แบรนด์ Cartier ประวัติความเป็นมา

หากพูดถึงเครื่องประดับชั้นเลิศสุดเลอค่า คงพลาดไม่ได้ที่จะนึกถึงแบรนด์เครื่องประดับหรูระดับโลกอย่าง แบรนด์ Cartier (คาร์เทียร์) ซึ่งเป็นแบรนด์เก่าแก่สัญชาติฝรั่งเศสที่มีอายุยาวนานตั้งแต่ปี 1847 โดย Louis-François Cartier (หลุยส์-ฟรองซัวส์ คาร์เทียร์) แบรนด์นี้ยังได้รับการขนานนามจากประมุขแห่งอังกฤษด้วยว่าเป็น ‘Jeweller of Kings, King of Jewellers’ แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นของแบรนด์นี้ไม่ได้มาจากเครื่องประดับ หากแต่เป็นนาฬิกา เพราะฉะนั้นในวันนี้เรามาศึกษาประวัติความเป็นมาของ แบรนด์ Cartier กัน

ประวัติความเป็นมาของแบรนด์ Cartier

Louis-François Cartier

ร้าน Cartier อันเรียบง่าย

ในช่วงแรกนั้น Louis-François เป็นเด็กฝึกงานของ Master Watchmaker อย่าง Adolphe Picard (อาดอลฟ์ ปีการ์ด) และทำงานอยู่ในร้านเล็ก ๆ ชื่อว่า Picard ที่ Rue Montorgueil ในกรุงปารีส จากนั้นในปี 1847 เขาได้เริ่มกิจการด้วยการซื้อร้านจากเจ้านาย ตกแต่งร้านแบบเรียบง่าย Louis-François เป็นทั้งช่างนาฬิกาและพ่อค้าขายเครื่องประดับ แม้จะเกิดความวุ่นวายจากวิกฤตทางการเมืองของฝรั่งเศส แต่ธุรกิจของเขายังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมีบุคคลชนชั้นสูงมากมายมาซื้อสินค้า อย่างในปี 1856 Princess Mathilde หลานสาวของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ได้ซื้อสินค้าจากร้านเป็นครั้งแรก

จุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของ แบรนด์ Cartier

ในปี 1859 เขาได้พัฒนาเป็น Cartier Boutique แห่งแรก Louis-François มีความคิดที่จะสร้างคอลเลคชั่นใหม่โดยนำเครื่องประดับมาใส่ในนาฬิกา เขาได้ซื้อหาชิ้นส่วนเครื่องประดับที่หรูที่สุดเท่าที่หาได้จากผู้ผลิตทั้งในฝรั่งเศสและที่อื่น ๆ

จากนั้น Alfred Cartier (อัลเฟรด คาร์เทียร์) บุตรชายของ Louis-François รับช่วงกิจการต่อ และเขาก็ได้พาบุตรชายผู้มากความสามารถทั้ง 3 คนของเขา ได้แก่ Louis Cartier (หลุยส์ คาร์เทียร์) Jacques Cartier (ฌาคส์ คาร์เทียร์) และ Pierre Cartier (ปิแอร์ คาร์เทียร์) เข้าสู่วงการธุรกิจเครื่องประดับ

เมื่อปี 1899 Louis ซึ่งเป็นบุตรชายคนโต ได้ไปเปิดร้านที่ Rue de la Paix ซึ่งเป็นย่านขายเครื่องอัญมณีอันโด่งดังของกรุงปารีส Louis สร้างผลงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้แพลตินัมกับเครื่องประดับ เนื่องจากเขาค้นพบว่ามันมีน้ำหนักเบาและแข็งแรงกว่าทองคำและเงิน ทั้งนี้ยังได้รับขนานนามจากพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ว่า ‘Jeweller of Kings, King of Jewellers’ ไม่ใช่แค่คนในราชวงศ์ ยังมีกลุ่มคนชนชั้นสูงจากรอบโลกที่แห่กันมาซื้อเครื่องประดับเพชรเหล่านี้ด้วย นอกจากนั้นในปี 1904 เขายังออกแบบนาฬิกาข้อมือเรือนแรก ซึ่งแรงจูงใจนั้นมาจากเพื่อนที่เป็นนักบินของเขาอย่าง Alberto Santos-Dumont (อัลเบอร์โต ซานโตส-ดูมอนต์) ที่ต้องการนาฬิกาน้ำหนักเบาที่สามารถสวมใส่ได้ขณะที่ทำการบิน จึงเกิดเป็นนาฬิการุ่น Santos de Cartier ขึ้นมา

เพื่อนที่เป็นนักบินของเขาอย่าง Alberto Santos-Dumont (อัลเบอร์โต ซานโตส-ดูมอนต์)

Alberto Santos-Dumont

นาฬิกาข้อมือเรือนแรก

The first Santos de Cartier

แนวรบตะวันตก เป็นแรงบันดาลใจอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เขาการออกแบบนาฬิการุ่นต่าง ๆ ได้แก่ รุ่น Tank ที่ได้แรงบันดาลใจมากจากรถถัง Renault FT-17 นาฬิกากันน้ำอย่างรุ่น Pasha ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์มากในสมัยนั้นด้วยการออกแบบเม็ดมะยมให้เหมือนฝากระติกน้ำ เป็นต้น อีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกที่เลื่องชื่อมากที่สุดของ Louis คือ แหวนทอง Trinity ที่มีแหวนสีชมพู ขาว ทองพันกันไปมา

