เรียนต่อสวิส ข้อมูลและระบบการศึกษา สำหรับผู้ที่สนใจ เรียนต่อสวิส แนะนำข้อมูลค่าใช้จ่ายในการกินอยู่สวิตเซอร์แลนด์ การเรียนต่อ การสมัครเรียน ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา จนถึงระดับอุดมศึกษา ก่อนอื่นเรามารู้จักประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่ถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีคุณภาพของคนและการใช้ชีวิตที่ดีติดอันดับโลก

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศที่อยู่ใจกลางทวีปยุโรป และเป็นประเทศที่มีภูมิทัศน์สวยงาม  เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการโรงแรมในยุโรป ด้วยสภาพแวดล้อม และความเป็นอยู่ที่มีคุณภาพติดอันดับต้น ๆ ของโลก จึงทำให้คนไทยส่วนใหญ่นิยมไป เรียนต่อสวิส ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรการโรงแรม หรือหลักสูตรในระดับมหาวิทยาลัยก็ตาม

อัพเดทข้อมูลสถานการณ์ COVID-19 ดูได้ที่ www.swissinfo.ch

ทำไมถึงเลือกเรียนต่อสวิส?

ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีมหาวิทยาลัยรัฐบาล 12 แห่ง ซึ่งเปิดโอกาสให้ทั้งนักเรียนในประเทศและนักเรียนต่างชาติเข้าสมัคร เรียนต่อประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงสถาบันเทคโนโลยีชั้นนำทางด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์อีก 2 แห่ง โดยในแต่ละมหาวิทยาลัยไม่เพียงแต่จะให้การเรียนการสอนที่หลากหลายสาขา แต่ยังเป็นผู้นำทางด้านการวิจัย ซึ่งจะเห็นได้จากนักวิทยาศาสตร์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์มักจะมีการทำวิจัยที่มีชื่อเสียงในระดับโลก และมีการอ้างถึงงานวิจัยของพวกเขาเหล่านี้ในจำนวนมาก ดังนี้การทำวิจัยในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกจึงถือว่าเป็นพื้นฐานสำคัญของมหาวิทยาลัยในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อผลิตบัณฑิตที่ดีสู่ตลาดทางการศึกษาต่อไป

  1. มีคุณภาพการศึกษาสูง
  2. เป็นผู้นำทางด้านวิจัยระดับโลก
  3. มีโปรแกรมให้เลือกหลากหลาย
  4. โปรแกรมป.โทส่วนใหญ่จะมีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ
  5. มีอัตรานักเรียนต่อคณะที่ต่ำ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในการเรียนเป็นกลุ่มเล็ก ๆ
  6. มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย
  7. ประชาชนในประเทศมีคุณภาพชีวิตที่ดีระดับโลกทั้งทางด้านที่อยู่อาศัย, การเรียนและการทำงาน

เรียนต่อสวิส

ปัจจัยหลักสำหรับนักศึกษาไทยในการไปเรียนต่อสวิส คือ คุณภาพการศึกษา และคุณภาพการใช้ชีวิต จริงหรือไม่?

เนื่องจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไม่มีทรัพยากรทางธรรมชาติ การศึกษาและแหล่งการเรียนรู้จึงการเป็นทรัพยากรสำคัญ ดังนั้น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์จึงถูกกล่าวถึงว่ามีระบบการศึกษาที่ดีแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว เนื่องจากรัฐแต่ละรัฐมีหน้าที่รับผิดชอบในการบริการทางศึกษา ระดับอนุบาล มัธยมศึกษา มหาวิทยาลัย ทำให้การศึกษานี้อาจจะแตกต่างกันในระหว่างรัฐ บุคลากรที่อยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จึงถือได้ว่าเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพสูง

ถ้าหากดูกันที่อันดับโลกของมหาวิทยาลัยแล้ว Top Ranking University ของโลก ถ้าไม่นับมหาวิทยาลัยจากสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร ถือได้ว่า มหาวิทยาลัยในสวิตเซอร์แลนด์ อย่าง ETH Zurich และ EFPL Lausanne เป็นมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับระดับโลก โดยในปัจจุบันตาม QS Ranking 2016-2017 ได้จัดอันดับให้ ETH Zurich อยู่ในอันดับที่ 8 ของโลก และ EFPL Lausanne อยู่ในอันดับที่ 14 ของโลก ซึ่งสำหรับนักวิจัยแล้ว รู้กันดีว่าสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอีกประเทศหนึ่งที่สนับสนุนงานวิจัย งานสัมมนาทางวิชาการ ในระดับโลกอยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังให้ทุนการศึกษาสำหรับผู้ที่ไปศึกษาวิจัย และผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกอีกด้วย

นอกจากนี้ การเรียนในสาขาที่นักศึกษาไทยนิยมเรียนกัน อย่าง การโรงแรมและการท่องเที่ยว พบว่า มี 6 สถาบันการโรงแรมในสวิตเซอร์แลนด์นั้น ติด Top 20 ของโลก ได้แก่ Ecole hôtelière de Lausanne, Les Roches International School of Hotel Management, Swiss Hotel Management School, HTMi – Hotel and Tourism Management Institute Switzerland, IMI – International Management Institute Switzerland และ Gilon Institute of Higher Education

