่างเรา แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม การเรียนภาษาเยอรมันนั้น หากเรามีความพยายามแล้ว ก็ไม่ยากที่จะไปถึงระดับภาษาที่เราต้องการได้ เพจนี้จะรวบรวม บทความที่น่ารู้เกี่ยวกับ การเรียนภาษาเยอรมัน เรียนภาษาเยอรมันด้วยตัวเอง และการออกเสียง ในขั้นพื้นฐาน ปกติแล้ว นักเรียนมักจะมาถามว่า ต้องเรียนนานเท่าไรถึงจะได้ระดับนี้ ซึ่งแน่นอนว่า ถึงแม้ว่าจะมีตารางบอกว่า แต่ละระดับควรเรียนประมาณกี่ชั่วโมง แต่สุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถการันตีระยะเวลาที่แน่นอนให้ได้ สิ่งที่สำคัญสำหรับตัวนักเรียนเองคือความมุ่งมั่นที่จะเรียนและพัฒนาภาษาจริง ๆ รวบรวม บทความเรียนภาษาเยอรมันด้วยตัวเอง เหตุผลที่ควร เรียนภาษาเยอรมัน 1. ภาษาเยอรมันเป็นภาษาที่ใช้กันทั่วไปในทวีปยุโรป ไม่ใช่เพียงแค่ประชาชนในประเทศเยอรมนีพูดภาษาเยอรมันเท่านั้น ภาษาเยอรมันยังเป็นภาษาราชการของประเทศออสเตรีย, สวิตเซอร์แลนด์, ลักเซมเบิร์ก และลิกเตนสไตน์  นอกจากนี้ยังเป็นภาษาที่ใช้พูดกันอย่างมากในประเทศอิตาลี, ฝั่งตะวันออกของเบลเยี่ยม, เนเธอร์แลนด์, เดนมาร์ก, ฝั่งตะวันออกของฝรั่งเศส, บางส่วนในโปแลนด์, สาธารณรัฐเช็ค, รัสเซีย และโรมาเนีย 2. ภาษาเยอรมันไม่ยากอย่างที่คิด เนื่องจากภาษาเยอรมันจะมีคำศัพท์และไวยากรณ์ใกล้เคียงกับภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ภาษาเยอรมันยังมีระบบการออกเสียงที่ดี ซึ่งหากได้เรียนรู้แล้ว มันจะง่ายต่อการเดาว่าเมื่อฟังคำศัพท์คำนี้แล้วจะเขียนว่าอย่างไร หรือเมื่อเห็นคำศัพท์คำนี้แล้วควรออกเสียงอย่างไร 3. การอ่านวรรณกรรม สำหรับผู้ที่ต้องการอ่านวรรณกรรมฉบับดั้งเดิมนั้น [อ่านต่อ..]

ระบบการศึกษาเยอรมัน มาตรฐานการศึกษาของเยอรมนี

 ระบบการศึกษาเยอรมัน   การศึกษาในประเทศเยอรมนีได้รับรองจากต่างชาติว่ามีคุณภาพดีอีกประเทศหนึ่งในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นทั้งในระดับมัธยมศึกษา และในระดับอุดมศึกษาด้วยกัน   ระบบการศึกษาในประเทศเยอรมนี   Partway สำหรับนักเรียนในระดับประถมศึกษา – ระดับมัธยมศึกษา   โรงเรียนในเยอรมนี แบ่งเป็นดังนี้ -  โรงเรียนของรัฐ  -- นักเรียนจะได้เรียนฟรี ไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน ส่วนใหญ่แล้วจะคัดเลือกจากนักเรียนที่อยู่ในแถบ ๆโรงเรียนก่อน เพื่อให้มีการกระจายการศึกษาได้อย่างทั่วถึง -   โรงเรียนวอลดอร์ฟ (Waldorf School) ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 200 โรงเรียนในเยอรมนี -   มอนเตสซอรี่ (Montessori Method)  มีอยู่ประมาณ 272 แห่งในเยอรมนี -   การศึกษาทางเลือกแบบ Free School (Freie Alternativschue) มีอยู่ประมาณ 85 แห่งในเยอรมนี -   โรงเรียนศาสนาอื่น ๆ อาทิเช่น โปแตสแตนท์ [อ่านต่อ..]

ท่องเที่ยวประเทศเยอรมัน

ท่องเที่ยวประเทศเยอรมัน   สถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละเมือง   เมืองมิวนิค (Munich) มิวนิคเป็นแหล่งกำเนิดของทั้งศิลปะและเบียร์  ทั้ง Oktoberfest และ Opera, Hofbräuhaus beer hall และ Pinakothek  art galleries, BMW และ Bayern Munich เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่ามิวนิคเป็นเมืองที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมบาวาเรียนที่เก่าแก่กับเทคโนโลยีและการใช้ชีวิตสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ Gothic Church of Our Lady ปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณของเมืองมิวนิค ด้วยโครงสร้างที่มีลักษณะคล้ายหัวหอม ตึกจะมีหอคอยสูงเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เห็นภาพเมืองมิวนิคในมุมกว้างได้อีกด้วย Hofbräuhaus beer hall เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากมิวนิคเป็นเมืองที่รู้จักกันดีว่าเป็นจุดก่อกำเนิดของเบียร์ และในทุก ๆวันจะมีเบียร์ถูกเสริฟในเขตของ Hall และร้านอาหาร ประมาณ 10,000 ลิตร  Olympic Stadium เป็นสถานที่หนึ่งของโลกที่ถูกจารึกไว้ของโลก ด้วยทัศนียภาพ, สถาปัตยกรรม และการใช้ประโยชน์ของสถานที่ที่มีความสมบูรณ์เป็นอย่างมาก   เบอร์ลิน (Berlin) เป็น 1 [อ่านต่อ..]