ประวัติความเป็นมาของแบรนด์ Cartier

Tank 1919

ประวัติความเป็นมาของแบรนด์ Cartier

Pasha 1932

ประวัติความเป็นมาของแบรนด์ Cartier

Trinity 1924

นำ แบรนด์ Cartier ก้าวไกลสู่สากล

ในส่วนของ Jacques และ Pierre นั้น ต้องการที่จะให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในต่างประเทศโดยการขยายกิจการเปิดสาขาใหม่ที่กรุงลอนดอนและนิวยอร์กตามลำดับ Jacques ได้ไปเปิด Boutique แห่งแรกในกรุงลอนดอนเมื่อปี 1902 ที่ New Burlington Street และประมาณ 7 ปีให้หลังก็เปิดแห่งที่สองที่ New Bond Street ซึ่งในปีนั้น Pierre ก็เดินทางไปเปิด Boutique ที่ Fifth Avenue ในมหานครนิวยอร์กด้วยเช่นกัน และในปี 1917 Pierre ได้ขอแลกซื้อทาวน์เฮ้าส์ของ Morton F. Plant ด้วยเงิน $100 กับสร้อยคอไข่มุก 1 เส้นเพื่อนำมาแปลงเป็น Cartier Boutique ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในมหานครนิวยอร์ก

เพชรที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอย่าง Hope Diamond

Hope Diamond

หลังจากเปิดร้านได้ไม่นาน Pierre ได้นำเพชรที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอย่าง Hope Diamond เพชรนี้โด่งดังอย่างมาก เนื่องจากเจ้าของคนก่อนได้เจอกับความตายอันน่าสยดสยอง ทำให้ใครต่อใครเชื่อกันว่าเป็นเพชรต้องคำสาป แต่ Pierre ไม่ได้กังวลในเรื่องนี้ และได้ขายมันให้กับ Evelyn Walsh McLean คนดังของนิวยอร์กในตอนนั้น ครอบครัว Cartier ถือครองกรรมสิทธิ์บริษัทจนถึงปี 1964 และตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Richemont Group

ตั้งแต่นั้นมา Cartier ก็ได้สร้างเครื่องประดับและออกแบบนาฬิกาหรูให้กับราชวงศ์และเหล่า Celebrity มากมาย นอกจากนั้นยังได้คิดค้นกลไกนาฬิกาอย่าง Calibre 9452 MC ซึ่งได้การยอมรับและถูกประทับตราโดยเครื่องหมาย Geneva Seal อีกด้วย ทุกวันนี้ Cartier ได้ท้าทายอุตสาหกรรมนาฬิกาด้วย Concept ID Collection ที่สร้างตัวเรือนนาฬิกาแบบเซรามิกใสแบบเพรียวลมเพื่อลดแรงเสียดทาน และ Concept ID Two Collection นาฬิกากลไกไทเทเนี่ยมบวกกับความแม่นยำและการผสมผสานที่ลงตัวกันของ Fiberglass และคาร์บอนซึ่งต้านสนามแม่เหล็กได้ นับได้ว่า Cartier เป็นแบรนด์ตัวอย่างที่ดีแบรนด์หนึ่งในการทำนาฬิกาที่สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับทุกคนที่ได้สัมผัสมาตลอด 2 ศตวรรษโดยไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย

Concept ID Collection

Concept ID

 

Concept ID Two Collection

Concept ID Two

ในปัจจุบัน Cartier Boutique มีทั้งหมดเกือบ 200 สาขาทั่วโลก ซึ่งในประเทศไทยมีถึง 6 แห่ง ได้แก่ โครงการ ICONSIAM ศูนย์การค้า Siam Paragon ศูนย์การค้า Emporium และในเครือ King Power สาขาสนามบินสุวรรณภูมิ ศรีวารี (บางนา-ตราด) และจังหวัดภูเก็ต

ประวัติความเป็นมาของแบรนด์ Cartier นั้นนับว่าไม่ธรรมดากันเลยทีเดียว ด้วยความสวยงามและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใคร ๆ ก็ปรารถนาที่จะมีนาฬิกาหรือเครื่องประดับแบรนด์นี้มาครอบครอง นอกจากนั้นหากท่านสนใจนาฬิกาหรือเครื่องประดับในแบรนด์ Cartier สามารถรับชมและหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://www.cartier.com

 

ที่มา:
https://www.thegentlemansjournal.com/a-brief-history-of-cartier
https://www.hautehorlogerie.org/en/brands/brand/h/cartier
https://www.estatediamondjewelry.com/the-complete-history-of-cartier
https://www.glamthailand.com/content/13096/cartier-ผู้สรรค์สร้างความสง่างามสำหรับสุภาพบุรุษ

อ่านเพิ่มเติม:

Top 3 นาฬิกาผู้ชายแบรนด์ Cartier
Top 3 นาฬิกาผู้หญิงแบรนด์ Cartier
เช็คราคานาฬิกา Cartier ล่าสุด
Cartier Tank Solo นาฬิกาทรงโปรดของ Princess Diana of Wales
นาฬิกา Tank Cintrée ดีไซน์สุดล้ำสมัย หรูหราเหนือใคร
นาฬิกา Ballon Bleu de Cartier ที่แพงที่สุด
นาฬิกา Cartier Santos ที่แพงที่สุด
Panthère de Cartier นาฬิกาสุดหรูแห่งยุค 80s

ไปหน้า Luxury Brand

เรียนภาษาอังกฤษที่นิวซีแลนด์

เรียนภาษาอังกฤษที่นิวซีแลนด์