และถึงแม้ว่า สวิตเซอร์แลนด์ จะมี Top Ranking University ถึง 2 แห่ง และมี Top Ranking ทางด้านการโรงแรมอยู่ถึง 6 แห่ง แต่ก็ยังคงรักษามาตรฐานคุณภาพการศึกษาของสถาบันอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดีทีเดียว หากดูตามการจัดอันดับตามสถิติค่ากลาง (Median) ของแต่ละประเทศในยุโรป โดย The Times Higher Education แล้ว จะพบว่าสวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีค่ากลางของคุณภาพการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างสูง นั่นแสดงให้เห็นว่า การรักษามาตรฐานการศึกษาในระดับอุดมศึกษาของสวิตเซอร์แลนด์นั้นมีคุณภาพ และน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก

สำหรับปัจจัยในเรื่องของคุณภาพการใช้ชีวิต สวิตเซอร์แลนด์นั้น ติดอันดับ Top 10 ประเทศที่มีคุณภาพชีวิตสูงในระดับโลกอย่างต่อเนื่องมานานหลายปี ด้วยคุณภาพของคนที่ใช้ชีวิตยึดถือตามกฎระเบียบของประเทศ และแบบแผนของการดำเนินชีวิตในแบบของชาวสวิส อีกทั้งการสร้างระบบการคมนาคมสาธารณะที่ทั่วถึง ทั้งทางรถไฟ เครื่องบิน รถราง (Tram) รถประจำทาง เป็นต้น นอกจากนี้สภาพแวดล้อมของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ยังคงพื้นที่สีเขียวไว้ได้อย่างมากอีกด้วย

 

การเรียนต่อในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา 

ด้วยคุณภาพการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพและความปลอดภัยในระดับสูง ซึ่งเป็นปัจจัยแรกสำหรับผู้ปกครองในการส่งนักเรียนเข้ามาเรียนในสวิตเซอร์แลนด์ โดยเฉพาะตั้งแต่ในระดับประถมศึกษา หรือในระดับมัธยมศึกษา นอกจากความปลอดภัยที่ทางผู้ปกครองสามารถวางใจได้แล้ว การสื่อสารภาษาที่สามยังเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ สวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีภาษาที่ใช้ในการสื่อสารถึง 4 ภาษา แยกตามภูมิภาค ทั้ง ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาเยอรมัน, ภาษาอิตาเลียน และภาษาโรมานซ์ ซึ่งเหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนต่อภาษาที่ 3, 4 หรือ 5 เพิ่มเติม อีกทั้งยังเป็นเส้นทางในการเข้าสู่มหาวิทยาลัยในยุโรปทั้งในสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส หรือการไปเรียนต่อในประเทศสหรัฐอเมริกา หรือในสหราชอาณาจักร เองก็สามารถทำได้เช่นกัน

สำหรับการ เรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์ ในระดับประถมและมัธยมนั้น >> กฎระเบียบของโรงเรียนประจำในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ – หากผู้ปกครองท่านใดเคยได้สัมผัส หรือได้เห็นการเรียนการโรงแรมในสวิตเซอร์แลนด์แล้ว ที่จำเป็นต้องใส่แบบฟอร์มอยู่ตลอดเวลา การเรียนในระดับมัธยมในโรงเรียนประจำของสวิสดั้งเดิมเอง ก็ยังคงยึดถือ Swiss Standard เช่นเดียวกัน สิ่งสำคัญของการเรียนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ใช่ในเรื่องของการศึกษาเพียงอย่างเดียว แต่ทางโรงเรียนเอง ยังเตรียมพร้อมให้นักเรียนทุกคน สามารถออกไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีระเบียบแบบแผนและมีคุณภาพ

ข้อมูลอื่น ๆ ที่น่าสนใจของสวิส

เมืองสำคัญ

Geneva

 เป็นเมืองหลวงของรัฐเจนีวา ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของประเทศ ติดกับประเทศฝรั่งเศสและทะเลสาบเลมอง (Lac Leman หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อว่าทะเลสาบเจนีวา) เจนีวาเป็นเมืองสำคัญที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองว่าเป็นเมืองนานาชาติ เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติหลายแห่ง อาทิเช่น สหประชาชาติ (UN), สภากาชาดสากล (ICRC), องค์การอนามัยโลก (WHO), องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO), ข้าหลวงใหญ่ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UN High Commission for Refugees), องค์กรเพื่อการวิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรป (CERN) และยังเป็นสถานที่ในการจัดการประชุม World Economic Forum (WEF) อีกด้วย

คนส่วนใหญ่จะรู้จักว่าเมืองเจนีวาเป็นเมืองแห่งนาฬิกา โดยในแต่ละปีจะมีงานจัดแสดงนาฬิกาที่มีชื่อเสียงระดับโลก (International Salon for Prestige Watchmaking) เมืองเจนีวายังมีสนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของประเทศ ซึ่งจะเชื่อมโดยตรงกับรถไฟที่สามารถเดินทางไปปารีสและมิลานได้

