เนื้อเพลงแปลเพลง No Man’s Land – Marshmello & venbee (ความว่างเปล่าในจิตใจ) ความหมายเพลง

แปลเพลง No Man’s Land – Marshmello & venbee เนื้อเพลง No Man’s Land – Marshmello & venbee และ ความหมายเพลง

เนื้อเพลง แปลเพลง No Man’s Land - Marshmello & venbee

Artist: Marshmello & venbee
Song: No Man’s Land

Youtube Official : https://www.youtube.com/watch?v=aKgGsxtMTjg

เนื้อเพลง แปลเพลง No Man’s Land – Marshmello & venbee (ความว่างเปล่าในจิตใจ)

[Verse 1]
When we were young, we had it rough
ช่วงตอนวัยรุ่นเราต้องเผชิญกับความยากลำบาก
Short on money, short on love
ทั้งด้านการเงินและด้านอารมณ์ความรัก
That’s how the wayside takes
นั่นเป็นแง่มุมของชีวิตหนึ่งที่เกิดขึ้น
The wayside keeps its ghosts
แง่มุมของชีวิตนี้ได้ทิ้งรอยประทับไว้ในประสบการณ์ที่ถูกละเลยไป
Thick as thieves, my fears and me
กับความกลัวที่ฝังแน่นอยู่ภายในและหยั่งรากลึกลงในจิตใจ
We’ve been wrong and now ten years deep
ต่อสู้กับความหวาดกลัวเหล่านี้และยังคงอยู่กว่าสิบปีแล้ว
That’s how the wayside takes
ความท้าทายในอดีตยังคงมีอิทธิพลต่อชีวิต
And it keeps a hold on me
และเป็นสิ่งที่ผูกพันทางอารมณ์คอยติดตามฉันตลอดมา

[Chorus]
Oh, I’m living in a no man’s land
โอ้ ฉันกำลังรู้สึกเหมือนว่าอยู่ในพื้นที่รกร้างว่างเปล่า
Nowhere land, no place left to go
ติดอยู่กับที่จนมุมและไม่สามารถค้นหาเส้นทางที่ชัดเจนไปข้างหน้าได้
When I’m running from myself
เมื่อฉันพยายามหลีกหนีจากปัญหาความขัดแย้งภายในของตัวเอง
I’m holding on to hope
ฉันยึดมั่นในความหวังที่จะได้ผลลัพธ์ในแง่บวก
But struggling to cope
แต่ก็ยังต้องดิ้นรนเพื่อรับมือกับความท้าทายนั้น
And there’s places I can’t leave
และสภาวะทางอารมณ์ที่ฉันยังไม่สามารถหลุดออกไปได้
When they’re leaving a mark on me
ในเมื่อประสบการณ์เหล่านั้นได้ทิ้งร่องรอยไว้ในจิตใจของฉัน
So I’m living in a no man’s land
ดังนั้นฉันจึงกำลังรู้สึกเหมือนว่าอยู่ในพื้นที่รกร้างว่างเปล่า
Everywhere I go, I’m running from myself
ปัญหาความขัดแย้งภายในตามไปทุกที่แม้ว่าฉันพยายามจะหลีกหนี

[Verse 2]
Right age, wrong crowd
ตอนอยู่ในวัยที่เหมาะสมแต่กลับถูกรายล้อมไปด้วยกลุ่มคนที่ไม่เหมาะสม
Blamed it all on my hometown
ไปตำหนิทุกอย่างเกี่ยวกับสถานที่บ้านเกิดและคนที่นั่น
But it wasn’t them
แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่เป็นเพราะบ้านเกิด
They never let me down
สถานที่และผู้คนไม่เคยทำให้ฉันผิดหวัง
No, it was me
ไม่เลย แต่ความรับผิดชอบอยู่ที่ตัวฉันเอง
I drank, I smoked
ฉันทั้งดื่มละสูบบุหรี่
I held it in until I choked
ฉันระงับอารมณ์และข้อกังวลของตัวเองจนท่วมท้นแทบสำลัก
Still, these roots are wrapped around my feet
ประสบการณ์ในอดีตได้ฝังแน่นอย่างลึกซึ้งยังคงเป็นสิ่งรั้งฉันจนทุกวันนี้

[Chorus]
Oh, I’m living in a no man’s land
โอ้ ฉันกำลังรู้สึกเหมือนว่าอยู่ในพื้นที่รกร้างว่างเปล่า
Nowhere land, no place left to go
ติดอยู่กับที่จนมุมและไม่สามารถค้นหาเส้นทางที่ชัดเจนไปข้างหน้าได้
When I’m running from myself
เมื่อฉันพยายามหลีกหนีจากปัญหาความขัดแย้งภายในของตัวเอง
I’m holding on to hope
ฉันยึดมั่นในความหวังที่จะได้ผลลัพธ์ในแง่บวก
But struggling to cope
แต่ก็ยังต้องดิ้นรนเพื่อรับมือกับความท้าทายนั้น
And there’s places I can’t leave
และสภาวะทางอารมณ์ที่ฉันยังไม่สามารถหลุดออกไปได้
When they’re leaving a mark on me
ในเมื่อประสบการณ์เหล่านั้นได้ทิ้งร่องรอยไว้ในจิตใจของฉัน
So I’m living in a no man’s land
ดังนั้นฉันจึงกำลังรู้สึกเหมือนว่าอยู่ในพื้นที่รกร้างว่างเปล่า
Everywhere I go, I’m running from myself
ปัญหาความขัดแย้งภายในตามไปทุกที่แม้ว่าฉันพยายามจะหลีกหนี

[Outro]
(I’m living in a no man’s land)
(ฉันกำลังรู้สึกเหมือนว่าอยู่ในพื้นที่รกร้างว่างเปล่า)
(I’m living in a no man’s land)
(ฉันกำลังรู้สึกเหมือนว่าอยู่ในพื้นที่รกร้างว่างเปล่า)
And there’s places I can’t leave
กับสภาวะทางอารมณ์ที่ฉันยังไม่สามารถหลุดออกไปได้
When they’re leaving a mark on me
ในเมื่อประสบการณ์เหล่านั้นได้ทิ้งร่องรอยไว้ในจิตใจของฉัน
So I’m living in a no man’s land
ดังนั้นฉันจึงกำลังรู้สึกเหมือนว่าอยู่ในพื้นที่รกร้างว่างเปล่า
Everywhere I go, I’m running from myself
ปัญหาความขัดแย้งภายในตามไปทุกที่แม้ว่าฉันพยายามจะหลีกหนี

กลับหน้ารวมเพลง –