Zurich

เป็นเมืองหลวงของรัฐซูริค ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นทั้งศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรม เมืองซูริคได้กลายเมืองที่ผู้คนต้องการที่จะไปอยู่อาศัย ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์, โรงภาพยนตร์และฮอลล์สำหรับการแสดงดนตรี แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งบาร์, ไนท์คลับและดิสโก้มากกว่า 500 แห่ง นอกจากนี้ Bahnhofstrasse ยังเป็นหนึ่งในถนนช็อบปิ้งที่มีชื่อเสียงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ในเมืองซูริคยังมีมหาวิทยาลัยของรัฐ (Zurich University) และ ETHZ ซึ่งเป็นสถาบันเทคโนโลยีแห่งชาติที่มีชื่อเสียง ซึ่งในช่วงเวลาปี 1975 ถึง 2002 มีผู้รับรางวัลโนเบลทางด้านวิทยาศาสตร์จากที่นี่ถึง 7 คนด้วยกัน

ในส่วนของสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะอยู่ในเมือง Kloten ใกล้ ๆ กับเมืองซูริค นอกจากนี้เมืองนี้ยังเป็นศูนย์กลางของการเดินทางโดยรถไฟ และซูริคยังได้รับยกย่องว่าเป็นเมืองหลวงที่มีการจัดการทางด้านจราจรดีที่สุดในโลกอีกด้วย

 Lausanne

เป็นเมืองหลวงของรัฐโว (Vaud) ตั้งอยู่ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งทะเลสาบเจนี มีธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงาม เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศและเป็นศูนย์กลางทางด้านการบริหารและเศรษฐกิจทางตะวันตกของประเทศนอกจากเมืองเจนีวา

เมืองนี้ยังเป็นสถานที่ตั้งของ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) และยังมีองค์กรนานาชาติทางด้านกีฬาตั้งอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นกีฬาประเภท ปิงปอง, วอลเลย์บอล, เบสบอล, กีฬาฟันดาบ, มวยปล้ำ, ว่ายน้ำ, ยิงธนูกีฬาทางอากาศ และกีฬาประเภทขว้างจักร และยังเป็นที่ตั้งของสถาบันเทคโนโลยี 1 ใน 2 ของประเทศ (EPFL) อีกด้วย

ซางกัลเลิน (St Gallen)

ตั้งอยู่ระหว่างหุบเขา 2 ลูก เมืองซางกัลเลินเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาคตะวันออกของประเทศ ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมสิ่งทอตั้งแต่คริสศตวรรษที่ 15 และกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทั้งการทอผ้าลินินและการเย็บผ้า

ลูเซิร์น (Lucerne)

เป็นเมืองศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศสวิตเซอร์แลนด์  เศรษฐกิจในมืองนี้ขึ้นอยู่กับการค้าและการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับการบริการอาทิเช่น การขนส่ง, บริการด้านสุขภาพและการให้คำปรึกษา

อากาศในสวิตเซอร์แลนด์

ภูมิอากาศสวิตเซอร์แลนด์ (เมืองซูริค) 

  • ตอนเช้า                    5   องศาเซลเซียส
  • ตอนกลางวัน           7   องศาเซลเซียส
  • ตอนกลางคืน          0    องศาเซลเซียส

 

zurich-300x206

ทางตอนเหนือและตะวันออกของประเทศ (Basel, Luzern, St. Gall, Zurich)ช่วงฤดูหนาวจะค่อนข้างหนาวในขณะที่ช่วงฤดูร้อนอากาศจะอบอุ่น โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นภูเขาทางแถบตะวันออกอุณหภูมิจะลดต่ำลงมากและหลาย ๆภูเขาจะถูกปกคลุมด้วยหิมะ

 

bern-300x206

ทางตะวันตกของประเทศ (Bern, Fribourg, Geneva, Lausanne, Neuchatel) ที่ราบสูงฝั่งตะวันตกจะมีอากาศอบอุ่น โดยอุณหภูมิในช่วงฤดูร้อนจะไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส และในช่วงฤดูหนาก็จะไม่ต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส

 

lugano-300x206

 

ทางตอนใต้ของประเทศ (Lugano) รัฐทิชิโน (Ticino) ซึ่งเป็นรัฐทางตอนใต้ของเทือกเขาแอลป์ จะมีวันที่แดดจัดถึง 298 วันใน 1 ปี และอุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนกรกฎาคมจะมากกว่า 26 องศาเซลเซียส

สกุลเงินที่ใช้กันในสวิตเซอร์แลนด์

สวิสฟรังก์ (Swiss Francs) “CHF” มีทั้งธนบัตร ใบละ 10, 20, 50, 100, 200, และ 1,000 เหรียญ หน่วยเป็นซองตีมส์ (Centimes) 5, 10, 20

ความแตกต่างทางเวลา

โดยทั่วไปเวลาที่สวิตเซอร์แลนด์ช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง ยกเว้นในช่วงเวลา Daylight Saving time คือจะนับจากวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม ไปจนถึงวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคมของในแต่ละปี ช่วงนี้เวลาที่สวิตเซอร์แลนด์จะช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง